นางอุไรรัตน์ บุญอากาศ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท พีเออี (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) (PAE) เปิดเผยถึงแผนระดมทุนโดยเสนอขายให้กับผู้ถือหุ้นเดิม (RO) จำนวน 5,541,481,928 หุ้น อัตราส่วน 1 หุ้นเดิมต่อ 2 หุ้นใหม่ ราคา 0.20 บาท/หุ้น และเสนอขายหุ้นเพิ่มทุนให้บุคคลในวงจำกัด (PP) จำนวน 2,000 ล้านหุ้น ว่า บริษัทตั้งเป้าหมายได้รับเงินระดมทุนในครั้งนี้ประมาณ 1,500 ล้านบาท โดยมีวัตถุประสงค์การใช้เงิน ประกอบด้วย การขยายธุรกิจเดิมด้านการบริการในอุตสาหกรรมน้ำมัน ก๊าซธรรมชาติ และปิโตรเคมี ซึ่งจะต้องมีการปรับปรุงโรงประกอบทั้ง 3 แห่งที่ ลานกระบือ ระยอง และสงขลา รวมทั้งจัดซื้อจัดหา เครื่องมืออุปกรณ์ เครื่องจักร เพื่อใช้ในกิจการและให้เช่าแก่ลูกค้า ใช้เงินทุนประมาณ 200 ล้านบาท
นอกจากนี้จะนำเงินไปใช้รองรับการขยายการลงทุนในธุรกิจใหม่ อาทิ การบริการสาธารณูปโภคด้านน้ำประปา น้ำดิบเพื่อใช้ในอุตสาหกรรม ด้านพลังงาน พลังงานทางเลือกทั้งในและต่างประเทศ โดยเบื้องต้นจะลงทุนในระบบผลิตน้ำประปา ระบบท่อส่งน้ำดิบ สถานีสูบน้ำ เพื่อการอุตสาหกรรม จำนวนประมาณ 800 ล้านบาท ใช้เวลาในการก่อสร้างประมาณ 2 ปี กรณีที่มีเงินทุนเหลือจากกรณีดังกล่าวบริษัทมีความสนใจจะนำเงินไปลงทุนในโครงการด้านพลังงานและพลังงานทางเลือกอื่นๆ ส่วนที่เหลือจำนวนประมาณ 500 ล้านบาทจะนำไปใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนของกิจการ
"จากผลประกอบการไตรมาส 1 ปีนี้ ผลประกอบของบริษัทยังมีขาดทุนประมาณ 33 ล้านบาทและส่วนของผู้ถือหุ้นติดลบประมาณ 3 ล้านบาท หากปล่อยให้สถานการณ์ดำเนินต่อไป เชื่อว่าไม่ส่งผลดีต่อบริษัทและผู้ถือหุ้นทั้งหมดอย่างแน่นอน แต่หากการเพิ่มทุนครั้งนี้สำเร็จก็จะสามารถแก้ปัญหาเรื่องความเพียงพอของส่วนของผู้ถือหุ้นได้ ตลอดจนสามารถนำเงินไปพัฒนาและขยายกิจการตามแผนงานที่วางไว้ได้ตามวัตถุประสงค์ ซึ่งบริษัทจะนำเรื่องดังกล่าวเสนอขออนุมิติต่อที่ประชุมผู้ถือหุ้นในวันพุธที่ 29 ก.ค. นี้
กรณีที่ไม่ได้รับอนุมัติการเพิ่มทุนจากที่ประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้น ก็จะส่งผลให้บริษัทไม่สามารถระดมทุน เพื่อนำไปดำเนินการตามวัตถุประสงค์ได้ ซึ่งจะมีผลกระทบต่อผลประกอบการที่อาจจะขาดทุนต่อเนื่องไปอีก จนทำให้ส่วนของผู้ถือหุ้นบริษัทติดลบเพิ่มเติม หากเป็นเช่นนั้น PAE ก็จะถูกห้ามซื้อขายและบริษัทต้องเดินเข้าสู่กระบวนการฟื้นฟูกิจการ"นางอุไรรัตน์ กล่าว
ส่วนกรณีความกังวลเกี่ยวกับการเสนอขาย PP ของบริษัท ให้กับผู้ลงทุนกลุ่มใดกลุ่มหนึ่งที่จะเข้ามาแสวงหาผลประโยชน์และสร้างผลกระทบให้กับผู้ถือนั้น บริษัทได้วางนโยบายการเสนอขายหุ้น PP ครั้งนี้ให้กับผู้ลงทุนที่มีศักยภาพด้านการเงิน มีความต้องการลงทุนเนื่องจากเห็นศักยภาพในการปรับปรุงกิจการด้าน Oil and Gas ซึ่งเป็นธุรกิจที่ต้องอาศัยความเชี่ยวชาญพิเศษ อีกทั้งสามารถเป็นพันธมิตรที่ต่อยอดทางธุรกิจให้กับบริษัทได้ในอนาคต
นายรัฐชัย ภิชยภูมิ กรรมการบริหาร PAE เปิดเผยว่า บริษัทมีความมั่นใจว่าผลประกอบการของปี 2557 จะเป็นปีที่ต่ำที่สุดแล้ว คาดว่าผลประกอบการต่อจากนี้ไปจะเริ่มปรับตัวดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง เพราะบริษัทได้รับรู้ผลขาดทุนและมีการตั้งสำรองหนี้สูญของธุรกิจรับเหมาก่อสร้างไปหมดแล้ว ซึ่งในช่วงต่อจากนี้บริษัทจะมุ่งเน้นและขยายธุรกิจด้านน้ำมัน ก๊าซธรรมชาติ ปิโตรเคมี การตรวจสอบแบบไม่ทำลาย งานบริการน้ำประปาและน้ำดิบเพื่อการอุตสาหกรรม รวมทั้งพลังงานและพลังงานทางเลือก โดยตั้งเป้าหมายผลประกอบการพลิกเป็นกำไรในปีนี้
ทั้งนี้ธุรกิจในกลุ่มของบริษัท ประกอบด้วย PAE ให้บริการด้านธุรกิจน้ำมัน ก๊าซธรรมชาติ ปิโตรเคมี บมจ. พีเออี เทคนิคอล เซอร์วิส ให้บริการด้านตรวจสอบแบบไม่ทำลายและการออกใบรับรองคุณภาพงาน(PAE ถือหุ้น 72%)บจก. พีพีเอส เอนเนอยี แอนด์ มารีน ให้บริการด้านการผลิตน้ำประปา น้ำดิบเพื่อการอุตสาหกรรม เครื่องผลิตน้ำประปาเคลื่อนที่และระบบรีไซเคิลน้ำ (PAE ถือหุ้น 68%) บจก. พีเออี เฟดเดอรัล อินเตอร์เนชั่นแนล นำเข้าและจำหน่ายวัสดุ อุปกรณ์ เครื่องมือ เครื่องจักร ที่ใช้ในอุตสาหกรรมน้ำมัน ก๊าซธรรมชาติ และปิโตรเคมี (PAE ถือหุ้น 55%)