นางพรรณพิมล กล่าวต่อไปว่า จากสถานการณ์ภัยแล้ง ส่งผลกระทบต่อพื้นที่การปลูกข้าวโดยตรง ซึ่งกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ มีความห่วงใยเกษตรกรและได้ขอความร่วมมือให้งดการทำนาปรังในปี 2558 ในพื้นที่ลุ่มน้ำเจ้าพระยา ลุ่มน้ำแม่กลอง และงดส่งน้ำเพื่อทำการเกษตร พร้อมทั้งระดมความช่วยเหลือสร้างงานสร้างอาชีพเพื่อบรรเทาความเดือดร้อน แต่จนถึงขณะนี้ที่เป็นช่วงเพาะปลูกข้าวนาปี ฝนกลับทิ้งช่วงไม่ตกต้องตามฤดูกาล ข้าวที่เพาะปลูกไปก่อนนี้ปรากฏความเสียหายเพิ่มขึ้น จึงให้ทุกภาคส่วนบูรณาการทำงานในภูมิภาคร่วมกัน โดยมีเจ้าหน้าที่เกษตรทุกจังหวัดลงพื้นที่มากขึ้น พร้อมด้วยชุดปฏิบัติการเคลื่อนที่สร้างการรับรู้ในการให้ความช่วยเหลือเกษตรกรอย่างรวดเร็ว พร้อมมาตรการช่วยเหลือบรรเทาความเดือดร้อนอย่างทันท่วงที และให้รายงานผลการปฏิบัติงานให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ทราบ เพื่อวางแนวทางการช่วยเหลือในภาพรวม
ด้านนายชาญพิทยา ฉิมพาลี อธิบดีกรมการข้าว กล่าวเพิ่มเติมว่า กรมการข้าวได้ดำเนินการช่วยเหลือเกษตรกรตามนโยบายของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ด้วยการจัดหน่วยบริการเคลื่อนที่ โดยปรับปรุงรถยนต์ของศูนย์วิจัยข้าวและศูนย์เมล็ดพันธุ์ทั้ง 51 ศูนย์ อย่างน้อยศูนย์ละ 1 คัน นำมาติดสติกเกอร์พร้อมเครื่องขยายเสียง ให้บริการเกษตรกรในหมู่บ้านและชุมชนในจังหวัดต่าง ๆ และทำการปล่อยขบวนคาราวาน "รถหมอข้าว เหย้าถึงเรือน เยือนถึงถิ่น" ลงปฏิบัติงานอย่างเป็นทางการนับตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป และจะออกเดินทางเพื่อให้บริการแก่เกษตรกรในทุกภูมิภาค เพื่อถ่ายทอดเทคโนโลยี สร้างความเข้าใจ และแก้ไขปัญหาเรื่องข้าวให้แก่ชาวนาในทุก ๆ ด้านได้อย่างรวดเร็วทันเหตุการณ์ และทั่วทุกพื้นที่ โดยรถหมอข้าวมีแผนการให้บริการแต่ละคันสัปดาห์ละ 2-4 ครั้งเพื่อเข้าถึงทุกอำเภอของแต่ละจังหวัด เจ้าหน้าที่ของกรมการข้าวจะเข้ารับฟังปัญหาความเดือดร้อนโดยตรง และให้ความช่วยเหลือในสิ่งที่เกษตรกรกำลังเผชิญอย่างเหมาะสมกับสถานการณ์ เป็นการลดค่าใช้จ่ายในการเดินทางและเวลาที่เกษตรกรต้องเดินทางมาติดต่อยังศูนย์วิจัยพันธุ์ข้าว หรือศูนย์เมล็ดพันธุ์ข้าวที่ไม่มีครอบคลุมทุกจังหวัดอีกด้วย