กรมควบคุมโรคชี้ปีนี้ไข้เลือดออกมาแรง แค่ต้นปีอัตราป่วยสูงกว่าปีที่แล้ว วอนทุกบ้านช่วยกันกำจัดลูกน้ำยุงลายทุก 5-7 วันป้องกันเองและคนที่รักให้ปลอดภัยจากไข้เลือดออก

พุธ ๑๕ กรกฎาคม ๒๐๑๕ ๑๒:๔๕
นายแพทย์โสภณ เมฆธน อธิบดีกรมควบคุมโรค เปิดเผยถึงสถานการณ์ของโรคไข้เลือดออกว่า จากรายงานการเฝ้าระวังโรคของสำนักระบาดวิทยากรมควบคุมโรคข้อมูล ณ วันที่ 7 กรกฎาคม 2558 พบจำนวนผู้ป่วยสะสม 28,577 ราย เสียชีวิต 21 ราย อัตราป่วยต่อแสนประชากรคิดเป็น43.88 ราย ในขณะที่ภาคกลางพบอัตราป่วยสะสมมากที่สุดรวม 14,675 ราย และเสียชีวิต 12 ราย อายุที่พบมากที่สุด คือ 15-24 ปี รองลงมา 10-14 ปีส่วนใหญ่เป็นกลุ่มนักเรียนถึงร้อยละ 45.7จังหวัดที่มีอัตราป่วยสูงสุด 5 อันดับ คือ ระยอง ตราด อ่างทอง เพชรบุรี และกระบี่"

เนื่องจากขณะนี้เป็นช่วงที่ประเทศไทยกำลังเข้าสู่ฤดูฝน ฝนที่ตกเป็นช่วงๆจะยิ่งเป็นการเติมน้ำในแอ่งน้ำหรือทำให้มีน้ำขังอยู่ตามเศษวัสดุ ภาชนะต่างๆ จานรองกระถางต้นไม้ ที่อาจมีไข่ยุงลายสะสมอยู่น้ำฝนที่มาเติมลงในภาชนะจะท่วมถึงไข่ยุงและแตกตัวเป็นลูกน้ำ และเป็นยุงลายตัวเต็มวัยโดยจะใช้เวลาทั้งหมด 7-10 วันก็จะยิ่งเป็นการเพิ่มปริมาณยุงลายให้มีมากขึ้น โดยคาดการณ์ว่าในปี 2558 นี้จะมีผู้ป่วยด้วยโรคไข้เลือดออกเพิ่มขึ้นเกือบ 2 เท่าจากปีที่ผ่านมา และคาดว่าช่วงเดือนกรกฎาคม-สิงหาคม จะมีผู้ป่วยมากสุดประมาณเดือนละ10,000–13,000 รายหากไม่ร่วมมือกันควบคุมอย่างเข้มแข็งปีนี้อาจจะมีผู้ป่วยด้วยโรคไข้เลือดออก 60,000–70,000 ราย จากเมื่อปี 2557 ที่ผ่านมามีผู้ป่วย 40,999 ราย

นายแพทย์โสภณ กล่าวย้ำว่า การควบคุมป้องกันโรคไข้เลือดออกให้ได้ผลจำเป็นอย่างยิ่งที่ทุกฝ่ายจะต้องร่วมมือกัน อาศัยความร่วมมือของหน่วยงานภาครัฐฯ เช่น องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ผู้นำในชุมชน ครู นักเรียน และประชาชนในพื้นที่ ช่วยกันกำจัดลูกน้ำยุงลายทุก 5-7 วัน ร่วมกันทำกิจกรรม BIG CLEANING DAY "เก็บให้เกลี้ยงไม่เลี้ยงยุงลาย" ได้แก่ 1.เก็บบ้านให้สะอาดปลอดโปร่งโล่งไม่ให้ยุงลายเกาะพัก 2.เก็บน้ำให้สนิทมิดชิดไม่ให้ยุงลายลงไปวางไข่ และ 3.เก็บขยะเศษภาชนะรอบๆบ้านและชุมชนที่จะเป็นแหล่งเพาะพันธุ์ยุงลาย โดยเน้นในพื้นที่ 6 ร. คือ 1.โรงเรือน(บ้าน/ชุมชน) 2.โรงเรียน(สถานศึกษา/สถานเลี้ยงเด็กเล็ก) 3.โรงพยาบาล 4.โรงแรม/รีสอร์ท 5.โรงงาน/กลุ่มอุตสาหกรรม และ 6.โรงธรรม (วัด/มัสยิด/โบสถ์)

