มรภ.สงขลา จับมือ บสย. ชี้ช่องผู้ประกอบการเข้าถึงแหล่งทุน

จันทร์ ๐๓ สิงหาคม ๒๐๑๕ ๑๐:๑๖
ศูนย์บ่มเพาะธุรกิจ มรภ.สงขลา จับมือ บสย. พัฒนาผู้ประกอบการรายย่อย หวังเพิ่มศักยภาพเข้าถึงแหล่งเงินทุน ชี้ประเทศไทยควรให้ความสำคัญต่อการสร้างรายได้ชุมชน ในฐานะเศรษฐกิจฐานรากของสังคม

น.ส.อมราวดี วงศ์เทพ ผู้จัดการศูนย์บ่มเพาะธุรกิจ (UBI) มหาวิทยาลัยราชภัฏสงขลา (มรภ.สงขลาเปิดเผยว่า ศูนย์บ่มเพาะธุรกิจ ร่วมกับ บรรษัทประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อม (บสย.) จัดโครงการพัฒนาผู้ประกอบการSMEs เพื่อเพิ่มศักยภาพในการเข้าถึงแหล่งเงินทุน โดยเปิดโอกาสให้ผู้ประกอบการขนาดย่อมได้ร่วมแลกเปลี่ยนความคิดเห็นเพื่อการพัฒนาธุรกิจ พร้อมทั้งเข้ารับการฝึกอบรมในหัวข้อการจัดทำแผนธุรกิจและการเตรียมแผนธุรกิจ ฝึกอบรมเชิงปฏิบัติการเขียนแผนธุรกิจ เพื่อขอสนับสนุนทางการเงิน วิทยากรโดย คณะอาจารย์และทีมงาน มรภ.สงขลา นอกจากนั้น ยังมีการให้ความรู้จาก บสย. เกี่ยวกับการเพิ่มศักยภาพในการเข้าถึงแหล่งเงินทุน อาทิ วิธีการเดินบัญชี (Bank Statement) การเตรียมเอกสารข้อมูลทางธุรกิจ การสรุปข้อมูลเพื่อขอสินเชื่อ เป็นต้น วิทยากรโดย นายคมสัน วัฒนวนาพงษ์ ผู้อำนวยการฝ่ายกิจการสาขา บสย. ซึ่งโครงการที่จัดขึ้นนี้จะช่วยให้ผู้ประกอบการมีความรู้ ความเข้าใจในการบริหารจัดการธุรกิจ ทั้งด้านการบริหารการเงิน ต้นทุน การตลาด ตลอดจนได้ข้อมูลและรับทราบถึงหน่วยงานสนับสนุนที่สามารถให้คำปรึกษาทางการเงิน หรือการดำเนินงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้องและช่วยเอื้อประโยชน์ทางธุรกิจ เกิดการสร้างเครือข่ายเชื่อมโยงทางธุรกิจเพิ่มขึ้น ประการสำคัญ เป็นการเพิ่มศักยภาพให้ผู้ประกอบการมีความเข้มแข็ง และมีโอกาสในการเข้าถึงแหล่งเงินทุนในระบบมากขึ้น

ผู้จัดการศูนย์บ่มเพาะธุรกิจ มรภ.สงขลา กล่าวว่า ต้องยอมรับว่าปัจจุบันธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (SMEs) มีบทบาทอย่างมากในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจ ซึ่งเป็นแหล่งรองรับแรงงานที่สำคัญ และเป็นการกระจายความเสี่ยงของการขยายตัวในเศรษฐกิจระดับมหภาค ทดแทนการพึ่งพาบริษัทขนาดใหญ่ ดังนั้น การพัฒนาและส่งเสริมให้ธุรกิจ SMEs มีการขยายตัวเพิ่มขึ้น รวมทั้งการพัฒนาคุณภาพสินค้าและทักษะการเป็นผู้ประกอบการ จึงเป็นแนวทางหนึ่งที่ศูนย์บ่มเพาะธุรกิจ มรภ.สงขลา และ บสย. จะเป็นกลไกหนึ่งในการช่วยให้ผู้ประกอบการรายย่อย สามารถพัฒนาธุรกิจในเขตภาคใต้ตอนล่างให้มีความเข้มแข็งมากยิ่งขึ้น อีกทั้งยังช่วยให้ผู้ประกอบการทุกระดับ มีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับการเงินและการเข้าถึงแหล่งเงินทุนอย่างมีประสิทธิภาพ

