นาย จอห์น ชอง ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร เมย์แบงก์ กิมเอ็ง กรุ๊ป กล่าวว่า การพัฒนาที่ผ่านมาในภูมิภาคลุ่มน้ำโขงรวมถึงการค้าระหว่างประเทศที่เพิ่มขึ้นส่วนหนึ่งเกิดจากการเคลื่อนย้ายการลงทุนและแรงงาน ทำให้กิจกรรมทางเศรษฐกิจเพิ่มมากขึ้น เขากล่าวว่า "GMS มีการเจริญเติบโตอย่างรวดเร็ว ประเทศไทยได้ประโยชน์จากการเข้าไปในภูมิภาคนี้แล้ว และส่งผลดีต่อการเติบโตของประเทศอย่างต่อเนื่อง“
ในปี 2557 เม็ดเงินรวมของการส่งออกไปยังประเทศกัมพูชา ลาว พม่าและเวียดนาม (CLMV) มีมูลค่าถึง 21 พันล้านเหรียญสหรัฐ หรือ เติบโตร้อยละ 13.7ต่อปี และประเทศไทยได้มีการลงทุนในภูมิภาคนี้อย่างต่อเนื่องตั้งแต่ปี 2553 ในปี 2557 การลงทุนของประเทศไทยภายในกลุ่มประเทศ CLMV สูงถึง 7 พันล้านเหรียญสหรัฐ เติบโตโดยเฉลี่ย ร้อยละ 33 ต่อปี ตั้งแต่ปี 2543 และคาดว่าจะมีการลงทุนที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ประเทศจีน อินเดีย และประเทศอื่น ๆ ในภูมิภาคก็เริ่มที่จะมองและให้ความสำคัญไปที่ GMS ในฐานะเป้าหมายและศูนย์กลางการลงทุนที่สำคัญ โดยระดับของความสนใจในการลงทุนได้เพิ่มมากขึ้นเป็นอย่างมากหลังจากการเปิดตัวทางเศรษฐกิจของประเทศพม่า
เพื่อแสดงให้เห็นศักยภาพทางเศรษฐกิจของ GMS ในปีที่ผ่านมากลุ่มผู้นำของประเทศในกลุ่ม GMS ได้เห็นชอบแผนพัฒนาเศรษฐกิจของ GMS ระยะยาว 5 ปี ซึ่งมีมูลค่าการลงทุนอยู่ที่ 3 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐเพื่อพัฒนาเศรษฐกิจ โดยเงินลงทุนส่วนใหญ่จะนำไปใช้ในการปรับปรุงระบบคมนาคมขนส่ง เพื่ออำนวยความสะดวกในการขนส่งสินค้าและให้บริการ โดยโครงการลงทุนขนาดใหญ่โครงการหนึ่งของภูมิภาคก็คือ การลงทุนในโครงการขนส่งทางรถไฟมูลค่า 1 หมื่นสามพันล้านเหรียญสหรัฐ เพื่อเพิ่มกิจกรรมการซื้อขายในภูมิภาค โดยการเชื่อมโยงศูนย์กลางเศรษฐกิจที่สำคัญใน ASEAN เช่น ประเทศไทย จีน สิงคโปร์ และมาเลเซียเข้ากับภูมิภาค GMS
โครงการนี้จะก่อให้เกิดผลประโยชน์ที่สำคัญที่สามารถวัดได้ให้แก่ประเทศไทย โดยการเชื่อมโยงศูนย์กลางทางเศรษฐกิจที่สำคัญภายในประเทศรวมถึงการช่วยเพิ่มกิจกรรมทางการค้าระหว่างประเทศ
นาย. จอห์น ชอง กล่าวเสริมว่า "บริษัทไทยหลายบริษัทรวมถึงบริษัทที่มาร่วมงาน Invest ASEAN Thailand 2015 ในวันนี้ ได้เข้ามาดำเนินธุรกิจใน CLMV มาช่วงระยะเวลาหนึ่งแล้ว การเติบโตทางเศรษฐกิจใน GMS และการเพิ่มขึ้นของรายได้ของประชากรจะส่งผลดีต่อบริษัทเหล่านี้ สำหรับบริษัทในกลุ่มอาเซียนที่ต้องการ ค้นหาโอกาสทางธุรกิจในภูมิภาค GMS