โรงไฟฟ้า IRPC-CP ซึ่งถือหุ้นโดย GPSC ในสัดส่วน 51% เป็นผู้ผลิตไฟฟ้าขนาดเล็ก (Small Power Producerหรือ SPP) มีกำลังการผลิต 240 เมกกะวัตต์ และไอน้ำ 180 – 300 ตันต่อชั่วโมง ภายใต้สัญญาซื้อขายไฟฟ้าและไอน้ำกับบริษัท ไออาร์พีซี จำกัด (มหาชน) หรือ IRPC และการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย หรือ EGAT ในระยะแรกนี้จะสามารถผลิตไฟฟ้าและขายไฟฟ้า 45 เมกกะวัตต์ และไอน้ำสูงสุด 100 ตันต่อชั่วโมงให้กับ IRPC ได้ภายในปี 2558 นอกจากจะทำให้การดำเนินงานของ GPSC มีประสิทธิภาพสูงขึ้นแล้ว ยังทำให้รายได้ปีนี้เพิ่มขึ้นตามเป้า ส่วนระยะที่ 2 จะเริ่มดำเนินการเชิงพาณิชย์ในเดือนมิถุนายน ปี 2560
นอกจากนี้ GPSC ในฐานะเป็นบริษัทแกนนำด้านธุรกิจไฟฟ้าของกลุ่ม ปตท. ตามแผนกลยุทธในการดำเนินธุรกิจที่จะเติบโตไปพร้อมกับการขยายธุรกิจของบริษัทในกลุ่ม ปตท. เพื่อสร้างความมีเสถียรภาพด้านไฟฟ้าและสาธารณูปโภคต่อกระบวนการผลิตของบริษัทต่างๆ ในกลุ่ม ปตท. ได้เดินหน้าพัฒนาโครงการอื่น ๆ ร่วมกับกลุ่ม ปตท. อย่างต่อเนื่อง นอกเหนือจากโครงการผลิตสาธารณูปการแห่งที่ 4 (CUP-4) เพื่อผลิตและจำหน่าย ไฟฟ้า ไอน้ำและสาธารณูปโภคจากระบบโคเจนเนอเรชั่นแก่ลูกค้าภายในพื้นที่อุตสาหกรรมเชิงนิเวศกลุ่ม ปตท. นิคมอุตสาหกรรมเอเซียแล้ว GPSC ยังได้พัฒนาโครงการเพิ่มอีกหนึ่งโครงการภายในพื้นที่ดังกล่าว ในการผลิตไอน้ำความดันต่ำสำหรับลูกค้าอุตสาหกรรมโดยใช้กะลาปาล์มซึ่งเป็นพลังงานสะอาดเป็นเชื้อเพลิง โดยได้ลงนามบันทึกความเข้าใจ(MOU) เรื่องการจัดหา จัดเก็บ และจัดส่งกะลาปาล์มกับ ปตท. ไปแล้วเมื่อวันที่ 17 กรกฎาคม ที่ผ่านมาและคาดว่าจะสามารถดำเนินการเชิงพาณิชย์ได้ภายในปี 2560 สำหรับโครงการบริหารจัดการขยะแบบครบวงจร ซึ่ง GPSCร่วมกับจังหวัดระยอง และอบจ.ระยอง เพื่อนำขยะไปแปลงเป็นเชื้อเพลิงในการผลิตไฟฟ้า ปัจจุบันการดำเนินงานยังคงเป็นไปตามแผนที่ได้กำหนดไว้
ทั้งนี้ นายนพดล ปิ่นสุภา กรรมการผู้จัดการใหญ่ GPSC ได้กล่าวว่า การเติบโตอย่างรวดเร็วของบริษัทฯ เป็นผลมาจากกลยุทธการเติบโตทางธุรกิจที่บริษัทฯ ได้วางไว้ ประกอบกับความเป็นมืออาชีพของพนักงานและผู้บริหารGPSC ที่ได้ร่วมกันทำงานอย่างเต็มที่ เพื่อพัฒนาองค์กรอย่างต่อเนื่อง โดยเชื่อว่าก่อนปี 2562 สัดส่วนรายได้ของบริษัทฯ จะมีโครงสร้างที่เปลี่ยนแปลงในทางที่ดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยเป็นรายได้จากโรงไฟฟ้าที่ใช้เชื้อเพลิงก๊าซธรรมชาติ 60% พลังงานแสงอาทิตย์และไบโอแมส 12% ถ่านหิน 12% และรายได้จากการจำหน่ายไอน้ำ12% ที่เหลือจะเป็นเงินรายได้จากส่วนอื่นๆ เช่น พลังงานลม และน้ำเพื่ออุตสาหกรรม เป็นต้น โดยตนเชื่อมั่นว่าผลการดำเนินงานตามกลยุทธและแผนงานดดังกล่าว จะนำไปสู่ความสำเร็จตามแผนงานของบริษัทฯ ที่วางไว้ในอนาคต