"โรคไข้เลือดออกมียุงลายเป็นพาหะ สามารถเป็นได้ทั้งเด็กและผู้ใหญ่อาการของโรคไข้เลือดออก คือ มีไข้สูงเฉียบพลัน ปวดศีรษะ ปวดกระบอกตา ปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ คลื่นไส้ อาเจียน เบื่ออาหาร หน้าแดง อาจพบจุดเลือดที่ผิวหนัง มักจะไม่ไอ ไม่มีน้ำมูกเหมือนไข้หวัด หากมีอาการเหล่านี้ควรรีบไปพบแพทย์ ปัจจุบันยังไม่มียาต้านไวรัสไข้เลือดออกเป็นการรักษาตามอาการ การป้องกันตัวเองไม่ให้ถูกยุงลายกัดและกำจัดแหล่งเพาะพันธุ์ลูกน้ำยุงลาย จึงถือว่าเป็นการป้องกันไข้เลือดออกที่ได้ผลดีที่สุดหากประชาชนมีข้อสงสัยสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่สายด่วนกรมควบคุมโรค โทร 1422" นายแพทย์โสภณ กล่าวปิดท้าย

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๑๗:๐๒ ASMT ผนึก TFT ร่วมลงนามด้านวิชาการด้านอุตสาหกรรมการบิน
๑๗:๑๖ กรมวิชาการเกษตร เดินหน้า ถ่ายทอดองค์ความรู้การผลิตอะโวคาโดคุณภาพ สร้างรายได้เพิ่มให้เกษตรกรกว่า 2 แสนบาท/ไร่
๑๗:๕๕ Dow มุ่งพัฒนาประสิทธิภาพผลิตภัณฑ์ Personal Care ควบคู่ความยั่งยืน ตอบโจทย์ผู้บริโภคตลาดเครื่องสำอางในภูมิภาคเอเชีย
๑๗:๔๗ โอซีซี มอบความรู้ พัฒนาอาชีพให้ผู้ต้องขังหญิง
๑๗:๑๒ ดร.นุชนารถ ชลคงคา นำทีมสถาบัน ESTC จัดอบรมให้ Karmakamet
๑๗:๐๐ กนภ. เห็นชอบร่าง พรบ. การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ กลไกสำคัญสู่เส้นทางเศรษกิจคาร์บอนต่ำ และมีภูมิคุ้มกันฯ
๑๖:๐๐ WePlay x คอลแลบตัวละครสุดปัง! พบกับมินิเกมใหม่ และการ์ตูนสุดน่ารักที่คุณจะต้องหลงรัก
๑๖:๐๔ เดลต้า ประเทศไทย และ WEnergy Global ร่วมลงนามบันทึกข้อตกลงเพื่อขับเคลื่อนอนาคตพลังงานสีเขียว
๑๖:๔๗ ความภาคภูมิใจของ ไลอ้อน กับ 3 รางวัลแห่งเกียรติยศ เผยผลงานโดดเด่นกับหลายรางวัลที่ได้รับในปี 2567
๑๖:๐๒ NOBLE คว้าเรทติ้งสูงสุด ระดับ AAA SET ESG Ratings ประจำปี 2567 ยกระดับองค์กรสู่ความยั่งยืนภายในแนวคิด Live Different ตามกรอบ