นางมาลี โชคล้ำเลิศ อธิบดีกรมทรัพย์สินทางปัญญา เปิดเผยว่า ในช่วงไตรมาสแรกของปี 2558 (มกราคม – มีนาคม 2558) กรมทรัพย์สินทางปัญญาได้รับคำยื่นขอจดทะเบียนเครื่องหมายการค้ารวม ๑๒,๑๙๘ คำขอ เพิ่มขึ้นจากช่วงเวลาเดียวกันของปีที่แล้ว ร้อยละ 35.9 โดยในช่วงเวลาเดียวกันในปี 2557 กรมทรัพย์สินทางปัญญาได้รับคำยื่นขอจดทะเบียนเครื่องหมายการค้าเพียง 8,971 คำขอ ทั้งนี้ สาเหตุสำคัญอาจเป็นเพราะผลกระทบทางการเมืองในปี 2557 ที่มีการปิดสถานที่ราชการ ทำให้ผู้ที่ต้องการยื่นคำขอจดทะเบียนได้รับความลำบากในการเดินทาง ขณะเดียวกันก็สืบเนื่องมาจากผู้ประกอบการมองเห็นโอกาสในการพัฒนาสินค้าและบริการใหม่ๆ การสร้างแบรนด์ใหม่ที่สอดคล้องกับนโยบายของรัฐบาลที่กระตุ้นให้ผู้ประกอบการเน้นการผลิตสินค้าและบริการที่เน้นนวัตกรรมและการสร้างความแตกต่างจึงทำให้กรมทรัพย์สินทางปัญญาได้รับคำขอยื่นจดทะเบียนเครื่องหมายการค้าในไตรมาสแรกของปี 2558สูงกว่าปี 2557โดยเป็นคำขอยื่นจดทะเบียนของไทย 7,508 คำขอ และคำขอยื่นจดทะเบียนของต่างประเทศ 4,690 คำขอ อยู่ในสัดส่วน 60 : 40
สำหรับสถิติการรับจดทะเบียนเครื่องหมายการค้าในไตรมาสแรกของปี 2558อยู่ที่ 4,835 รายการโดยระยะเวลาที่ใช้ในการจดทะเบียนเครื่องหมายการค้า ในกรณีที่ไม่มีการคัดค้าน จะอยู่ที่ประมาณ 9 เดือนเนื่องจากจะต้องผ่านกระบวนการตรวจสอบกับฐานข้อมูลของกรมทรัพย์สินทางปัญญาว่าเหมือนคล้ายกับเครื่องหมายการค้าที่ได้รับการจดทะเบียนแล้วหรือไม่ รวมถึงการประกาศโฆษณาเปิดให้ผู้สนใจได้เข้ามาตรวจสอบและคัดค้านได้ตามกฎหมาย
สำหรับประเภทของสินค้ามีผู้มาจดทะเบียนเครื่องหมายการค้าของไตรมาสแรกของปี 2558 ได้แก่ อันดับ 1 จำพวก 3 (สินค้าจำพวกวัสดุที่ใช้ในการซักฟอก ซักรีด เครื่องสำอาง เครื่องหอม สิ่งที่เตรียมขึ้นสำหรับใช้ในการทำความสะอาด) อันดับ ๒ จำพวก ๒๕ (เสื้อผ้าเครื่องหนัง รองเท้า ) อันดับ ๓ จำพวก ๓๐ (ข้าว ชา กาแฟ แป้ง น้ำตาล ขนมหวานฯ) อันดับ ๔ จำพวก ๙ (เครื่องใช้ไฟฟ้า
และเครื่องมือ) และอันดับ ๕ จำพวก ๕ (สิ่งที่เตรียมขึ้นใช้ในการรักษาโรคและรักษาสัตว์ สิ่งที่เตรียมขึ้นเพื่อรักษาสุขภาพอนามัยใช้ในทางการแพทย์) เป็นต้น
ที่มา – กรมทรัพย์สินทางปัญญา