โดยประเทศไทยสามารถเป็นตัวเชื่อมที่จะเข้าไปลงทุนในภูมิภาคนี้. " เมย์แบงก์ กิมเอ็ง จึงกระตุ้นให้นักลงทุนเริ่มลงทุนในประเทศไทย เพื่อเป็นทางผ่านไปสู่โอกาสในการลงทุนในภูมิภาค GMS และเพื่อให้ข้อมูลเกี่ยวกับโอกาสในการลงทุนใน ASEAN เมย์แบงก์ ได้จัดประชุมสัมมนาโอกาสการลงทุนในภูมิภาค ASEAN ในหลายๆ ประเทศในภูมิภาคนี้ในช่วงที่ผ่านมา โดยเริ่มจากการจัดงาน CAP 10 Invest ASEAN ที่กรุงกัวลาลัมเปอร์ในเดือน กุมภาพันธ์ ต่อด้วยการจัดงานที่สิงคโปร์ในเดือนมีนาคม ที่เวียดนามในเดือนเมษายน และ ในวันนี้ที่ประเทศไทย Invest ASEAN Thailand ซึ่งใช้ชื่อหัวข้องานว่า “Thailand : Gateway to the GMS” ได้จัดขึ้นที่ โรงแรมอนันตรา สยาม กรุงเทพ มีผู้สนใจเข้าร่วมงาน 400 คนจาก 8 ประเทศ 30 บริษัทเอกชน (โดย 21 บริษัทจากประเทศไทย 4 บริษัทจากประเทศมาเลเซีย 2 บริษัท จากประเทศฟิลิปปินส์ 1 บริษัทจากสิงคโปร์และ 2 บริษัท จากประเทศเวียดนาม) โดยมีมูลค่ารวมประมาณ 108,000 ล้านเหรียญสหรัฐ รวมถึง 50 กองทุนทั่วเอเชียซึ่งมีทรัพย์สินภายใต้การบริหารรวมทั้งสิ้น 4.2 ล้านล้านเหรียญสหรัฐ
โดยงาน Invest Asean ครั้งต่อไปจะจัดขึ้นที่ประเทศฟิลิปปินส์ ประเทศมาเลเซีย และครั้งสุดท้ายในปีนี้จะจัดที่ประเทศอินโดนีเซีย การประชุมทั้งหมดจะมุ่งเน้นไปที่โอกาสในการลงทุนในภูมิภาค ASEAN โดยหัวข้อในการสัมมนาอาจจะมีการปรับให้เข้ากับโอกาสในการลงทุนของแต่ละประเทศ
ความเป็นผู้นำของเมย์แบงก์ กิมเอ็ง ในประเทศไทย เมย์แบงก์ กิมเอ็ง เป็นบริษัทในเครือของเมย์แบงก์ อินเวสเม้น แบงก์ (Maybank Investment Bank) เป็นบริษัทหลักทรัพย์อันดับหนึ่งในประเทศไทยมาเป็นเวลา 13 ปีติดต่อกัน มีสาขา 57 สาขา และพนักงานมากกว่า 1,100 คน ขณะที่ เมย์แบงก์ กิมเอ็ง ยังเป็นผู้นำตลาดในธุรกิจซื้อขายหลักทรัพย์สำหรับนักลงทุนรายย่อย แต่ขณะเดียวกัน บริษัทก็สร้างช่องทางจากการที่บริษัทมีความสัมพันธ์ที่ดีกับนักลงทุนในระดับโลก เพื่อสร้างความแข็งแกร่งในด้านนายหน้าธุรกิจหลักทรัพย์กับนักลงทุนสถาบัน ความแข็งแกร่งของบริษัทจะเห็นได้จากการได้รับรางวัลทีมนักวิเคราะห์ยอดเยียม โดยงานวิจัยของบริษัทครอบคลุมการวิเคราะห์หลักทรัพย์ใน 22 อุตสาหกรรม หรือประมาณร้อยละ 80 ของมูลค่าตลาดรวม เมย์แบงก์ กิมเอ็ง ยังคงมุ่งเพิ่มส่วนแบ่งการตลาดของตลาดสัญญาซื้อขายล่วงหน้า บริษัทมีส่วนแบ่งการตลาดเป็นลำดับที่ 6 จากจำนวนสมาชิกทั้งหมด 46 บริษัท ณ ไตรมาส1 ปี2558 บริษัทมีส่วนแบ่งการตลาด5.50% และมีเป้าหมายที่จะเพิ่มส่วนแบ่งการตลาดเป็นอันดับที่ 3 ในอีกสองปีข้างหน้า
