ภก.ดร. พงศกรพัฒน์ อรุโณทยานันท์ เผยว่า “คอลลาเจนเป็นโปรตีนสำคัญทำหน้าที่เป็นโครงสร้างของอวัยวะต่างๆ พบมากที่สุดในผิวหนัง เพราะจะทำให้ผิวหนังตึงกระชับ เนียนนุ่มชุ่มชื่น และยังเป็นส่วนประกอบในกระดูกข้อต่ออีกด้วย โดยจะช่วยผสานแคลเซียมในเนื้อกระดูกให้คงรูปแข็งแรง แต่มีการวิจัยพบว่าหลังอายุ 20 ปี ปริมาณคอลลาเจนในร่างกายจะเริ่มลดลง ซึ่งนอกจากจะทำให้ผิวพรรณหย่อนคล้อย มีริ้วรอย ยังเพิ่มความเสี่ยงต่อการสูญเสีย มวลกระดูก กระดูกบาง และ ปวดข้อเข่า อีกด้วย ทำให้ความนิยมในการเสริมคอลลาเจนให้ร่างกายจึงเพิ่มขึ้นเพราะหวังประโยชน์ทั้งด้านความงามและความแข็งแรงของร่างกาย ซึ่งคอลลาเจนจะพบมากในหนังสัตว์เช่น ปลา ไก่ แต่หากต้องการเสริมคอลลาเจนด้วยการรับประทานหนังสัตว์ อาจเป็นไปได้ยาก เพราะเป็นโปรตีนที่มีขนาดโมเลกุลใหญ่มาก ร่างกายย่อยและดูดซึมได้ยาก และยังเสี่ยงไขมันสูงด้วย นักวิจัยจึงสกัดคอลลาเจนจากหนังสัตว์และย่อยให้โมเลกุลเล็กลงได้ “คอลลาเจนเปปไทด์” เป็นโปรตีนสายสั้นมีโมเลกุลเล็กลง ร่างกายสามารถดูดซึมได้ง่ายขึ้น โดยมีงานวิจัยแสดงให้เห็นว่า เมื่อรับประทานคอลลาเจนเปปไทด์ที่มีขนาดเล็ก จะสามารถดูดซึมเข้าสู่กระแสเลือดได้ภายใน 30 นาที และกระจายไปเนื้อเยื่ออวัยวะต่างๆ ให้ร่างกายใช้เป็นวัตถุดิบในการสร้างเป็นคอลลาเจนต่อไป
แต่ผลลัพธ์สุขภาพจากคอลลาเจนไม่ได้เกิดขึ้นชั่วข้ามคืน เพราะร่างกายจะต้องใช้เวลาในการสร้างเสริมคอลลาเจน โดยได้มีการทดลองยืนยันว่าการรับประทานคอลลาเจนเปปไทด์โมเลกุลเล็ก เป็นประจำทุกวัน 2 เดือน ช่วยเสริมให้ผิวเนียนกระชับ ชุ่มชื่นขึ้น งานวิจัยด้านสุขภาพกระดูกและข้อ พบว่าช่วยเพิ่มจำนวนเซลล์สร้างเนื้อเยื่อกระดูก และการลดความเจ็บปวดปัญหาข้อเข่า เมื่อรับประทานคอลลาเจนเปปไทด์ 10 กรัม หรือประมาณ 2-3 ช้อนชาทุกวัน ต่อเนื่องอย่างน้อย 2 เดือน
เพื่อชดเชยการสูญเสียคอลลาเจนทุกวันตามอายุ ควรเน้นรับประทานคอลลาเจนบริสุทธิ์ในปริมาณค่อนข้างมาก และควรรับประทานในปริมาณที่ผู้ผลิตแนะนำอย่างต่อเนื่องสม่ำเสมอ เพราะหากรับประทานน้อยเกินไปก็ไม่เห็นผล แต่หากรับประทานมากเกินความต้องการก็จะขับออกทางปัสสาวะ โดยไม่สะสมตกค้าง เพราะเป็นโปรตีนที่ละลายน้ำได้ ดังนั้นการเลือกคอลลาเจนเปปไทด์ที่มีขนาดโมเลกุลเล็กเช่น ต่ำกว่า 2,000 ดาลตัน จะช่วยให้การดูดซึมดีขึ้น คอลลาเจนไม่ใช่ยาจึงไม่มีข้อจำกัดว่าควรรับประทานตอนท้องว่างหรือพร้อมอาหาร แต่มีข้อควรระวังคือ ควรเลือกคอลลาเจนบริสุทธิ์ที่มีสารเจือปนน้อยที่สุด เพราะหากต้องการรับประทานอย่างต่อเนื่องเป็นเวลานาน ควรเลี่ยงสูตรที่มีการแต่งสี กลิ่น รส สารกันเสียมากๆ เพราะจะทำให้ได้รับสารปรุงแต่งเข้าร่างกายทุกวัน และควรหลีกเลี่ยงการทำร้ายคอลลาเจน เช่น การดื่มเหล้า เครื่องดื่มน้ำตาลสูง และแม้ว่าคอลลาเจนเปปไทด์บริสุทธิ์จะมีความปลอดภัยสูง แต่ผู้ที่มีปัญหาสุขภาพก็ควรปรึกษาผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพก่อนการรับประทาน”
รู้เคล็ดลับดีๆ ทั้งวิธีการเลือกที่ถูกต้อง และวิธีรับประทานคอลลาเจนกันแล้ว ต่อไปนี้สาวๆ ทั้งหลายก็จะมีผิวพรรณที่สวย เปล่งปลั่ง แถมยังพ่วงมาด้วยสุขภาพและคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นด้วย