นายสุภัค ศิวะรักษ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ธนาคาร ซีไอเอ็มบี ไทย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ผลการดำเนินงานของกลุ่มธนาคาร สำหรับงวดหกเดือนสิ้นสุดวันที่ 30 มิถุนายน 2558 มีรายได้จากการดำเนินงานจำนวน 6,078.4 ล้านบาทเพิ่มขึ้น 945.1 ล้านบาท หรือร้อยละ 18.4 เมื่อเปรียบเทียบกับงวดเดียวกันปี 2557 สาเหตุหลักเกิดจากการเพิ่มขึ้นของรายได้ดอกเบี้ยสุทธิร้อยละ 5.0 รายได้ค่าธรรมเนียมและบริการสุทธิร้อยละ 28.2 และรายได้อื่นร้อยละ 76.9 กำไรจากการดำเนินงานก่อนหักหนี้สงสัยจะสูญเพิ่มขึ้นร้อยละ 53.2 เป็นจำนวน 2,595.3 ล้านบาท เนื่องจากการเพิ่มขึ้นเพียงเล็กน้อยของค่าใช้จ่ายในการดำเนินงาน ร้อยละ 1.3 อย่างไรก็ตามกำไรสุทธิลดลงจำนวน 277.2 ล้านบาท หรือร้อยละ 44.3 เป็นจำนวน 348.2 ล้านบาทเมื่อเปรียบเทียบกับงวดเดียวกันสาเหตุหลักเกิดจากสำรองหนี้สงสัยจะสูญเพิ่มขึ้นร้อยละ 138.5 เป็นผลจากการชะลอตัวลงของสภาพแวดล้อมทางเศรษฐกิจ
เมื่อเปรียบเทียบผลการดำเนินงานงวดหกเดือนปี 2558 และ 2557 รายได้ค่าธรรมเนียมและบริการสุทธิเพิ่มขึ้น 167.5 ล้านบาท หรือร้อยละ 28.2 ส่วนใหญ่มาจากการเพิ่มขึ้นของค่าธรรมเนียมจากการจัดจำหน่ายหน่วยลงทุน ค่าธรรมเนียมบริการที่ปรึกษาทางการเงินและค่าธรรมเนียมจากการจำหน่ายผลิตภัณฑ์ประกันภัย รายได้ดอกเบี้ยสุทธิเพิ่มขึ้น 186.9 ล้านบาท หรือร้อยละ 5.0 เป็นผลจากการขยายสินเชื่อสุทธิกับกำไรจากการไถ่ถอนตราสารหนี้ด้อยสิทธิที่มีลักษณะคล้ายทุนก่อนกำหนดในงวดเดียวกันปี 2557 (แต่หากไม่รวมผลจากการไถ่ถอนตราสารหนี้ด้อยสิทธิที่มีลักษณะคล้ายทุนก่อนกำหนดแล้วรายได้ดอกเบี้ยสุทธิจะเพิ่มขึ้น 276.9 ล้านบาทหรือร้อยละ 7.5) และรายได้จากการดำเนินงานอื่นเพิ่มขึ้น 590.7 ล้านบาท หรือร้อยละ 76.9 ส่วนใหญ่เกิดจากรายได้เงินปันผล กำไรจากธุรกรรมเพื่อค้าและการปริวรรตเงินตราต่างประเทศและกำไรสุทธิจากเงินลงทุน ซึ่งอยู่ภายใต้ธุรกรรมการบริหารเงิน
ค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานสำหรับงวดหกเดือนปี 2558 เปรียบเทียบกับงวดเดียวกันปี 2557 เพิ่มขึ้นจำนวน 43.6 ล้านบาทหรือร้อยละ 1.3 สาเหตุมาจากการเพิ่มขึ้นของค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับพนักงานและค่าภาษีอากร ประกอบกับสุทธิกับการลดลงของค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานอื่นอันเนื่องมาจากการเพิ่มขึ้นของผลขาดทุนกำไรจากการขายทรัพย์สินรอการขาย ผลจากการปรับปรุงแผนการบริหารจัดการเพื่อควบคุมค่าใช้จ่ายที่ดีผนวกกับรายได้ที่เพิ่มขึ้นทำให้อัตราส่วนค่าใช้จ่ายในการดำเนินงาน ต่อรายได้จากการดำเนินงานงวดหกเดือนปี 2558 อยู่ที่ร้อยละ 57.3 ลดลงเมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปี 2557 อยู่ที่ ร้อยละ 67.0
