คืนนี้สหรัฐจะเปิดเผยยอดสั่งซื้อภาคโรงงานเดือนมิ.ย.
แนวโน้มราคาทองคำคาดเคลื่อนไหวในกรอบ 1,080-1,100 ดอลลาร์
- การซื้อขายทองคำเมื่อวานช่วงกลางคืนมีแรงเทขายทำให้ราคาทองคำลดลงค่อนข้างมาก เนื่องจากเงินดอลลาร์ที่แข็งค่าขึ้นจากตลาดยังคงคาดการณ์ว่าเฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยภายในสิ้นปีนี้ ขณะที่ข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐที่มีการเปิดเผยเมื่อคืนที่ผ่านมาปรับตัวขึ้นลงแตกต่างกัน โดยดัชนี ISM ภาคการผลิตเดือนก.ค.ลดลงจากระดับ 53.5 ในเดือนมิ.ย.เหลือ 52.7 อย่างไรก็ตาม มาร์กิต ซึ่งเป็นบริษัทสำรวจข้อมูลทางการเงิน เปิดเผยว่า ดัชนี PMI ภาคการผลิตขั้นสุดท้ายของสหรัฐเดือนก.ค. ปรับตัวขึ้นสู่ระดับ 53.8 จากระดับ 53.6 ในเดือนมิ.ย.
- คืนนี้สหรัฐจะเปิดเผยยอดสั่งซื้อภาคโรงงานเดือนมิ.ย. ตลาดคาดการณ์ว่าจะเพิ่มขึ้น 1.8% หลังจากที่เดือนพ.ค.หดตัวลง 1.0% ทั้งนี้เงินดอลลาร์มีโอกาสแข็งค่าขึ้นในกรณีที่ตัวเลขออกมาแข็งแกร่งกว่าที่ตลาดคาดการณ์ไว้
- นักลงทุนยังรอติดตามการเปิดเผยตัวเลขการจ้างงานของสหรัฐในสัปดาห์นี้ ซึ่งเป็นตัวเลขเศรษฐกิจที่เฟดให้ความสำคัญในการพิจารณาปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย หลังจากการประชุมเฟดครั้งล่าสุดเมื่อวันที่ 28-29 ก.ค. เฟดไม่ได้ส่งสัญญาณชัดเจนถึงช่วงเวลาในการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย โดยระบุว่าเฟดต้องการเห็นตลาดแรงงานปรับตัวดีขึ้นต่อไป และอัตราเงินเฟ้อซึ่งอยู่ในระดับต่ำจะปรับตัวขึ้นสู่ระดับเป้าหมายที่ 2% ในระยะกลางก่อนที่จะขึ้นอัตราดอกเบี้ย
- แนวโน้มราคาทองคำคาดเคลื่อนไหวในกรอบ 1,080-1,100 ดอลลาร์/ออนซ์ ซึ่งนักลงทุนสามารถซื้อขายตามกรอบแนวรับแนวต้านดังกล่าว ราคาทองคำมีแนวรับที่ 1,080 และ 1,077 ดอลลาร์/ออนซ์ตามลำดับ ขณะที่มีแนวต้านที่ 1,100-1,105 ดอลลาร์/ออนซ์