กระทรวงพลังงาน ยกระดับเฝ้าระวังการใช้ไฟฟ้าในพื้นที่ภาคใต้

ศุกร์ ๒๔ กรกฎาคม ๒๐๑๕ ๑๑:๔๔
กระทรวงพลังงาน ห่วงการใช้ไฟฟ้าในพื้นที่ภาคใต้ ในช่วงปิดซ่อมบำรุงแหล่งก๊าซธรรมชาติ (JDA-A18) เตรียมพร้อมยกระดับการเฝ้าระวังเพื่อให้ประชาชนมีไฟฟ้าใช้อย่างมั่นคง

นายทวารัฐ สูตะบุตร ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน (สนพ.) เปิดเผยว่า จากการติดตามสถานการณ์การใช้ไฟฟ้าในพื้นที่ภาคใต้ของการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) จากการปิดซ่อมบำรุงแหล่งก๊าซฯ JDA-A18 เป็นวันที่ 3 แล้วพบว่าวันแรกเมื่อวันที่ 21 กรกฎาคม 2558 มีการใช้ไฟฟ้าสูงสุดอยู่ที่ 2,159.75 เมกะวัตต์

เมื่อเวลา 19.21 น. และวันที่ 22 กรกฎาคม 2558 มีความต้องการใช้ไฟฟ้าสูงสุดอยู่ที่ 2,256.35 เมกะวัตต์ เมื่อเวลา 19.22 น. เพิ่มขึ้นจากวันแรกถึง 96.6 เมกะวัตต์ ทำให้กระทรวงพลังงานและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องต้องเพิ่มระดับการเฝ้าระวังการใช้ไฟฟ้ามากขึ้น โดยทาง กฟผ. ได้คาดการณ์ปริมาณการใช้ไฟฟ้าสูงสุดระหว่างที่มีการหยุดซ่อมบำรุง อยู่ที่ 2,350 เมกะวัตต์

ส่วนความคืบหน้าของการปิดซ่อมบำรุงประจำปีของแหล่งก๊าซธรรมชาติ (JDA-A18) ณ วันที่ 23 กรกฎาคม 2558 แล้วเสร็จ 60% ซึ่งเร็วกว่าแผนที่กำหนดไว้ รวมถึงในการสำรองน้ำมันดีเซลรวม 17.4 ล้านลิตร ยอดใช้ถึงวันนี้ อยู่ที่ 3.55 ล้านลิตร และสำรองน้ำมันเตารวม 17.7 ล้านลิตร ยอดใช้ถึงวันนี้ อยู่ที่ 1.37 ล้านลิตร

อย่างไรก็ตาม กฟผ. ได้เตรียมกำลังผลิตพึ่งได้สำรองอยู่ที่ 2,833 เมกะวัตต์ โดยหากดูจากการเดินเครื่องในช่วงเวลาหยุดซ่อมบำรุง มีสัดส่วนการใช้เชื้อเพลิงการผลิตไฟฟ้ามาจากสายส่งไฟจากภาคกลาง (Tie Line) 600 เมกะวัตต์,Gas 685 เมกะวัตต์, SPP 25 เมกะวัตต์, ซื้อไฟฟ้าจากประเทศมาเลเซีย 30 เมกะวัตต์, ดีเซล 410 เมกะวัตต์, น้ำมันเตา 315 เมกะวัตต์ และจากเขื่อนในภาคใต้ (Hydro) 284 เมกะวัตต์ ทั้งนี้หากมีปริมาณการใช้ไฟฟ้าเกินกำหนดการเฝ้าระวัง ได้มีมาตรการรองรับแผน 2 ด้วยการปรับเพิ่มปริมาณการส่งไฟฟ้าจากภาคกลาง และซื้อไฟฟ้าจากประเทศมาเลเซียเพิ่มขึ้น

