สัปดาห์นี้ติดตามการเปิดเผยตัวเลขการจ้างงานของสหรัฐ
แนวโน้มราคาทองคำคาดเคลื่อนไหวในกรอบ 1,080-1,100 ดอลลาร์
- ราคาทองคำเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมาเคลื่อนไหวผันผวน แต่ปิดตลาดปรับตัวขึ้น เนื่องจากเงินดอลลาร์ที่อ่อนค่าลง หลังจากสหรัฐเปิดเผยดัชนีต้นทุนการจ้างงาน (ECI) ซึ่งเป็นมาตรวัดต้นทุนแรงงานที่กว้างที่สุด เพิ่มขึ้นเพียง 0.2% ในไตรมาส 2 ซึ่งเป็นการเพิ่มขึ้นน้อยที่สุดในรอบ 33 ปี และน้อยกว่าที่ตลาดคาดการณ์ว่าจะเพิ่มขึ้น 0.6% ทั้งนี้ราคาทองคำในสัปดาห์ที่ผ่านมาปรับตัวลงติดต่อกันเป็นสัปดาห์ที่ 7
- กองทุนอีทีเอฟทองคำ SPDR ลดปริมาณการถือครองทองคำลง 7.45 ตันเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา ปัจจุบันกองทุน SPDR ถือครองทองคำ 672.7 ตันซึ่งเป็นระดับต่ำที่สุดในรอบ 7 ปี สะท้อนให้เห็นนักลงทุนในสหรัฐและยุโรปยังคงมีมุมมองในทางลบต่อทิศทางราคาทองคำและความต้องการทองคำที่ยังคงอ่อนแอ
- สัปดาห์นี้ติดตามการเปิดเผยตัวเลขการจ้างงานของสหรัฐในวันพุธและวันศุกร์ ซึ่งเป็นตัวเลขเศรษฐกิจที่เฟดให้ความสำคัญในการพิจารณาปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย หลังจากการประชุมเฟดครั้งล่าสุดเฟดไม่ได้ส่งสัญญาณชัดเจนถึงช่วงเวลาในการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย โดยระบุแต่เพียงว่าเฟดต้องการเห็นตลาดแรงงานปรับตัวดีขึ้นต่อไป และต้องการมีความเชื่อมั่นมากขึ้นว่าอัตราเงินเฟ้อซึ่งอยู่ในระดับต่ำจะปรับตัวขึ้นสู่ระดับเป้าหมายที่ 2% ในระยะกลางก่อนที่จะขึ้นอัตราดอกเบี้ย
- แนวโน้มราคาทองคำคาดเคลื่อนไหวในกรอบ 1,080-1,100 ดอลลาร์/ออนซ์ ซึ่งนักลงทุนสามารถซื้อขายตามกรอบแนวรับแนวต้านดังกล่าว ราคาทองคำมีแนวรับที่ 1,080 และ 1,077 ดอลลาร์/ออนซ์ตามลำดับ ขณะที่มีแนวต้านที่ 1,100-1,105 ดอลลาร์/ออนซ์ หากราคาทองคำสามารถทะลุและยืนเหนือแนวต้านบริเวณ 1,100 ดอลลาร์/ออนซ์ ได้ ก็จะเป็นสัญญาณซื้อเก็งกำไรการฟื้นตัว