แบล็ค แอนด์ วิชช์ ออกแบบพัฒนาโรงไฟฟ้าก๊าซเชื้อเพลิงธรรมชาติที่เก่าแก่ที่สุด ของประเทศตุรกีให้ทันสมัย

พฤหัส ๐๒ กรกฎาคม ๒๐๑๕ ๑๑:๕๖
ทีมงานโครงการในประเทศไทยจะเป็นผู้นำในการดำเนินการเชิงเทคนิคและวิศวกรรม เพื่อพลิกโฉมโรงไฟฟ้าให้กลายเป็นหนึ่งในโรงไฟฟ้าพลังความร้อนร่วมที่มีประสิทธิภาพที่สุดในโลก

แบล็ค แอนด์ วิชช์ จะออกแบบพัฒนาโรงไฟฟ้าพลังงานความร้อนร่วมฮามิทาบัท (Hamitabat) ของประเทศตุรกี ด้วยการรวบรวมผู้เชี่ยวชาญจากทั้งในประเทศไทยและสหรัฐอเมริกา ซึ่งจะช่วยพลิกโฉมโรงไฟฟ้าพลังความร้อนร่วม โดยมีก๊าซธรรมชาติเป็นเชื้อเพลิงและกลายเป็นหนึ่งในโรงไฟฟ้าพลังความร้อนร่วมที่มีประสิทธิภาพและทันสมัยมากที่สุดแห่งหนึ่งในโลก

บริษัทผู้รับเหมา กาม่า พาวเวอร์ ซิสเต็มส์ อิงค์ หรือ กาม่า (GAMA Power Systems Inc.: GAMA) ได้มอบหมายให้แบล็ค แอนด์ วิชช์ เข้ามาทำหน้าที่ในการปรับเปลี่ยนโรงไฟฟ้าพลังงานความร้อนร่วมแบบ 2-on-1 จำนวน 4 หน่วยที่ถูกใช้งานตั้งแต่ช่วงปี พ.ศ. 2523 มาเป็นโรงไฟฟ้า พลังความร้อนร่วมแบบเพลาเดียว จำนวน 2 หน่วย ซึ่งจะใช้กังหันก๊าซของซีเมนส์ รุ่น 50 เฮิร์ตซ์ เอช คลาส (Siemens 50 Hz H-class) ล่าสุดร่วมกับระบบกังหันไอน้ำแบบใหม่ในการผลิตพลังงานรวมราว 1,200 เมกะวัตต์ (megawatts: MW) โดยการปรับเปลี่ยนจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการผลิตกระแสไฟฟ้าและช่วยลดความซับซ้อนในการเดินเครื่อง

"เทคโนโลยีดังกล่าวทำให้ประสิทธิภาพของโรงไฟฟ้าฮามิทาบัทในปัจจุบันเพิ่มสูงขึ้น จากประมาณร้อยละ 38 เป็นร้อยละ 62 ซึ่งเป็นการสร้างความยั่งยืนให้กับโรงไฟฟ้าจากการเผาไหม้เชื้อเพลิงต่อเมกะวัตต์ที่น้อยกว่า ส่งผลประโยชน์โดยตรงในด้านการเงินและสิ่งแวดล้อม" นาย จอห์น ฮิวจ์ ผู้อำนวยการโครงการธุรกิจพลังงานของแบล็ค แอนด์ วิชช์ กล่าว

แบล็ค แอนด์ วิชช์ ได้ทำการออกแบบทางด้านวิศวกรรม และการจัดทำข้อกำหนดทางดด้านเทคนิคเพื่อการจัดซื้อในระหว่างขั้นตอนการออกแบบ ซึ่งอาจรวมถึงความรับผิดชอบในส่วนวิศวกรรมที่หน้างานในระหว่างขั้นตอนการก่อสร้าง

