นางสาวประภา ปูรณโชติ กรรมการผู้จัดการ บลจ. เอ็มเอฟซี จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า เอ็มเอฟซีเสนอขายกองทุนเปิดเอ็มเอฟซี อินเตอร์เนชั่นแนล ออยล์ 33 ซีรี่ส์ 1 หรือกองทุนเปิด I-OIL33S1 มีนโยบายลงทุนในหน่วยลงทุนของกองทุน United States Oil Fund LP ("USO") ที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ NYSE Arca บริหารจัดการโดย United States Commodity Funds, LLC โดยกองทุนเปิด I-OIL33S1 จะลงทุนในกองทุน USO โดยเฉลี่ยในรอบบัญชีไม่เกินร้อยละ 80 ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุน โดยตั้งเป้าหมายเพื่อเลิกกองทุน ไม่น้อยกว่าร้อยละ 6 ภายใน 5 เดือน กองทุนมีการป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศตามสภาวการณ์
ทั้งนี้กองทุน USO ลงทุนในสัญญาฟิวเจอร์ที่อ้างอิงกับราคาน้ำมันดิบคุณภาพดี น้ำมันดิบประเภทอื่น ดีเซลหุงต้ม น้ำมันเชื้อเพลิง ก๊าซธรรมชาติ และเชื้อเพลิงปิโตรเลียมอื่นๆ ที่มีการซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ NYMEX, ICE Futures Exchange หรือตลาดหลักทรัพย์อื่นในอเมริกาและต่างประเทศ โดยมีวัตถุประสงค์การลงทุนเพื่อให้อัตราการเปลี่ยนแปลงรายวันของมูลค่าสุทธิของหน่วยลงทุนสะท้อนอัตราการเปลี่ยนแปลงรายวันของราคาน้ำมันดิบคุณภาพดี ซึ่งวัดจากการเปลี่ยนแปลงของดัชนีอ้างอิง Benchmark Oil Futures Contract
จากข้อมูลของสายบริหารกองทุนของเอ็มเอฟซี มองว่ามีปัจจัยบวกต่อราคาน้ำมันในครึ่งปีหลังคือ ปริมาณสต๊อกน้ำมันดิบสหรัฐที่ทำระดับสูงสุดในช่วงไตรมาสแรกของปีนี้ เนื่องจากกิจกรรมเศรษฐกิจของสหรัฐที่ชะลอตัวนั้น กำลังปรับตัวลงต่อเนื่องสู่ระดับ 463 ล้านบาร์เรล แต่ Demand น้ำมันไม่ได้ลดลง ดังนั้นถ้าความกังวลด้าน Supply หมดไป ราคาน้ำมันมีโอกาสกลับไปสู่ระดับเดิมได้ สำหรับปัจจัยกระทบราคาน้ำมันในช่วงสั้น ได้แก่ การที่ซาอุดิอาระเบียจะยังคงผลิตและส่งออกน้ำมันดิบในระดับสูงเพื่อรักษาส่วนแบ่งการตลาดต่อไปหรือไม่ ซึ่งเดือนเมษายนซาอุดิอาระเบียผลิตน้ำมันดิบสูงสุดเป็นประวัติการณ์ 10.36 ล้านบาร์เรลต่อวัน และปริมาณน้ำมันที่ส่งออกเพิ่มขึ้นเป็น 7.9 ล้านบาร์เรลต่อวันสูงสุดในรอบสิบปี ทั้งนี้การประชุม OPEC ในเดือนมิถุนายนมีมติคงระดับตามเดิมเพื่อรักษาส่วนแบ่งการตลาดที่ระดับ 30 ล้านบาร์เรลต่อไป ปัญหาวิกฤตหนี้กรีซที่ไม่มีข้อสรุปจะส่งผลกดดันราคาน้ำมันต่อไป และอิหร่านคาดว่าอาจส่งออกน้ำมันเพิ่มราว 1 ล้านบาร์เรลต่อวันหากได้รับการยกเลิกคว่ำบาตรจากประเทศตะวันตก อย่างไรก็ตาม WTI (West Texas Intermediate) ปรับตัวลงมากว่า -12% จากระดับ $60 มาที่ $52 ซึ่งได้ priced in ความกังวลดังกล่าวไปแล้ว
สำหรับกองทุนเปิด I-OIL33S1 จะรับซื้อคืนหน่วยลงทุนอัตโนมัติให้ผู้ถือหน่วยลงทุน 2 ครั้งภายใน 5 เดือนแรก โดยครั้งแรกเมื่อมูลค่าหน่วยลงทุนไม่ต่ำกว่า 10.35 บาทขึ้นไป บริษัทจะรับซื้อคืนหน่วยลงทุนอัตโนมัติเข้ากองทุนเปิด MM-GOV ไม่ต่ำกว่าหน่วยลงทุนละ 0.30 บาท และครั้งที่สองเมื่อกองทุนมีมูลค่าหน่วยลงทุน 10.70 บาทขึ้นไปเป็นเวลา 3 วันทำการติดต่อกันและทรัพย์สินเป็นเงินสดทั้งหมดในสกุลเงินบาท บริษัทจะรับซื้อคืนหน่วยลงทุนอัตโนมัติเข้ากองทุนเปิด MM-GOV ไม่ต่ำกว่าหน่วยลงทุนละ 10.60 บาท และบริษัทจะเลิกโครงการกองทุนดังกล่าว ทั้งนี้หากกองทุนเข้าเงื่อนไขรับซื้อคืนหน่วยลงทุนอัตโนมัติครั้งที่สองโดยยังไม่ได้รับซื้อคืนหน่วยลงทุนครั้งแรก กองทุนจะรับซื้อคืนหน่วยลงทุนเพียงครั้งเดียว แต่หากเกิน 5 เดือน กองทุนจะเปิดให้ผู้ถือหน่วยลงทุนสามารถซื้อขายหน่วยลงทุนได้ทุกวันทำการ และกองทุนยังคงตั้งเป้าหมายเพื่อเลิกกองทุน ร้อยละ 6 ต่อไป
กองทุนเปิด I-OIL33S1 เหมาะสำหรับนักลงทุนที่ต้องการโอกาสของผลตอบแทนที่ดีจากการลงทุนในหน่วยลงทุนของกองทุนรวมต่างประเทศซึ่งมีนโยบายลงทุนในสัญญาฟิวเจอร์สที่อ้างอิงกับราคาน้ำมันดิบคุณภาพดี โดยสามารถรับความเสี่ยงจากการลงทุนในต่างประเทศ รวมทั้งมีความรู้ความเข้าใจถึงปัจจัยที่มีผลกระทบต่อเศรษฐกิจและการลงทุนในต่างประเทศ
ผู้สนใจสามารถลงทุนขั้นต่ำได้ตั้งแต่ 10,000 บาท และติดต่อขอรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับนโยบายการลงทุน ความเสี่ยง ของกองทุนหรือหนังสือชี้ชวนได้ที่บลจ. เอ็มเอฟซี จำกัด (มหาชน) โทรศัพท์ 0-2649-2000 ติดต่อฝ่ายวางแผนการลงทุน กด 2 หรือ Contact Center กด 0 หรือที่ www.mfcfund.com หรือสาขาเซ็นทรัลแจ้งวัฒนะ โทร. 02-835-3055-57 สาขาขอนแก่น โทร.043-204-014 สาขาเชียงใหม่ โทร. 053-288-955 สาขาภูเก็ต โทร.076-307-070 และสาขาเซ็นทรัลพลาซา ระยอง โทร. 038-942-960-64