ผลการดำเนินงานสำหรับครึ่งปีแรก ปี 2558 เมื่อเปรียบเทียบกับงวดครึ่งปีแรก ปี 2557 ธนาคารและบริษัทย่อยมีกำไรสุทธิจำนวน 23,880 ล้านบาท เพิ่มขึ้นเพียงเล็กน้อยจากช่วงเดียวกันของปีก่อนจำนวน 210 ล้านบาท หรือ 0.89% เนื่องจากครึ่งปีแรก ปี 58 นี้ ธนาคารได้ตั้งสำรองค่าเผื่อหนี้สงสัยจะสูญเพิ่มขึ้น อย่างไรก็ตาม รายได้ดอกเบี้ยสุทธิเพิ่มขึ้นจำนวน 2,020 ล้านบาท หรือ 5.04% โดยอัตราผลตอบแทนสินทรัพย์ที่ก่อให้เกิดรายได้สุทธิ (Net interest margin: NIM) อยู่ที่ระดับ 3.66% ลดลงจากงวดเดียวกันของปีก่อน ซึ่งสอดคล้องกับทิศทางการปรับลดอัตราดอกเบี้ย รวมถึงรายได้ที่มิใช่ดอกเบี้ยเพิ่มขึ้นจำนวน 4,672 ล้านบาท หรือ 17.15% เป็นผลมาจากรายได้ค่าธรรมเนียมและบริการสุทธิ รายได้จากผลิตภัณฑ์ตลาดเงินและตลาดทุน และรายได้สุทธิจากการรับประกันภัยที่เพิ่มขึ้น นอกจากนี้ ค่าใช้จ่ายจากการดำเนินงานอื่น ๆ เพิ่มขึ้น ส่งผลให้อัตราส่วนค่าใช้จ่ายจากการดำเนินงานอื่น ๆ ต่อรายได้จากการดำเนินงานสุทธิ (Efficiency ratio) ในงวดนี้อยู่ที่ระดับ 42.37%
ผลการดำเนินงานสำหรับไตรมาส 2 ปี 2558 เมื่อเปรียบเทียบกับไตรมาส 1 ปี 2558 ธนาคารและบริษัทย่อยมีกำไรสุทธิจำนวน 11,479 ล้านบาท ลดลงจากไตรมาสก่อนจำนวน 922 ล้านบาท หรือ 7.44% ส่วนใหญ่เกิดจากในไตรมาสนี้ ธนาคารได้ตั้งสำรองค่าเผื่อหนี้สงสัยจะสูญเพิ่มขึ้นจำนวน 2,031 ล้านบาท ในขณะที่รายได้ที่มิใช่ดอกเบี้ยเพิ่มขึ้นจำนวน 1,353 ล้านบาท หรือ 8.85% เป็นผลมาจากรายได้ค่าธรรมเนียมและบริการสุทธิ และรายได้สุทธิจากการรับประกันภัยที่เพิ่มขึ้น สำหรับอัตราผลตอบแทนสินทรัพย์ที่ก่อให้เกิดรายได้สุทธิ (Net interest margin: NIM) อยู่ที่ระดับ 3.59% นอกจากนี้ ค่าใช้จ่ายจากการดำเนินงานอื่น ๆ เพิ่มขึ้น โดยอัตราส่วนค่าใช้จ่ายจากการดำเนินงานอื่น ๆ ต่อรายได้จากการดำเนินงานสุทธิ (Efficiency ratio) ในไตรมาสนี้อยู่ที่ระดับ 42.24%
ผลการดำเนินงานสำหรับไตรมาส 2 ปี 2558 เมื่อเปรียบเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปี 2557 ธนาคารและบริษัทย่อยมีกำไรสุทธิจำนวน 11,479 ล้านบาท ลดลงจากไตรมาสเดียวกันของปีก่อนจำนวน 253 ล้านบาท หรือ 2.16%
ณ วันที่ 30 มิถุนายน 2558 ธนาคารและบริษัทย่อยมีสินทรัพย์รวมจำนวน 2,511,723 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากไตรมาสก่อน 36,852 ล้านบาท หรือ 1.49% ส่วนใหญ่เกิดจากการเพิ่มขึ้นของเงินให้สินเชื่อ และเพิ่มขึ้นจากสิ้นปี 2557 จำนวน 122,586 ล้านบาท หรือ 5.13% ส่วนใหญ่เป็นการเพิ่มขึ้นของรายการระหว่างธนาคารและตลาดเงิน และเงินให้สินเชื่อ โดยเงินให้สินเชื่อด้อยคุณภาพต่อเงินให้สินเชื่อ (%NPL gross) ณ วันที่ 30 มิถุนายน 2558 อยู่ที่ระดับ 2.39% ขณะที่ไตรมาสก่อนและสิ้นปี 2557 อยู่ที่ระดับ 2.26% และ 2.24% ตามลำดับ โดยในครึ่งปีแรก ปี 58 นี้ ธนาคารได้ตั้งสำรองค่าเผื่อหนี้สงสัยจะสูญเพิ่มขึ้น เพื่อรองรับภาวะเศรษฐกิจที่ยังคงชะลอตัวอย่างต่อเนื่องกว่าที่คาดการณ์ไว้ โดยมีอัตราส่วนค่าเผื่อหนี้สงสัยจะสูญต่อเงินให้สินเชื่อด้อยคุณภาพ (Coverage ratio) ณ วันที่ 30 มิถุนายน 2558 อยู่ที่ระดับ 138.13% ขณะที่ไตรมาสก่อนและสิ้นปี 2557 อยู่ที่ระดับ 139.74% และ 141.38% ตามลำดับ นอกจากนี้ ณ วันที่ 30 มิถุนายน 2558 อัตราส่วนเงินกองทุนทั้งสิ้นต่อสินทรัพย์เสี่ยงของกลุ่มธุรกิจทางการเงินธนาคารกสิกรไทยตามหลักเกณฑ์ Basel III อยู่ที่ 17.39% โดยมีอัตราส่วนเงินกองทุนชั้นที่ 1อยู่ที่ 13.77%