"เราได้นำประสบการณ์และความเชี่ยวชาญเชิงลึกด้านการออกแบบโรงไฟฟ้าพลังความร้านร่วม จากทีมงานทั้งในประเทศไทยและสหรัฐอเมริกามาดำเนินการอย่างทุ่มเทในโครงการนี้" นาย ฤาชัย ละกำปั่น ผู้จัดการฝ่ายวิศวกรรม กล่าว "ราวร้อยละ70 ของพื้นที่ในประเทศไทยมาจากการผลิตก๊าซเชื้อเพลิงธรรมชาติ และวิศวกรประจำสำนักงานในกรุงเทพฯได้ทำหน้าที่พัฒนาโรงไฟฟ้าพลังงานความร้อนร่วมที่มีประสิทธิภาพและทันสมัยที่สุดในภูมิภาค"

แบล็ค แอนด์ วิชช์ เริ่มดำเนินการในประเทศไทยตั้งแต่ช่วงปี พ.ศ. 2503 มีประสบการณ์ในการดำเนินโครงการด้านพลังงานความร้อนร่วมที่มีก๊าซธรรมชาติเป็นเชื้อเพลิงหลายแห่ง ซึ่งรวมถึงโครงการที่ชนะการประกวดราคาอย่าง โรงไฟฟ้าพลังความร้อนร่วมเฟส 5 ของ บมจ โกลว์ พลังงาน (Glow Phase 5) และโครงการที่เกิดขึ้นเมื่อเร็วๆนี้ อย่างโครงการ จะนะ 2 (Chana 2) และวังน้อย 4 (Wang Noi 4) ซึ่งดำเนินการเสร็จสมบรูณ์ในปี พ.ศ. 2557 นอกจากนี้ สำนักงานในประเทศไทยยังได้มีบทบาทสำคัญในการดำเนินการโครงการพลังงานสะอาดอย่าง โครงการ โอเรกอน คลีน อีเนอร์จี้ (Oregon Clean Energy project) ในรัฐโอไฮโอ ประเทศสหรัฐอเมริกา

โครงการมีกำหนดแล้วเสร็จในช่วงครึ่งหลังของปี พ.ศ.2560

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๑๗:๒๑ 60 ปีแห่งความมุ่งมั่น! คาโอ คว้ารางวัลอุตสาหกรรมดีเด่น 2 ประเภทในปี 2567 ชูความสำเร็จด้านสิ่งแวดล้อมและความรับผิดชอบต่อสังคม
๑๗:๒๓ AVATR ก้าวสู่ความสำเร็จครั้งยิ่งใหญ่! ระดมทุนในรอบ Series C ได้มากกว่า 11,000 ล้านหยวน พร้อมก้าวสู่ความเป็นผู้นำในตลาดรถยนต์ไฟฟ้าหรูหราแห่งอนาคต
๑๗:๐๖ Zoom เปิด 10 เทรนด์ ใช้ AI ในการทำงานปี 2568
๑๗:๑๐ เปิดมุมมองอาชีพที่หลากหลายในอุตสาหกรรมกาแฟไทย เจาะลึกบทบาทและแนวทางยกระดับสู่การเติบโตอย่างยั่งยืน
๑๗:๑๔ อนาคตแห่งการเดินทาง: 5 คนขับ AI จากแอปเรียกรถ Maxim
๑๗:๕๕ Well-Being House บ้านชั้นเดียวเอาใจคนวัยเกษียณ
๑๗:๑๖ กทม. แจงเปิดกว้างการแข่งขันโครงการเช่าคอมพิวเตอร์พกพาสำหรับนักเรียน
๑๖:๓๗ รายงาน Ericsson Mobility Report ฉบับล่าสุด เผยผู้เริ่มให้บริการ 5G กลุ่มแรกกำลังมุ่งสู่โมเดลธุรกิจที่เน้นประสิทธิภาพ
๑๗:๒๕ เมดีซ กรุ๊ป ร่วมสมทบทุนสนับสนุนมูลนิธิโรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราช ช่วยผู้ป่วยในชนบท ถิ่นทุรกันดารที่ห่างไกล
๑๖:๔๔ CNN จับตา นวัตกรรมล่าสุดจากนักวิจัยไทย พลิกโฉมการตรวจคัดกรองความเครียดด้วย เหงื่อ