ปัจจุบันปริมาณการใช้ไฟฟ้าในภาคใต้เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องมีผลมาจากการเจริญเติบโตทางธุรกิจท่องเที่ยว ได้แก่ สมุย ภูเก็ต หาดใหญ่ ที่รวดเร็ว โดยคาดว่าความต้องการไฟฟ้าจะขยายตัวถึงปีละ 5% และคาดว่าในปี 2562 ความต้องการไฟฟ้าสูงสุดจะอยู่ที่ 3,062 เมกะวัตต์ กระทรวงพลังงานจึงต้องวางแผนการผลิตไฟฟ้าที่มีสมดุลและเพียงพอกับความต้องการใช้ รวมทั้งบริหารจัดการความเสี่ยงด้านเชื้อเพลิง ที่มีสัดส่วนการใช้เชื้อเพลิงจากก๊าซธรรมชาติถึง 40% ซึ่งหากมีการหยุดซ่อมประจำทุกปี เช่นในขณะนี้ที่มีการหยุดซ่อมแหล่งก๊าซฯ JDA-A18 มีผลกระทบต่อโรงไฟฟ้าจะนะ ชุดที่ 2 ไม่สามารถดำเนินการผลิตไฟฟ้าได้ และเดินเครื่องได้เพียงชุดที่ 1 ที่เปลี่ยนมาใช้น้ำมนดีเซลแทน เมื่อรวมกับโรงไฟฟ้าขนอม เขื่อนรัชประภา เขื่อนบางลาง และโรงไฟฟ้าอื่นๆ รวมปริมาณกำลังผลิตพึ่งได้ประมาณ 2,200 เมกะวัตต์ ซึ่งไม่เพียงต่อความต้องการ จึงต้องมีการรณรงค์ให้ลดใช้พลังงานในพื้นที่ภาคใต้ทุกปีเช่นกัน “ดังนั้น สำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน กระทรวงพลังงาน จึงขอความร่วมมือทุกภาคส่วน และประชาชนทั่วไป ช่วยกันประหยัดไฟฟ้าในช่วงวันที่ 21 – 25 กรกฎาคมนี้ ช่วยกัน ปิดไฟ ปรับแอร์ ปลดปลั๊ก และช่วยเลี่ยง-ลดการใช้ไฟฟ้าในช่วงเวลา 18.30 – 22.30 น. โดยมาตรการดังกล่าวจะช่วยลดการใช้ไฟฟ้าของประเทศได้ หากสามารถทำได้ ความเสี่ยงของการจ่ายกระแสไฟฟ้าในพื้นที่ภาคใต้ก็จะหายไป” นายทวารัฐ กล่าวเพิ่มเติม.

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๓๑ ม.ค. รู้จักโรคอ้วนดีแล้ว.จริงหรือ?
๓๑ ม.ค. บมจ.ไทยเซ็นทรัลเคมี ร่วมกับ MBK ส่งมอบปฏิทินในกิจกรรม ปฏิทินเก่ามีค่า เราขอ
๓๑ ม.ค. BSRC ออกหุ้นกู้รอบใหม่ 8,000 ล้านบาท ยอดจองเกินเป้า ตอกย้ำความเชื่อมั่นของผู้ลงทุน
๓๑ ม.ค. คปภ. ร่วมสัมมนาประกันภัย ครั้งที่ 29 เตรียมรับมือความเสี่ยงอุบัติใหม่ พลิกโฉมธุรกิจประกันภัยสู่ความท้าทายในอนาคต
๓๑ ม.ค. มอบของขวัญให้กับครอบครัวของคุณช่วงวันหยุดพิเศษที่ สเตย์บริดจ์ สวีท แบงค็อก สุขุมวิท
๓๑ ม.ค. OR เปิดตัว CEO คนใหม่ หม่อมหลวงปีกทอง ทองใหญ่ มุ่งผลักดันไทยสู่ Oil Hub แห่งภูมิภาค พร้อมขับเคลื่อนองค์กรด้วยดิจิทัล-นวัตกรรม
๓๑ ม.ค. เดลต้า ประเทศไทย คว้ารางวัล ASEAN's Top Corporate Brand ประจำปี 2567
๓๑ ม.ค. โรงแรมอลอฟท์ กรุงเทพ สุขุมวิท 11 พลิกโฉมใหม่ สุดโมเดิร์น! พร้อมเปิดตัว w xyz bar ตอกย้ำความสนุกในแบบฉบับ
๓๑ ม.ค. PAUL JOE เปิดตัว GLOSSY ROUGE ต้อนรับฤดูใบไม้ผลิ 2025
๓๑ ม.ค. บริษัท โกซอฟท์ (ประเทศไทย) ได้รับเกียรติบัตรศูนย์ รับเรื่องและแก้ไขปัญหาให้กับผู้บริโภคระดับดีเด่น จาก สคบ. และการรับรองมาตรฐาน ISO