"การวางแผนการขยายสาขาในเชิงรุกของร้านมารุกาเมะ เซเมง สะท้อนให้เห็นถึงความสำเร็จที่บริษัทได้รับนับตั้งแต่เข้ามาเปิดตลาดในกรุงเทพครั้งแรกเมื่อปี 2555 และเพื่อให้การขยายสาขาใหม่ๆ สามารถทำได้รวดเร็วมากขึ้น กลุ่มบริษัทบูทิคและบริษัท โทริดอลล์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด ซึ่งจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ประเทศญี่ปุ่น ได้ตัดสินใจเข้าร่วมเป็นพันธมิตรทางธุรกิจ ในปี 2556 และปัจจุบันมีทุนจดทะเบียน 290 ล้านบาท" นายปรับ ทักราล กรรมการผู้จัดการ กลุ่มบริษัทบูทิค กล่าว
นายปรับ กล่าวต่อว่า ปัจจุบันบริษัทมีร้านอุด้ง "มารุกาเมะ เซเมง" รวมทั้งหมด 24 สาขาทั่วประเทศ โดยมีอัตราการเปิดร้านใหม่ 1.5 ร้านต่อเดือน สาขาล่าสุดที่เพิ่งเปิดบริการไปคือที่ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ และศูนย์การค้าเซ็นทรัลแจ้งวัฒนะ โดยบริษัทตั้งเป้าที่จะมีร้านอาหารอุด้ง "มารุกาเมะ เซเมง" มากกว่า 30 สาขาภายในสิ้นปีนี้ ซึ่งการที่บริษัทมีการขยายธุรกิจเติบโตอย่างรวดเร็วเนื่องส่วนหนึ่งมาจากการที่อาหารญี่ปุ่นเป็นอาหารที่ได้รับความนิยมสูงมากในกลุ่มลูกค้าคนไทย นอกจากนี้บริษัทยังได้รับการตอบรับที่ดีจากลูกค้าชาวไทย และลูกค้าก็มองว่าร้านมารุกาเมะ เซเมงเป็นร้านอาหารที่เป็นจิตวิญญาณของอาหารญี่ปุ่นอย่างแท้จริง
"เราเปิดตัวร้านมารุกาเมะ เซเมง โดยวางตำแหน่งให้เป็นร้านอาหารอุด้งที่มีคุณภาพสูง และสดใหม่ นับตั้งแต่ปี 2555 ที่เราแนะนำแบรนด์นี้ให้คนไทยได้รู้จักกันครั้งแรก เราก็ได้กลายมาเป็นผู้นำในกลุ่มอาหารประเภทอุด้ง หากดูจากภาพรวมตลาดในปี 2558 แล้ว ธุรกิจเชนร้านอาหารยังคงเฟื่องฟูและเติบโตในอัตราที่สูงกว่าธุรกิจร้านอาหารทั้งหมด โดยคาดว่าธุรกิจเชนร้านอาหารในปีนี้จะมีมูลค่าตลาดรวมทั้งหมด 108พันล้านบาท หรือเติบโต 7-9% จากปี 2557 ขณะที่ธุรกิจร้านอาหารทั่วไปจะเติบโตไม่มากนักที่อัตรา 3-6% ด้วยมูลค่าตลาด 270 พันล้านบาท ซึ่งเมื่อดูการเติบโตรวมกันทั้งตลาด ทำให้คาดการณ์ว่าธุรกิจร้านอาหารในประเทศไทยปีนี้จะโตราว 4-7% ด้วยมูลค่าตลาดรวมทั้งสิ้น 380 พันล้านบาท ทั้งนี้เรายินดีที่จะแจ้งให้ทราบว่าเรายังคงครองความเป็นผู้นำในตลาดร้านอาหารอุด้ง เนื่องจากคู่แข่งในเซกเมนต์นี้มีจำนวนร้านคิดเป็น1 ใน 4 ของสาขาที่เรามีทั้งหมด ซึ่งที่ประเทศญี่ปุ่น "มารุกาเมะ เซเมง" ก็เป็นผู้นำตลาดในกลุ่มร้านอาหารอุด้งเช่นกัน