เมื่อวันที่ 24 กรกฎาคม 2558 นางสาวสุทธิลักษณ์ ระวิวรรณ รองปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม รักษาราชการแทนอธิบดีกรมทรัพยากรน้ำบาดาล พร้อมด้วย ดร. อรัญญา เฟื่องสวัสดิ์ รองอธิบดีกรมทรัพยากรน้ำบาดาล และคณะ ลงพื้นที่จังหวัดปทุมธานี เพื่อติดตามการปฏิบัติงานจัดหาแหล่งน้ำบาดาลในพื้นที่ภัยแล้งระยะเร่งด่วน โดยจุดแรกได้เดินทางไปยังบริเวณวัดนพรัตนาราม ตำบลนพรัตน์ อำเภอหนองเสือ จังหวัดปทุมธานี เพื่อติดตามการนำน้ำบาดาลจากบ่อสังเกตการณ์ไปใช้เพื่อการอุปโภคโดยต่อเข้ากับจุดจ่ายน้ำแบบงวงช้างเพื่อบริการน้ำบาดาลให้แก่รถบรรทุกน้ำของหน่วยงานท้องถิ่น เพื่อนำไปแจกจ่ายแก่ประชาชน
นายสุรินทร์ พุ่มบรรเทา นายกองค์การบริหารส่วนตำบลนพรัตน์ ได้ให้การต้อนรับคณะผู้บริหารและกล่าวถึงสภาพปัญหาในพื้นที่ว่า ชาวบ้านที่นี่ใช้น้ำทั้งจากระบบประปาบาดาลและประปาผิวดิน แต่เนื่องจากสองเดือนที่ผ่านมา น้ำในคลอง 13 มีไม่เพียงพอ ทำให้ชาวบ้านที่ใช้ประปาน้ำผิวดินประมาณ 1,200 ครัวเรือน ประสบปัญหาขาดแคลนน้ำใช้ พอได้น้ำบาดาลจากบ่อสังเกตการณ์ที่ส่งเข้าจุดจ่ายน้ำก็ช่วยได้มาก ตอนนี้มีรถบรรทุกน้ำทั้งของ อบต. และเทศบาลเข้ามาเติมน้ำจากจุดจ่ายน้ำเพื่อใช้แจกจ่ายประชาชนวันละ 7,000- 8,000 ลิตร ส่วนเรื่องน้ำดื่มนั่นไม่มีปัญหาเพราะซื้อกันเองอยู่แล้ว ทั้งนี้ บ่อน้ำบาดาลที่ต่อเข้าระบบประปาหมู่บ้านทุกวันนี้ก็ยังใช้ได้ดี แต่ก็อยากฝากเรื่องปัญหาคุณภาพน้ำที่มีกลิ่นสนิมเหล็ก ซึ่งนางสาวสุทธิลักษณ์ ได้มอบหมายเจ้าหน้าที่ให้คำแนะนำแก่ประชาชนเรื่องการเก็บตัวอย่างน้ำบาดาลส่งตรวจสอบ ก่อนนำมาใช้และดูแลปัญหาเรื่องคุณภาพน้ำบาดาลจังหวัดปทุมธานี
จากนั้น คณะผู้บริหารได้ติดตามการเจาะบ่อน้ำบาดาลและติดตั้งเครื่องสูบน้ำแบบเทอร์ไบน์ ที่แปลงนา บ้านวังตะเคียน หมู่ 2 ตำบลบึงบา อำเภอหนองเสือ ทั้งนี้สำหรับพื้นที่จังหวัดปทุมธานี กรมทรัพยากรน้ำบาดาลได้ดำเนินการเจาะบ่อน้ำบาดาลช่วยภัยแล้ง จำนวนรวม 3 จุด โดยเจาะบ่อน้ำบาดาลพร้อมติดตั้งเครื่องสูบเสร็จแล้ว 1 จุด อีก 2 จุด อยู่ระหว่างดำเนินการ นอกจากนี้ ยังติดตั้งจุดแจกจ่าย น้ำบาดาลจากบ่อสังเกตการณ์บริการประชาชนจำนวน 1 จุด คาดว่าจะมีน้ำเพียงพอบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชนขณะรอฤดูฝนที่ทิ้งช่วง