ดร.สันติ กีระนันทน์ รองผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า บมจ. บางกอกแร้นช์ (BR) จะเข้าจดทะเบียนและเริ่มซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ฯ ในวันที่ 15 กรกฎาคม 2558 โดยเป็นบริษัทแรกที่เข้าจดทะเบียนในกลุ่มเกษตรและอุตสาหกรรมอาหาร หมวดอาหารและเครื่องดื่มในปีนี้ โดย BR ดำเนินธุรกิจผลิตอาหารจากเนื้อเป็ดแบบครบวงจร โดยมี 5 ธุรกิจหลัก ได้แก่ ธุรกิจอาหารสัตว์ ธุรกิจฟาร์มพ่อแม่พันธุ์เป็ด ธุรกิจโรงฟักไข่เป็ด ธุรกิจฟาร์มเลี้ยงเป็ดเนื้อ และธุรกิจโรงงานชำแหละและแปรรูปเนื้อเป็ด เป็นผลิตภัณฑ์อาหารแปรรูปพร้อมปรุงและอาหารแปรรูปปรุงสุกจากเนื้อเป็ด โดยมีฐานการผลิตแบบครบวงจรทั้งในประเทศไทยและประเทศเนเธอร์แลนด์ BR ยังเป็นหนึ่งในผู้ผลิตผลิตภัณฑ์เนื้อเป็ดรายใหญ่ในประเทศ และมีการส่งออกผลิตภัณฑ์ไปยัง 20 ประเทศทั่วโลก ซึ่งปัจจุบันอุตสาหกรรมส่งออกอาหารของไทยมีอัตราการเติบโตที่ดี โดยการส่งเสริมจากภาครัฐที่มีนโยบายผลักดันให้ประเทศไทยเป็นครัวของโลก BR มีทุนชำระแล้ว 4,567.23 ล้านบาท มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 5 บาท ประกอบด้วยหุ้นสามัญเดิม 685.45 ล้านหุ้น และหุ้นสามัญเพิ่มทุน 228.00 ล้านหุ้น โดยเสนอขายหุ้นเดิม 132.4 ล้านหุ้นและหุ้นเพิ่มทุนทั้งจำนวนต่อประชาชนทั่วไป (IPO) เมื่อวันที่ 3-8กรกฎาคม 2558 ในราคาหุ้นละ 8.80 บาท มูลค่าระดมทุน 2,006.40 ล้านบาท ด้วยมูลค่าหลักทรัพย์ ณ ราคา IPO 8,038.32 ล้านบาท โดยมีธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) เป็นที่ปรึกษาทางการเงิน บริษัทหลักทรัพย์ ไทยพาณิชย์ จำกัด และบริษัทหลักทรัพย์บัวหลวง จำกัด (มหาชน) เป็นแกนนำการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่าย
นายโจเซฟ สุเชาว์วณิช ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ. บางกอกแร้นช์ (BR) เปิดเผยว่า การนำหุ้นสามัญของบริษัทเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ ครั้งนี้ จะช่วยเสริมให้ธุรกิจมีความแข็งแกร่งทางด้านการเงินมากขึ้น โดยจะนำเงินที่ได้ไปขยายธุรกิจโรงงานชำแหละและแปรรูปอาหารจากเนื้อเป็ด ลงทุนในเครื่องจักร ขยายธุรกิจฟาร์มเนื้อเป็ดของบริษัท และชำระเงินกู้ เพื่อการเติบโตที่ยั่งยื่นของบริษัทต่อไป
BR มีผู้ถือหุ้นใหญ่ 3 ลำดับแรกหลัง IPO ได้แก่ กลุ่มผู้บริหารและผู้ก่อตั้งบริษัทฯ 27.30% Black River Capital Partners Food Fund Holdings (Singapore) Pte. Ltd. 9.67% และธนาคาร กรุงเทพ จำกัด (มหาชน) 6.48% ทั้งนี้ การกำหนดราคา IPO ทำโดยวิธี book building ที่ช่วงราคา 8.4 - 9.0 บาทต่อหุ้น และได้กำหนดราคาเสนอขายที่ 8.80 บาท คิดเป็นอัตราส่วนราคาต่อกำไรสุทธิต่อหุ้น (P/E ratio) 12.39 เท่า โดยคำนวณจากกำไรสุทธิ 4 ไตรมาสล่าสุด (1 เมษายน 2557 - 31 มีนาคม 2558) หารด้วยจำนวนหุ้นภายหลังการเสนอขายต่อประชาชนในครั้งนี้ (fully diluted) คิดเป็นกำไรสุทธิต่อหุ้นเท่ากับ 0.71 บาท ทั้งนี้ บริษัทมีนโยบายการจ่ายเงินปันผลในอัตรา 50% ของกำไรสุทธิ ภายหลังการหักภาษีเงินได้นิติบุคคล และเงินสำรองตามที่กฎหมายกำหนด
ผู้ลงทุนและผู้สนใจ โปรดดูรายละเอียดจากหนังสือชี้ชวนของบริษัทที่เว็บไซต์ของสำนักงาน ก.ล.ต. ที่ www.sec.or.th และข้อมูลทั่วไปของบริษัทที่ www.bangkokranch.co.th และที่เว็บไซต์ www.set.or.th
สื่อมวลชนสอบถามข้อมูลได้ที่ฝ่ายสื่อสารองค์กร ดาราวรรณ มาลีสี 0 2229 2798 / อารดา กุลตวนิช 0 2229 2796 / กนกวรรณ เข็มมาลัย 0 2229 2048