อัตราส่วนรายได้ดอกเบี้ยสุทธิต่อสินทรัพย์เฉลี่ย (Net Interest Margin – NIM) สำหรับงวดหกเดือนปี 2558 อยู่ที่ร้อยละ 3.05 หรือลดลงร้อยละ 0.3 เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันปี 2557 เป็นผลจากการเพิ่มขึ้นของสินทรัพย์ที่ให้ผลตอบแทนต่ำ เนื่องจากสินเชื่อของธนาคารชะลอตัวลงตามสภาพแวดล้อมทางเศรษฐกิจ
วันที่ 30 มิถุนายน 2558 เงินให้สินเชื่อสุทธิจากรายได้รอตัดบัญชี (รวมเงินให้สินเชื่อซึ่งค้ำประกันโดยธนาคารอื่นและเงินให้สินเชื่อแก่สถาบันการเงิน) ของกลุ่มธนาคารอยู่ที่ 196.6 พันล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 3.0 เมื่อเทียบกับเงินให้สินเชื่อ ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2557 กลุ่มธนาคารมีเงินฝาก (รวมตั๋วแลกเงิน หุ้นกู้ และผลิตภัณฑ์ทางการเงินบางประเภท) จำนวน 217.1 พันล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 2.6 จากสิ้นปี 2557 ซึ่งมีจำนวน 211.7 พันล้านบาท อัตราส่วนสินเชื่อต่อเงินฝาก (the Modified Loan to Deposit Ratio) ของกลุ่มธนาคารเพิ่มขึ้นเป็นร้อยละ 90.5 จากร้อยละ 90.1 ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2557
สินเชื่อที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPLs) อยู่ที่ 8.0 พันล้านบาท อัตราส่วนสินเชื่อที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ต่อเงินให้สินเชื่อทั้งสิ้น (NPL ratio) อยู่ที่ร้อยละ 3.9 เพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับ ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2557อยู่ที่ร้อยละ 3.3 เป็นผลจากความสามารถในการชำระหนี้ลดลงซึ่งส่วนใหญ่เกิดจากลูกค้าภาคธุรกิจ อย่างไรก็ตาม ธนาคารซีไอเอ็มบีไทยยังคงมาตรฐานการอนุมัติสินเชื่อ และนโยบายการบริหารความเสี่ยงที่รัดกุมขึ้น ตลอดจนได้มีแนวทางเพิ่มประสิทธิภาพการติดตามหนี้ การดำเนินการดูแล และการแก้ไขลูกหนี้ที่ถูกผลกระทบดังกล่าวอย่างใกล้ชิด
อัตราส่วนค่าเผื่อหนี้สงสัยจะสูญต่อเงินให้สินเชื่อด้อยคุณภาพ ณ วันที่ 30 มิถุนายน 2558 อยู่ที่ร้อยละ 94.3 ลดลงจากสิ้นปี 2557 ซึ่งอยู่ที่ร้อยละ 95.2 ส่วนเงินสำรองของกลุ่มธนาคาร ณ วันที่ 30 มิถุนายน 2558 อยู่ที่จำนวน 7.4 พันล้านบาท ซึ่งเป็นสำรองส่วนเกินตามเกณฑ์ธนาคารแห่งประเทศไทยจำนวน 2.5 พันล้านบาท
เงินกองทุนรวมของกลุ่มธนาคาร ณ สิ้นวันที่ 30 มิถุนายน 2558 มีจำนวน 31.8 พันล้านบาท คิดเป็นอัตราส่วนเงินกองทุนรวมต่อสินทรัพย์เสี่ยงร้อยละ 14.0 โดยเป็นอัตราส่วนเงินกองทุนชั้นที่ 1 ร้อยละ 9.3