กรีซได้ยื่นเรื่องเพื่อขอรับเงินกู้ระยะ 3 ปีจากทางกองทุน ESM
ระวังแรงเทขายที่แนวต้านบริเวณ 1,165-1,170 ดอลลาร์/ออนซ์
- หลังจากที่ปรับตัวลงแรงทำจุดต่ำสุดในรอบ 4 เดือนที่ 1,147 ดอลลาร์/ออนซ์ ราคาทองคำเริ่มฟื้นตัวขึ้นโดยยืนเหนือ 1,160 ดอลลาร์/ออนซ์ในการซื้อขายช่วงกลางคืนที่ผ่านมา แต่ปิดตลาดเริ่มมีแรงเทขายออกมา เงินดอลลาร์ที่อ่อนค่าลงเนื่องจากแรงเทขายทำกำไร สถานการณ์กรีซที่ตึงเครียดลดลงและการเปิดเผยรายงานการประชุมธนาคารกลางสหรัฐ (FOMC) ครั้งล่าสุดส่งสัญญาณว่าเฟดอาจจะเลื่อนการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยล่าช้าออกไป
- เมื่อคืนที่ผ่านมาสหรัฐเปิดเผยรายงานการประชุมธนาคารกลางสหรัฐ (FOMC) ครั้งล่าสุดวันที่ 16-17 มิ.ย.ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่เฟดต้องการจะเห็นสัญญาณมากยิ่งขึ้นที่บ่งชี้ว่าเศรษฐกิจสหรัฐทวีความแข็งแกร่ง ก่อนที่เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย โดยเจ้าหน้าที่เฟดได้แสดงความกังวลเกี่ยวกับความเสี่ยงในต่างประเทศ และระบุว่า เศรษฐกิจสหรัฐมีการขยายตัวปานกลางเท่านั้น
- สถานการณ์กรีซตึงเครียดลดลงหลังจากที่กรีซได้ยื่นเรื่องอย่างเป็นทางการเพื่อขอรับเงินกู้ระยะ 3 ปีจากทางกองทุนกลไกรักษาเสถียรภาพยุโรป (ESM) แล้ว พร้อมกับยืนยันที่จะดำเนินการตามเงื่อนไขบางประการที่เจ้าหนี้เรียกร้องในข้อตกลงให้ความช่วยเหลือ นอกจากนี้รัฐบาลกรีซสามารถระดมทุนได้ 1.625 พันล้านยูโรจากการประมูลพันธบัตรรัฐบาลเมื่อวานนี้ ซึ่งการจำหน่ายพันธบัตรนับเป็นครั้งแรกหลังจากที่โครงการช่วยเหลือทางการเงินของยูโรโซนต่อกรีซได้หมดอายุลงในวันที่ 30 มิ.ย.
- ราคาทองคำมีแนวโน้มฟื้นตัว หลังจากที่ไม่ได้ทำจุดต่ำสุดใหม่เมื่อวานนี้ ขณะที่ทองคำเผชิญกับแนวต้านที่บริเวณ 1,165-1,170 ดอลลาร์/ออนซ์ ทั้งนี้หากราคาทองคำยังไม่สามารถกลับขึ้นไปยืนเหนือแนวต้านบริเวณ 1,175 ดอลลาร์/ออนซ์ได้ยังคงต้องระวังแรงขายที่คาดว่าอาจมีกลับออกมาโดยมีแนวรับที่บริเวณ 1,147-1,150 ดอลลาร์/ออนซ์ ถ้าหลุดแนวรับดังกล่าวจะทำให้ราคาทองคำมีแนวรับถัดไปที่ 1,142 ดอลลาร์/ออนซ์ซึ่งเป็นจุดต่ำสุดของราคาทองคำในปีนี้