"ดีใจที่ภาคเอกชนได้ยื่นมือเข้ามาช่วยกันแก้ปัญหาและความเดือดร้อนของคนในชุมชน เนื่องจากกลไกอำนาจของภาครัฐและส่วนราชการต่างๆ บางครั้งยังมีข้อจำกัดในเรื่องงบประมาณ การที่ทุกภาคส่วนของสังคมเร่งระดมสรรพกำลังเข้ามาให้ความช่วยเหลือ ร่วมกันพัฒนาประเทศชาติอย่างเต็มที่ โดยเฉพาะในภาคธุรกิจเอกชน อย่างเช่น "ซีพีเอฟ" นับเป็นองค์กรตัวอย่างที่ดีในการเข้ามามีส่วนร่วมพัฒนาสังคมถือเป็นการรับผิดชอบต่อสังคมสู่การพัฒนาอย่างยั่งยืนอย่างแท้จริง" นายธนนท์ พรรพีพาส นายอำเภอปะทิว จังหวัดชุมพร กล่าว
ทั้งนี้ที่ซีพีเอฟดำเนินโครงการฯ ดังกล่าวตามเจตนารมย์ประธานธนินท์ เจียรวนนท์ ประธานกรรมการและประธานคณะผู้บริหารเครือเจริญโภคภัณฑ์ ที่เห็นถึงความทุกข์ยากของผู้สูงอายุ บางรายถูกลูกหลานทอดทิ้ง บางรายต้องเผชิญโรคมะเร็งร้ายเพียงลำพังโดยไม่มีใครมาเหลียวแล ซึ่งท่านเหล่านี้ต่างเคยสร้างประโยชน์ให้บ้านเมือง จึงสมควรดูแลให้รู้สึกว่ามีคุณค่า และมีคุณภาพชีวิตที่ดีจนสิ้นลมหายใจ ซึ่งเป็นการตอบแทนคุณแผ่นดินทางหนึ่ง จึงทุ่มเงินกว่า 54 ล้านบาท เพื่อจัดสรรเป็นเบี้ยยังชีพและเครื่องอุปโภค-บริโภคช่วยเหลือผู้สูงวัยมาตั้งแต่ปี 2554 ปัจจุบันมีผู้สูงวัยเข้าร่วมโครงการ 716 คนใน 100 ชุมชนทั่วประเทศ