นายพรชัย รุจิประภา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (ไอซีที) เปิดเผยว่า หลังจากการปรับโครงสร้างกระทรวงไอซีทีและเปลี่ยนชื่อเป็นกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม กระทรวงดิจิทัลฯ จะมีพันธกิจและบทบาทสำคัญในการขับเคลื่อนการดำเนินการตามนโยบายเศรษฐกิจดิจิทัล (Digital Economy) โดยในส่วนของสำนักงานส่งเสริมอุตสาหกรรมซอฟต์แวร์แห่งชาติ (องค์การมหาชน) หรือ SIPA หน่วยงานในสังกัดกระทรวงไอซีที ซึ่งจะต้องเปลี่ยนชื่อเป็นสำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล จะมีบทบาทสำคัญด้านการส่งเสริมการพัฒนาอุตสาหกรรมเทคโนโลยีเศรษฐกิจดิจิทัลที่มีนัยสำคัญในการนำพาประเทศไทยให้ก้าวสู่เศรษฐกิจดิจิทัล
กระทรวงไอซีที โดยคณะกรรมการเพื่อศึกษาและจัดทำภารกิจและโครงสร้างสำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัลได้กำหนดแนวทางการเตรียมความพร้อมเพื่อรองรับการจัดตั้งสำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล ตาม พ.ร.บ.การพัฒนาดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม พ.ศ. .... ซึ่งต้องมีการโอนพนักงานและลูกจ้างของ SIPA ไปเป็นพนักงานหรือลูกจ้างของสำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัลเป็นการชั่วคราว โดยได้มีการศึกษาและเสนอแนะการปรับโครงสร้างของ SIPA ให้สอดคล้องกับภารกิจและโครงสร้างของสำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัลที่จะเกิดขึ้นให้สามารถปฏิบัติงานในภารกิจสำคัญได้อย่างรวดเร็วและเป็นไปตามแผนการดำเนินงาน
ทั้งนี้ คณะกรรมการฯ ได้กำหนดระยะเวลาการดำเนินงานไว้ 6 เดือน โดยระยะแรกคือ ตั้งแต่เดือนกรกฎาคม-กันยายน 2558 จะทำการศึกษาโครงสร้างองค์กร กฎระเบียบ และจัดบุคลากรลงภายใต้โครงสร้างสำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล ระยะที่สอง เดือนกรกฎาคม-ธันวาคม 2558 จะศึกษาข้อมูลประกอบการจัดทำแผนยุทธศาสตร์เศรษฐกิจดิจิทัล และระยะที่สาม เดือนตุลาคม-ธันวาคม 2558 เป็นการปรับปรุงและพัฒนาเพิ่มเติม
“หลังการปรับเปลี่ยนโครงสร้างเป็นกระทรวงดิจิทัลฯ บทบาทและหน้าที่ความรับผิดชอบจะกว้างมากขึ้น โดยเฉพาะการบูรณาการงานร่วมกับกระทรวงอื่นๆ ซึ่งได้มีการกำหนดยุทธศาสตร์การดำเนินงาน 5 ด้าน ได้แก่ การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านกายภาพ (Hard Infrastructure) การสร้างความมั่นคงปลอดภัยและความเชื่อมั่นในการทำธุรกรรมด้วยเทคโนโลยีดิจิทัล (Soft Infrastructure) การดำเนินงานด้านโครงสร้างพื้นฐานเพื่อส่งเสริมการให้บริการ (Service Infrastructure) การกระตุ้นเศรษฐกิจด้วยเทคโนโลยีดิจิทัล (Digital Economy Promotion) และการสร้างสังคมดิจิทัลที่มีคุณภาพ (Digital Society) ในการขับเคลื่อนประเทศไทยสู่เศรษฐกิจดิจิทัล ซึ่งเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (ICT) จะเป็นปัจจัยสำคัญในการสนับสนุนให้ผู้ประกอบการเข้าถึงข้อมูลและช่วยเชื่อมโยงผู้ผลิตกับตลาดโลก โดยรัฐบาลมีเป้าหมายระยะสั้นคือ การยกระดับและพัฒนาขีดความสามารถในการแข่งขันของภาคธุรกิจไทย ส่วนในระยะยาวคือ การขยายตัวอย่างยั่งยืนของเศรษฐกิจไทย” นายพรชัยฯ กล่าว