นางณฤมล ธรรมวัฒนะ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท สุวพีร์ ธรรมวัฒนะ จำกัด และบริษัทในเครือ กล่าวว่า ในปี พ.ศ.2558 นับเป็นปีที่ตลาดยิ่งเจริญได้เปิดให้บริการประชาชนย่านสะพานใหม่ และบริเวณใกล้เคียง มาเป็นเวลานานถึง 60 ปี นับตั้งแต่คุณแม่สุวพีร์ ธรรมวัฒนะ ได้ก่อร่างสร้างตลาดยิ่งเจริญมาเมื่อปี พ.ศ.2548 ผ่านมาถึง 6 ทศวรรษและกำลังก้าวเข้าสู่ทศวรรษที่ 7 โดยในโอกาสครบรอบ 60 ปี ในปีนี้ จะมีการพัฒนาตลาดให้เป็นที่รู้จักและยอมรับทั้งจากผู้ค้าขายและประชาชนทั่วไปมากขึ้น เพื่อให้เป็นตลาดสดชั้นแนวหน้าของประเทศไทย ที่สามารถแข่งขันและยืนหยัดได้ในวงการค้าปลีก และเป็นที่ยอมรับของผู้บริโภค โดยยึดหลักการบริหารที่สืบทอดมาจากรุ่นคุณแม่สุวพีร์ คือ ความซื่อสัตย์ต่อผู้บริโภค ความผูกพันระหว่างคู่ค้าและผู้บริหาร ที่มีการช่วยเหลือเกื้อกูลกัน และการช่วยเหลือสังคม
ปัจจุบันตลาดยิ่งเจริญ ตั้งอยู่บนที่ดิน 35 ไร่ 3 งาน หรือ 57,212 ตารางเมตร มีจำนวนร้านค้าประมาณ 1,500ร้าน แบ่งเป็นโซนต่าง ๆ เพื่อความสะดวกในการซื้อสินค้าครบทุกประเภท นอกจากนี้ยังมีโซนต่างๆ เปิดให้บริการอีก เช่น โซนตลาดนัดคนกันเอง ตลาดนัดคลองถม 2, ลานโปรโมชั่น, ยิ่งเจริญพลาซ่า, ศูนย์อาหารให้บริการ 24 ชั่วโมง และโรงเรียนการเรือนยิ่งเจริญ เป็นต้น ตลาดยิ่งเจริญถือเป็นตลาดค้าปลีก ที่ใหญ่ที่สุดในกรุงเทพมหานคร ที่การจับจ่ายซื้อของในตลาดสด ประมาณ 30,000 คน ต่อวัน โดยพบว่ามีรถเข้ามาใช้บริการราว 7,000 – 8,000 คัน ต่อวันในวันปกติ และในช่วงเทศกาลสำคัญไม่ต่ำกว่า 10,000 คัน ต่อวัน นอกจากนี้ในช่วงที่ผ่านมาตลาดยิ่งเจริญได้รับรางวัลมากมาย อาทิ รางวัลตลาดที่รักษามาตรฐานสุดยอดตลาดต้นแบบของกรุงเทพมหานคร ระดับถ้วยทอง , รางวัลตลาดสดต้นแบบ ของกรมการค้าภายใน กระทรวงพาณิชย์ ,รางวัลตลาดสดขวัญใจมหาชน คลื่น จส 100 ,รางวัลตลาดสดมาตรฐานอาหารปลอดภัย กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข และในวาระที่ตลาดฯได้ดำเนินกิจการมาครบรอบ 60 ปี บริษัทได้มีแผนงานในการพัฒนาตลาดและจัดงานฉลองในวาระสำคัญนี้ โดยแบ่งเป็น 2 ส่วน ดังนี้
1. การพัฒนาตลาดสดครบวงจรที่มีคุณภาพมาตรฐานสากลให้มีมาตรฐาน สะอาด สะดวก ปลอดภัย ใช้รูปแบบการผสมผสานระหว่างตลาดสดครบวงจรดั้งเดิม สร้างความหลากหลายของสินค้าทั้งไทยและต่างประเทศเทศในราคาที่เป็นธรรมต่อผู้บริโภค เสริมภาพลักษณ์ของตลาดยิ่งเจริญให้เป็นในรูปแบบ Open Air ที่มีสินค้าคุณภาพที่หลากหลายในราคายุติธรรมและมีการพัฒนาตลาดอย่างเป็นระบบ เพื่อนำไปสู่ภาพลักษณ์ใหม่ที่ดูทันสมัย และตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคยิ่งขึ้นกว่าเดิม แต่ก็ยังคงความเป็น “ตลาดสดวิถีไทย” ไว้ได้อย่างครบถ้วน ดังนี้