เศรษฐกิจระดับชุมชนและภูมิภาค เป็นเศรษฐกิจฐานรากที่ส่งผลต่อความมั่นคงทางเศรษฐกิจ และสังคมของประเทศ จะเห็นได้ว่าตอนนี้เศรษฐกิจชุมชนในภาพรวมมีความก้าวหน้าอย่างต่อเนื่อง และกำลังได้รับการผลักดันให้เป็นแหล่งรายได้ที่สำคัญ เพื่อเสริมสร้างความเข้มแข็งทางเศรษฐกิจและสังคมให้แก่ชุมชน อย่างไรก็ตาม ในระดับจุลภาคความสำเร็จของเศรษฐกิจชุมชนในแต่ละชุมชนค่อนข้างแตกต่างกันตามฐานทุนของชุมชนและศักยภาพในด้านการประกอบการเชิงธุรกิจ อาทิ การจัดการองค์กร การเงิน การพัฒนาผลิตภัณฑ์ และการตลาด เป็นต้น ตลอดจนคุณภาพของงานฝีมือและการใช้เทคโนโลยีร่วม ฉะนั้นประเทศไทยจึงควรให้ความสำคัญต่อการพัฒนาเศรษฐกิจชุมชนให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น และสนองตอบความต้องการของตลาดอย่างรวดเร็วในภาวะที่มีการแข่งขันที่รุนแรง และความเสี่ยงสูงเพื่อลดปัญหาต่าง ๆ ที่เคยมีมาจากอดีตจนถึงปัจจุบัน” ผู้จัดการศูนย์บ่มเพาะธุรกิจ มรภ.สงขลา กล่าว

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๓๑ ม.ค. รู้จักโรคอ้วนดีแล้ว.จริงหรือ?
๓๑ ม.ค. บมจ.ไทยเซ็นทรัลเคมี ร่วมกับ MBK ส่งมอบปฏิทินในกิจกรรม ปฏิทินเก่ามีค่า เราขอ
๓๑ ม.ค. BSRC ออกหุ้นกู้รอบใหม่ 8,000 ล้านบาท ยอดจองเกินเป้า ตอกย้ำความเชื่อมั่นของผู้ลงทุน
๓๑ ม.ค. คปภ. ร่วมสัมมนาประกันภัย ครั้งที่ 29 เตรียมรับมือความเสี่ยงอุบัติใหม่ พลิกโฉมธุรกิจประกันภัยสู่ความท้าทายในอนาคต
๓๑ ม.ค. มอบของขวัญให้กับครอบครัวของคุณช่วงวันหยุดพิเศษที่ สเตย์บริดจ์ สวีท แบงค็อก สุขุมวิท
๓๑ ม.ค. OR เปิดตัว CEO คนใหม่ หม่อมหลวงปีกทอง ทองใหญ่ มุ่งผลักดันไทยสู่ Oil Hub แห่งภูมิภาค พร้อมขับเคลื่อนองค์กรด้วยดิจิทัล-นวัตกรรม
๓๑ ม.ค. เดลต้า ประเทศไทย คว้ารางวัล ASEAN's Top Corporate Brand ประจำปี 2567
๓๑ ม.ค. โรงแรมอลอฟท์ กรุงเทพ สุขุมวิท 11 พลิกโฉมใหม่ สุดโมเดิร์น! พร้อมเปิดตัว w xyz bar ตอกย้ำความสนุกในแบบฉบับ
๓๑ ม.ค. PAUL JOE เปิดตัว GLOSSY ROUGE ต้อนรับฤดูใบไม้ผลิ 2025
๓๑ ม.ค. บริษัท โกซอฟท์ (ประเทศไทย) ได้รับเกียรติบัตรศูนย์ รับเรื่องและแก้ไขปัญหาให้กับผู้บริโภคระดับดีเด่น จาก สคบ. และการรับรองมาตรฐาน ISO