โดยมีรายได้ทั้งหมดสูงกว่าคู่แข่งถึง 4 เท่า เราพอใจเป็นอย่างมากกับส่วนแบ่งตลาดที่มากกว่า 60% ในเซกเมนต์นี้ และยังหวังที่จะเพิ่มส่วนแบ่งตลาดให้มากยิ่งขึ้นไปอีก โดยปัจจัยสำคัญที่จะช่วยให้เราประสบความสำเร็จมากยิ่งขึ้นคือการร่วมเป็นพันธมิตรกับห้างสรรพสินค้าชั้นนำของเมืองไทย" นายปรับ กล่าวเพิ่มเติม
ทั้งนี้กลุ่มบริษัทบูทิค เป็นผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ โดยเน้นการลงทุนด้านเซอร์วิสเรสซิเดนซ์และโรงแรมที่มีคุณภาพสูงในตลาดระดับกลาง ปัจจุบันบริษัทบริหารโครงการอสังหาริมทรัพย์หลายแบรนด์ เช่น Citadines, Oakwood?, OZO และ Hyatt Place บริษัทยังได้ขยายการลงทุนใปสู่ธุรกิจคอมมูนิติ้ มอลล์ ด้วยการพัฒนาโครงการ Rain Hill ซึ่งเป็นคอมมูนิตี้ มอลล์ ตั้งอยู่ที่สุขุมวิท 47 ซึ่งเคยได้รับรางวัลในกลุ่มคอมมูนิตี้ มอลล์มาแล้ว นอกจากนี้ยังมีการพัฒนาโครงการและทรีท๊อปส์ คอนโดมิเนียม พัทยา ขนาด 252 ยูนิต
"บริษัท โทริดอลล์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด ได้เปิดร้านอาหาร "มารุกาเมะ เซเมง" ครั้งแรกที่ประเทศญี่ปุ่นในปี 2543 และได้ขยายธุรกิจจนมีถึง 900 สาขาทั่วโลก ปัจจุบันบริษัทได้หันมาให้ความสำคัญกับการขยายธุรกิจของมารุกาเมะ เซเมง ในตลาดต่างประเทศมากขึ้น โดยมารุกาเมะ เซเมงมีให้บริการใน 12 ประเทศทั่วโลก รวมถึงประเทศไทยด้วย ซึ่งไทยถือได้ว่าเป็นตลาดที่มีผลประกอบการเป็นที่น่าพึงพอใจในลำดับต้นๆ ของกลุ่มประเทศอาเซียนนอกเหนือไปจากประเทศอินโดนีเซียและไต้หวัน ทั้งนี้ตลาดประเทศไทยยังคงเป็นตลาดหลักในกลุ่มประเทศอาเซียนที่บริษัทให้ความสำคัญ โดยมีปัจจัยสนับสนุนการเติบโตที่สำคัญคือความนิยมรับประทานอาหารญี่ปุ่นที่ยังคงเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ และการขยายการเติบโตของห้างสรรพสินค้าใหม่ๆ ทั้งนี้ภายในปี 2561 โทริดอลล์ คอร์ปอเรชั่น ตั้งเป้าที่จะมีร้านอาหาร 250 สาขานอกประเทศญี่ปุ่น จากปัจจุบันที่มี 109 สาขา" นายทาคายะ อาวาตะ ประธานบริษัท โทริดอลล์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด กล่าว
ปัจจุบันบริษัท โทริดอลล์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์โตเกียว โดยมียอดขายปัจจุบันที่ 88 พันล้านเยนต่อปี (ราว 25 พันล้านบาท) ส่งผลให้โทริดอลล์ คอร์ปอเรชั่น เป็นเชนร้านอาหารขนาดใหญ่ลำดับต้นๆ ของประเทศญี่ปุ่น