โดยมีวิทยากรจากประเทศสมาชิกอาเซียน จำนวน 10 ประเทศ ประกอบด้วย บรูไน กัมพูชา อินโดนีเซีย ลาว มาเลเซีย พม่า ฟิลิปปินส์ สิงคโปร์ ไทย และเวียดนาม มาให้ความรู้ ความเข้าใจและแลกเปลี่ยนเรียนรู้ด้านดนตรีและนาฏศิลป์ โดยในโอกาสมหามงคลที่สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ ทรงเจริญพระชนมายุครบ 60 พรรษา จึงได้จัดให้มีการแสดงดนตรีและนาฏศิลป์อาเซียน ในบทเพลงพระราชนิพนธ์ “ส้มตำ” การแสดงชุดที่ 5 ของ “การแสดงดนตรีไทยโดยครูอาวุโสแห่งรัตนโกสินทร์”ในวันที่ 19 มิถุนายน ศกนี้ ณ หอประชุมใหญ่ ศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย ด้วย
“มุ่งหวังว่าการประชุมเชิงปฏิบัติการในครั้งนี้ จะสามารถช่วยพัฒนาความรู้และทักษะแก่ครูดนตรีและนาฏศิลป์ได้ และนำความรู้ไปพัฒนาเยาวชนให้เกิดความรู้ ความเข้าใจในประชาคมอาเซียนได้อย่างมีประสิทธิภาพต่อไป” นางฉวีรัตน์ กล่าว
ด้าน รองศาสตราจารย์อรวรรณ บรรจงศิลป นายยกสมาคมครูดนตรี(ประเทศไทย) กล่าวว่า การจัดประชุมในครั้งนี้ มุ่งหมายเพื่อพัฒนาความรู้ ทักษะและเจตคติแก่ครูดนตรี-นาฏศิลป์ของไทย ให้มีความพร้อมสำหรับการเข้าร่วมประชาคมอาเซียน อันจะช่วยให้ครูดนตรีมีความเข้าใจในศิลปวัฒนธรรมและวิถีชีวิตของสังคมประเทศสมาชิก และให้มีการนำความรู้ ทักษะและความเข้าใจไปถ่ายทอดแก่เด็กและเยาวชนไทย ให้เกิดเจตคติที่ดี มีความเข้าใจต่อประเทศเพื่อนบ้าน ซึ่งในปีมหามงคลนี้ ถือเป็นการจัดครั้งที่ 3 แล้ว ที่ได้รับการสนับสนุนด้วยดีจากกรมส่งเสริมวัฒนธรรม คณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน(สพฐ.) และหน่วยงานต่างๆที่ให้ความร่วมมือ นอกจากครูดนตรี-นาฏศิลป์จะได้รับความรู้ และทักษะที่ถูกต้อง การได้มีโอกาสแสดงดนตรีในบทเพลงพระราชนิพนธ์ ยังเป็นการเผยแพร่พระอัจฉริยะทางดนตรีของ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯสยามบรมราชกุมารี แก่ชาวประชาคมอาเซียนด้วย
ในครั้งนี้ มีครูสอนดนตรีและนาฏศิลป์ สังกัดโรงเรียนในกรุงเทพมหานคร และสำนักงานการศึกษาขั้นพื้นฐานโรงเรียนสังกัดองค์การปกครองส่วนท้องถิ่น โรงเรียนดนตรีเอกชน รวมถึงอาจารย์ผู้สอนระดับ อุดมศึกษา เข้าร่วม 240 คน แบ่งเป็น ครูดนตรี 80 คน ครูนาฏศิลป์ 160 คน ร่วมกันอภิปราย สาธิตความคล้ายและความต่างของดนตรีและนาฏศิลป์ในกลุ่มประเทศอาเซียน การฝึกปฏิบัติเครื่องดนตรีและนาฏศิลป์ โดยมุ่งหวังจะนำความรู้ที่ได้ไปเผยแพร่อันจะช่วยเสริมสร้างสัมพันธภาพอันดีต่อประชาคมอาเซียน ต่อไป