ด้านวานิชธนกิจ และการเป็นที่ปรึกษาทางการเงิน เมย์แบงก์ กิมเอ็ง ได้รับการยอมรับมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง ในปี 2557 ได้รับการจัดอันดับหนึ่ง โดย Dealogic Thailand ECM league table บริษัทเป็นที่ปรึกษาทางการเงิน และผู้จัดการการจัดจำหน่ายหลักทรัพย์สำหรับการระดมทุนในการจัดตั้งกอง REIT กองแรกของประเทศไทย (Impact Growth REIT) โดยมีมูลค่าการเสนอขายถึง 490.90 ล้านเหรียญสหรัฐ อีกทั้งการเสนอขายหุ้นของ บริษัท เกษตรไทย อินเตอร์เนชั่นแนล ชูการ์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) มูลค่า 297.4ล้านเหรียญสหรัฐ ซึ่งเป็น IPO ใหญ่เป็นอันดับ 3 ของปี 2557ในปีนี้ บริษัท ได้เป็นที่ปรึกษาทางการเงินและผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจัดจำหน่ายหุ้น IPO บริษัท เดอะ แพลทินัม กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) ซึ่งมีมูลค่า 5,180 ล้านบาท และเป็นผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจัดจำหน่ายร่วม หุ้น IPO ของ บริษัท โกลบอล เพาเวอร์ ซินเนอร์ยี่ จำกัด (มหาชน) โดยมี มูลค่าเสนอขายรวม 1 หมื่นล้านบาท
นาย.จอห์น ชอง กล่าวเสริม “ในฐานะที่วานิชธนกิจระดับภูมิภาค ซึ่งมีการดำเนินธุรกิจทั่วภูมิภาค ASEAN รวมถึงมีการดำเนินธุรกิจในภูมิภาคอื่นๆทั่วโลก เราสามารถให้มุมมองทั้งในระดับท้องถิ่นและระดับภูมิภาค ครอบคลุมทุกอุตสาหกรรม ในหลายประเทศสามารถเพิ่มมูลค่าได้ ซึ่งเราให้กับบริษัทในประเทศไทย คือการที่เรามีนักลงทุนทั้งในระดับภูมิภาค และระดับโลก ตลอดจนความสามารถของเราที่จะทำหน้าที่เสมือนเป็นตัวเชื่อมระหว่างบริษัทในประเทศไทย บริษัทใน GMS บริษัทใน ASEAN และในระดับโลก
ปี 2557 เป็นปีแห่งความสำเร็จของเมย์แบงก์ กิมเอ็ง โดยบริษัทได้รับการจัดอันดับหนึ่ง ของ Dealogic ASEAN League Table สำหรับธุรกรรมในตลาดทุน (Equity Capital Market) เป็นอันดับสองของ Bloomberg’s ASEAN Domestic Bonds League สำหรับธุรกรรมตลาดตราสารหนี้ เป็นอันดับ 3 ของ Bloomberg’s ASEAN Loans Bookrunner League Table สำหรับการให้สินเชื่อธนาคารพาณิชย์ และยังคงติด 1 ใน 3 ในตลาดผลิตภัณฑ์ Sukuk ของ Global Sukuk Market เมย์แบงก์ กิมเอ็งยังคง รักษาตำแหน่งโบรกเกอร์อันดับหนึ่งเป็นปีที่สองอย่างต่อเนื่องในด้านมูลค่าการซื้อขาย ในปี 2558 เมย์แบงก์ กิมเอ็ง ได้รับรางวัล Best Broker of Thailand จาก FinanceAsia นอกจากนั้น ยังได้รับรางวัล “Best Retail Broker of Thailand 2558” “Best Broker in Southeast Asia’”’ และ ”Best Equity House of Thailand 2558” โดย Alpha Southeast Asia