พลตำรวจเอก อดุลย์ กล่าวว่า ตนในฐานะรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมฯ ได้มอบหมาย ให้การเคหะแห่งชาติจัดทำโครงการพัฒนาที่อยู่อาศัยสำหรับผู้มีรายได้น้อยเพื่อลดความเหลื่อมล้ำ โดยเปิดโอกาส ให้ผู้มีรายได้น้อยสามารถเข้าถึงที่อยู่อาศัยราคาถูก ได้มาตรฐาน มีความมั่นคงในการอยู่อาศัย และมีคุณภาพชีวิตที่ดีการเคหะแห่งชาติจึงได้ดำเนินการจัดสรรโครงการที่อยู่อาศัยพร้อมขาย ภายใต้ "โครงการบ้านยั่งยืน" ไว้รองรับผู้มีรายได้น้อยที่ต้องการที่อยู่อาศัยเป็นของตนเอง ประกอบด้วย ประชาชนทั่วไป ข้าราชการและเจ้าหน้าที่ของรัฐเพื่อสร้างความเสมอภาคและการเข้าถึงบริการโครงสร้างพื้นฐานด้านที่อยู่อาศัยจากภาครัฐอย่างเท่าเทียมกันโดยจำแนกตามพื้นที่และรายได้ครอบครัว ซึ่งแบ่งออกเป็น กรุงเทพมหานครและปริมณฑลรายได้ครอบครัว อยู่ระหว่าง ๒๒,๐๐๐ – ๔๐,๐๐๐ บาท และภูมิภาครายได้ครอบครัวระหว่าง ๑๓,๐๐๐ – ๔๐,๐๐๐ บาท สำหรับโครงการบ้านยั่งยืนที่การเคหะแห่งชาติจัดเตรียมไว้ มีจำนวนทั้งสิ้น ๒๔๔ โครงการ ๑๓,๕๘๓ หน่วย ประกอบด้วย
๑)โครงการที่มีราคาขายต่ำกว่า ๓๐๐,๐๐๐ บาท ประเภทอาคารชุด ๑๗ โครงการ จำนวน ๗๓๖ หน่วย
๒)โครงการที่มีราคาขายตั้งแต่ ๓๐๐,๐๐๐ – ๔๐๐,๐๐๐ บาท ประเภทอาคารชุด และบ้านพร้อมที่ดิน ๑๑ โครงการ จำนวน ๑,๑๑๗ หน่วย
๓)โครงการที่มีราคาขายตั้งแต่ ๔๐๐,๐๐๑ – ๕๐๐,๐๐๐ บาท ประเภทอาคารชุด และบ้านพร้อมที่ดิน ๖๗ โครงการ จำนวน ๙,๐๘๘ หน่วย
๔)โครงการที่มีราคาขายมากกว่า ๕๐๐,๐๐๐ บาทขึ้นไป ประเภทอาคารชุดและบ้านพร้อมที่ดิน ๑๔๖ โครงการ จำนวน ๒,๖๔๒ หน่วย
ทั้งนี้โครงการบ้านยั่งยืน ตามนโยบายของรัฐบาลนั้นการเคหะแห่งชาติ จะเปิดให้ประชาชนสามารถจองโครงการได้ ตั้งแต่วันที่ ๒๘ สิงหาคม – ๖ กันยายน ๒๕๕๘ที่สำนักงานใหญ่ การเคหะแห่งชาติ โดยราคาขาย เริ่มต้นที่ ๒๓๐,๐๐๐ บาท และวางเงินจองเพียง ๑,๐๐๐ บาทต่อหน่วย
พลตำรวจเอก อดุลย์ กล่าวต่อไปว่า สำหรับการลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมโครงการบ้านเอื้ออาทรนครชัยศรี(ท่าตำหนัก) ครั้งนี้ เป็นการลงพื้นที่เพื่อเยี่ยมชมรูปแบบการพัฒนาที่อยู่อาศัยให้กับประชาชนผู้มีรายได้น้อย ของการเคหะแห่งชาติ ซึ่งเป็นการแก้ปัญหาด้านที่อยู่อาศัยให้กับประชาชนได้อย่างถูกต้อง ทั้งนี้ ความต้องการทางด้านที่อยู่อาศัยของประชาชนผู้มีรายได้น้อย ยังมีอยู่เป็นจำนวนมาก การเคหะแห่งชาติต้องเร่งดำเนินการให้ทันตาม ความต้องการของประชาชน โดยขอให้ผู้บริหาร เจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานทุกคน ทำงานด้วยความตั้งใจที่จะช่วยเหลือประชาชนให้มีที่อยู่อาศัยเป็นของตนเอง ยึดมั่นในหลักธรรมาภิบาล ตั้งมั่นในความโปร่งใส ยึดถือประโยชน์ ของประชาชนเป็นที่ตั้ง ดำเนินการก่อสร้างโครงการให้เหมาะสมกับความไว้วางใจที่ได้รับจากประชาชนร่วมกันพัฒนาสังคมและประเทศชาติ ต่อไป
"โครงการบ้านยั่งยืน จะสามารถบรรเทาปัญหาการขาดแคลนที่อยู่อาศัยของประชาชนได้เป็นอย่างดี กระทรวงการพัฒนาสังคมฯ คาดว่าประชาชนผู้มีรายได้น้อยจะมีที่อยู่อาศัยได้มาตรฐานในราคาที่สามารถรับภาระได้ และย้ายเข้าอยู่อาศัยแล้ว ตนขอให้การเคหะแห่งชาติมุ่งดูแลคุณภาพชีวิตของชาวชุมชน และร่วมกันพัฒนา อย่างครบวงจร ทั้งด้านสังคม เศรษฐกิจและสิ่งแวดล้อม เพื่อให้ชาวชุมชนอยู่ในชุมชนที่ดีอย่างมีความสุข"พลตำรวจเอก อดุลย์ กล่าวท้าย