กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ จัดงานประกวดเส้นไหม ผ้าไหมตรานกยูงพระราชทาน และผลิตภัณฑ์หม่อนไหม ประจำปี 2558 เพื่อนำเสนอผลงานด้านภูมิปัญญาการผลิตไหมไทยให้ได้รับการเชิดชู

จันทร์ ๑๓ กรกฎาคม ๒๐๑๕ ๑๗:๓๑
นายอำนวย ปะติเส รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยภายหลังเป็นประธานในพิธีเปิดงานประกวดเส้นไหม ผ้าไหมตรานกยูงพระราชทาน และผลิตภัณฑ์หม่อนไหม ประจำปี 2558 ณ ศูนย์ราชการเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา 5 ธันวาคม 2550 (อาคาร B) ถนนแจ้งวัฒนะ กรุงเทพฯ ว่า กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ โดยกรมหม่อนไหม จัดให้มีการประกวดเส้นไหม ผ้าไหมตรานกยูงพระราชทาน และผลิตภัณฑ์หม่อนไหมขึ้นเป็นประจำทุกปี ซึ่งในปีนี้จัดขึ้นในระหว่างวันที่ 13 - 14 กรกฎาคม 2558 ณ ศูนย์ราชการเฉลิมพระเกียรติฯ (อาคาร B) ถนนแจ้งวัฒนะ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อเป็นการนำเสนอผลงานด้านภูมิปัญญาการผลิตไหมไทยให้ได้รับการเชิดชู เพื่อเป็นแบบอย่างที่ดีและเป็นแหล่งเรียนรู้ศึกษาดูงานให้กับบุคคลและชุมชนอื่น ๆ ทั่วประเทศ อีกทั้งเพื่อเป็นการยกย่องเชิดชู เยาวชน บุคคล ชุมชน และหมู่บ้านที่ผลิตผลงานคุณภาพและสามารถรักษาวิถีการผลิตเส้นไหม และการทอผ้าไหมให้อยู่คู่ชุมชนอย่างเข้มแข็ง

ซึ่งการประกวดเส้นไหม ผ้าไหมไทยตรานกยูงพระราชทาน และผลิตภัณฑ์หม่อนไหม ประจำปี 2558 ได้แบ่งประเภทการประกวดออกเป็นทั้งสิ้น 29 ประเภท ประกอบด้วย 1) การประกวดเส้นไหมไทยพื้นบ้าน จำนวน 6 ประเภท 2) การประกวดผ้าไหมตรานกยูงพระราชทาน จำนวน 16 ประเภท 3) การประกวดผลิตภัณฑ์จากผ้าไหม / รังไหม จำนวน 4 ประเภท 4) การประกวดออกแบบชุดผ้าไหม จำนวน 2 ประเภท และ 5) การประกวดผลิตภัณฑ์จากหม่อน จำนวน 1 ประเภท

"ผ้าไหมไทยเป็นสินค้าที่มีชื่อเสียงทั้งในด้านความสวยงามและความเอกลักษณ์ การผลิตผ้าไหมไทยเป็นภูมิปัญญาที่สืบต่อกันมาจากบรรพบุรุษ ควรค่าแก่การอนุรักษ์ไว้เพื่อเป็นมรดกทางวัฒนธรรมให้คงอยู่คู่กับประเทศไทย และเผยแพร่ให้ทั่วโลกรู้จักถึงคุณค่าของผ้าไหมไทย ซึ่งการจัดให้มีการประกวดเส้นไหม ผ้าไหมตรานกยูงพระราชทานและผลิตภัณฑ์หม่อนไหมในครั้งนี้ นอกจากจะเป็นการสร้างขวัญกำลังใจแก่ผู้ที่ผลิตงานที่มีคุณภาพแล้ว ยังช่วยกระตุ้นให้เกษตรกร เยาวชนคนรุ่นใหม่ และประชาชนทั่วไป มีความตื่นตัวในการร่วมกันสืบทอดมรดกทางวัฒนธรรมและภูมิปัญญาท้องถิ่นเกี่ยวกับการผลิตผ้าไหมที่เป็นเอกลักษณ์ของแต่ละท้องถิ่น ตระหนักถึงคุณค่าของไหมไทย เกิดความภูมิใจในการนำผ้าไหมไทยมาใช้ในชีวิตประจำวัน ส่งผลให้ตลาดผ้าไหมไทยขยายตัวมากยิ่งขึ้น เกษตรกรผู้ปลูกหม่อนเลี้ยงไหมมีรายได้เพียงพอสำหรับเลี้ยงตนเองและครอบครัว ทำให้อาชีพการปลูกหม่อนเลี้ยงไหม และการทอผ้าไหม คงอยู่คู่กับประเทศไทยต่อไป" นายอำนวย กล่าว

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๑๗:๑๒ ฉลองเทศกาลตรุษจีนปีงูเล็ก ที่โรงแรมดุสิตธานี กระบี่ บีช รีสอร์ท
๑๗:๐๐ IMPACT เผยปี 68 ข่าวดี! โครงการ Sky Entrance รถไฟฟ้าสายสีชมพูมาตามนัด หนุนทราฟฟิคแน่น - จับมือพาร์ทเนอร์
๑๗:๕๒ อิมแพ็ค เมืองทองธานี ร่วมกับ มูลนิธิเพื่อสิ่งแวดล้อมและสังคม สนับสนุนโครงการ กู้วิกฤตและอนุรักษ์พะยูน ครั้งที่ 2
๑๗:๕๘ แสนสิริ เจ้าตลาดคอนโดแคมปัส อวดโฉม ดีคอนโด วิวิด รังสิต คอนโดใหม่ตรงข้าม ม.กรุงเทพ
๑๖:๔๓ เอ็นไอเอ - สสส. ดึงนิวเจน สรรค์สร้างนวัตกรรมส่งเสริมสุขภาพ ในแคมเปญ The Health Promotion INNOVATION PLAYGROUND
๑๗:๕๘ กรมวิทย์ฯ บริการ เร่งพัฒนาระบบ e-Learning ยกระดับการเรียนรู้ด้านวิทยาศาสตร์ทั่วประเทศ
๑๖:๕๘ เขตจตุจักรกวดขันคนไร้บ้านเชิงสะพานข้ามคลองบางซื่อ สร้างพื้นที่ปลอดภัยสำหรับทุกคน
๑๗:๑๗ เขตพระนครประสานกรมเจ้าท่า-เอกชน เร่งปรับปรุงภูมิทัศน์ท่าเรือสุพรรณเดิม
๑๗:๔๐ กทม. กำชับเจ้าของอาคารตรวจสอบโครงสร้างบันไดเลื่อน เพิ่มความปลอดภัยประชาชน
๑๖:๓๗ แลกเก่าเพื่อโลกใหม่ ช้อปคุ้ม พร้อมลดหย่อนภาษี! 'เปลี่ยนของเก่าเป็นความคุ้ม' ผ่าน Easy E-Receipt ได้ที่โฮมโปร เมกาโฮม