สร้างสิ่งอำนวยความสะดวกด้านสาธารณูปโภค เพื่อรองรับจำนวนผู้บริโภคที่เพิ่มมากขึ้น เช่น การสร้างที่จอดรถเพิ่มขึ้น การปรับทัศนียภาพและภูมิทัศน์ให้ร่มรื่น มีสาขาของธนาคารต่าง ๆ เพื่ออำนวยความสะดวกด้านธุรกรรมการเงิน เป็นต้น
เน้นความสะอาดด้านสุขอนามัย เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับผู้บริโภค เช่น ส่งเสริมให้พ่อค้าแม่ค้าใช้ “ภาชีวะ” บรรจุอาหาร การรักษาความสะอาด การรณรงค์กำจัดและแยกขยะ การตรวจสอบสินค้าที่ปลอดสารพิษ ส่งเสริมด้านอาหารปลอดภัยและการใช้ QR Code กับสินค้าเพื่อทวนสอบย้อนกลับถึงแหล่งที่มาของสินค้า เป็นต้น
ทำการตลาดเชิงรุก โดยมีการจัดงานและกิจกรรมส่งเสริมการขายร่วมกับพ่อค้าแม่ค้าและองค์กรต่างๆทั้งภาครัฐและเอกชนในช่วงเทศกาลต่าง ๆ เพื่อคืนกำไรให้กับผู้บริโภค
ส่งเสริมกิจกรรมสร้างสรรค์สังคม และมีส่วนร่วมในการพัฒนาชุมชน เช่น การให้การศึกษาความรู้ทางด้านเอสเอ็มอี จัดคอร์สสอนการทำอาหารจากโรงเรียนการเรือนยิ่งเจริญ เพื่อไปประกอบวิชาชีพ โครงการประกวดการทำลูกชุบชิงถ้วยพระราชทานสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เป็นต้น นอกจากนี้ยังมีกิจกรรมพัฒนาชุมชนต่าง ๆ เช่น การขุดลอกคลองร่วมกับองค์กรต่างๆเพื่อแก้ปัญหาด้านสาธารณสุขและป้องกันน้ำท่วม เป็นต้น
การพัฒนาตลาดยิ่งเจริญในด้านต่างๆเพื่อรักษามาตรฐาน “ตลาดสดต้นแบบของเมืองไทย ” และมีเป้าหมายผลักดันให้ตลาดสดยิ่งเจริญเข้าสู่กองทุนอสังหาริมทรัพย์ REIT ทั้งนี้คาดว่าภายในอีก 3-5 ปี ข้างหน้า
2.การจัดงานเฉลิมฉลองครบรอบ 60 ปี ซึ่งตรงกับวันที่ 11 สิงหาคม 2558 ได้มีการจัดกิจกรรม ต่อเนื่อง ในระหว่างเดือน สิงหาคม-ธันวาคม 2558 ดังนี้
กิจกรรมงานบุญใหญ่ในวาระครบรอบ 60 ปี วันที่ 10 สิงหาคม 2558
งานเทิดพระเกียรติวันแม่แห่งชาติ วันที่ 12 สิงหาคม 2558
งานบวงสรวงเจ้าพ่อใหญ่ช่วงเทศกาลกินเจและเทศกาลเทกระจาด เดือนตุลาคม 2558
งานเทิดพระเกียรติวันพ่อแห่งชาติ วันที่ 5 ธันวาคม 2558
งานฉลองครบรอบ 60 ปีตลาดยิ่งเจริญ วันที่ 11 ธันวาคม 2558
การจำหน่ายคูปอง 200 บาท ใช้คูปองมูลค่า 260 บาท วันที่ 11-12 สิงหาคม 2558
ทั้งนี้กิจกรรมต่างๆ ที่จะมีขึ้น จะเป็นการพัฒนาตลาดไปพร้อมๆ กับการพัฒนาชุมชนและคุณภาพชีวิต รวมถึงตอบสนองความต้องการวิถีชีวิตของผู้คนรอบข้าง ปัจจุบันตลาดยิ่งเจริญเปรียบเสมือนกับชุมชนขนาดใหญ่ที่มีผู้คนจำนวนมาก และเป็นแหล่งทำมาหากินของครอบครัวต่างๆ มากมาย ซึ่งพร้อมที่จะเป็นกำลังสำคัญที่ร่วมผลักดันให้ตลาดยิ่งเจริญเติบโต และก้าวเข้าสู่ทศวรรษที่ 7 เพื่อยกระดับเป็นตลาดสดครบวงจรชั้นแนวหน้าของไทยต่อไป