ดร.วิศิษฐ์ องค์พิพัฒนกุล กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์ ทรีนีตี้ จำกัด เปิดเผยว่า "ทรีนีตี้ ได้ลงนามร่วมกัน (MOU) กับ บริษัท Religare Capital Markets (Religare) ซึ่งเป็นบริษัทหลักทรัพย์ในสิงคโปร์ ผู้ดำเนินธุรกิจให้บริการด้านธุรกิจหลักทรัพย์ และงานวาณิชธนกิจแบบครบวงจร โดย Religare มีความเชี่ยวชาญด้านการผลิตบทวิเคราะห์ที่มีคุณภาพ และมีฐานลูกค้าสถาบันที่ทำธุรกรรมซื้อขายหุ้นในภูมิภาคเอเชีย สำหรับด้านวาณิชธนกิจ Religare มีฐานลูกค้าอยู่ทั่วโลก และให้บริการด้านเป็นที่ปรึกษาทางการเงินระดมทุนในตลาดหลักทรัพย์ และบริหารเงินส่วนบุคคล ปัจจุบัน Religare มีสำนักงานอยู่ทั่วเอเชีย ตะวันออกกลาง ยุโรปและออสเตรเลีย"
จากการร่วมมือกันในครั้งนี้ทำให้ บล.ทรีนีตี้ มีโอกาสในการจัดทำบทวิเคราะห์ร่วมกับ Religare จัดหาข้อมูลบริษัทจดทะเบียนในประเทศไทยที่น่าสนใจ และเป็นตัวกลางประสานงานในการพานักลงทุนต่างชาติเข้าพบกับผู้บริหารของบริษัทจดทะเบียนเพื่อรับทราบข้อมูล และเยี่ยมชมกิจการของบริษัทจดทะเบียนเหล่านี้ ซึ่งอาจจะนำไปสู่การลงทุนในธุรกิจร่วมกันในอนาคต
สำหรับความร่วมมือด้านงานวาณิชธนกิจ มีแผนงานในการร่วมกันเป็นที่ปรึกษาทางการเงินในการทำDual Listing หรือการนำบริษัทจดทะเบียนประเทศไทยไปจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ต่างประเทศ รวมถึงประสานงาน และให้คำปรึกษาทางการเงินกับลูกค้าของ Religare ในประเทศสิงคโปร์ ออสเตรเลีย อินเดีย ฯลฯ ที่มีความประสงค์และสนใจจะเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ไทยอีกด้วย
ดร.วิศิษฐ์ กล่าวว่า "ผลประโยชน์ที่ทรีนีตี้จะได้รับจากความร่วมมือในครั้งนี้ จะเป็นโอกาสและช่องทางอันดีที่ทรีนีตี้จะเพิ่มปริมาณธุรกรรมการซื้อขายหลักทรัพย์ ขยายฐานลูกค้าไปสู่ฐานลูกค้าต่างประเทศ และเพิ่มช่องทางในการทำธุรกรรมด้านวาณิชธนกิจ สร้างและเพิ่มเครือข่ายลูกค้าในตลาดทุนต่างประเทศ อีกทั้งเป็นการพัฒนางานด้านวิเคราะห์หลักทรัพย์ของบริษัทให้มีชื่อเสียงและเป็นที่รู้จักของนักลงทุนต่างประเทศด้วย"
ดร.วิศิษฐ์ กล่าวเสริมว่า "ทาง Religare ให้ความไว้วางใจบล.ทรีนีตี้ โดยเล็งเห็นว่าเราเป็นบริษัทหลักทรัพย์มีประสบการณ์ในตลาดทุนมากว่า 10 ปี มีสัมพันธ์อันดีกับบริษัทจดทะเบียนในไทย และหน่วยงานทางการ ซึ่งจะทำให้สามารถต่อยอดธุรกิจหลักทรัพย์ และวาณิชธนกิจในประเทศไทยได้เป็นอย่างดี รวมถึงจะช่วยขยายธุรกรรมให้ครอบคลุมประเทศในภูมิภาคเอเซียได้อย่างรวดเร็วมากขึ้น"
ความร่วมมือกันระหว่าง "ทรีนีตี้" กับ "Religare" ในครั้งนี้ ยังเป็นผลดีต่อภาพรวมตลาดทุน เป็นการช่วยสนับสนุนตลาดทุนไทยให้ไปสู่ระดับโลกและเสริมสร้างศักยภาพของตลาดหลักทรัพย์ไทยให้เทียบเท่าตลาดหลักทรัพย์ของต่างประเทศ โดยเปิดโอกาสให้นักลงทุนต่างประเทศรู้จักบริษัทจดทะเบียนในประเทศไทยที่มีศักยภาพ มีโอกาสเติบโตอีกมากมาย เพราะหลังจากตลาดหลักทรัพย์ฯ มีการเปิดให้ทำ Dual Listing แล้ว จะมีการขยายฐานนักลงทุน และแลกเปลี่ยนข้อมูลทางการลงทุนทั้งในและต่างประเทศ ทำให้ภาพรวมของนักลงทุนที่สนใจลงทุนผ่านตลาดหลักทรัพย์ฯ มีการขยายตัว และสามารถระดมทุนให้บริษัทจดทะเบียน และเพิ่มสภาพคล่องได้มากขึ้น