รมว.วธ. กล่าวต่อว่า การจัดการประกวดภาพยนตร์สั้น ตามโครงการหนังสั้น พลังเพื่อการเปลี่ยนแปลง ปี 3 หัวข้อ "สื่อไทย...ในยุคปัจจุบัน"กำหนดให้เด็กและเยาวชนส่งผลงานเข้ามาประกวด โดยมีความยาวไม่เกิน 10 นาที ซึ่งมีเด็กและเยาวชนสนใจส่งผลงานเข้าร่วมประกวดเป็นจำนวนมากกว่า 100 ผลงาน และคณะกรรมการพิจารณาภาพยนตร์สั้น รอบ 5 ทีมสุดท้าย ได้แก่ ผู้แทนสำนักเฝ้าระวังทางวัฒนธรรม กระทรวงวัฒนธรรม ผู้แทนสำนักพิจารณาภาพยนตร์และวีดิทัศน์ ผู้แทนสำนักงาน กสทช. ผู้กำกับจากบริษัท วายุฟิล์ม และผู้แทนจากเครือข่ายยุวทัศน์ กรุงเทพมหานคร ร่วมกันคัดเลือกผลงานที่มีความถูกต้องและเหมาะสมของเนื้อหา ความคิดสร้างสรรค์ และเทคนิค โดยคัดเลือกผลงานที่ส่งเข้าประกวดจนเหลือเพียง 5 ทีมสุดท้าย ซึ่งดำเนินการคัดเลือกแล้วเสร็จเมื่อวันที่ 17 กรกฎาคม ที่ผ่านมา โดยผลการประกวด ดังนี้
รางวัลชนะเลิศ ได้แก่ ทีมโรงเรียนประชาราษฎร์บำเพ็ญ สำนักการศึกษา กรุงเทพมหานคร ภาพยนตร์เรื่อง สื่อสีขาว
รางวัลรองชนะเลิศอันดับ 1 ได้แก่ ทีมโรงเรียนรุ่งอรุณ สังกัดงานคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชน ภาพยนตร์เรื่อง Media Play
รางวัลรองชนะเลิศอันดับ 2 ได้แก่ ทีมโรงเรียนมัธยมสุวิทย์เสรีอนุสรณ์ สังกัดสำนักการศึกษา กรุงเทพมหานคร ภาพยนตร์เรื่อง ซ่อนกล้อง
และรางวัลชมเชย จำนวน 2 รางวัล ได้แก่ ทีมโรงเรียนบ้านเป่าวิทยาคม สังกัดองค์การบริหารส่วนจังหวัดชัยภูมิ ภาพยนตร์เรื่อง ก่อนจะสาย และทีมวิทยาลัยการอาชีพเถิน สังกัดสำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา ภาพยนตร์เรื่อง Stop Violence "หยุดความรุนแรงด้วยการสื่อสาร"
นอกจากนี้ จะมีการมอบรางวัลขวัญใจมหาชน โดยเครือข่ายยุวทัศน์ กรุงเทพมหานคร จะนำภาพยนตร์สั้นที่เข้ารอบสุดท้ายทั้ง 5 เรื่อง อัพโหลดขึ้นบนเว็บไซต์ www.Facebook.com/ynetbangkok เพื่อเปิดโอกาสให้ผู้ชมสาธารณะเข้ามาชมภาพยนตร์สั้นและกดถูกใจ (LIKE) โดยผลงานที่ได้ยอดการกดถูกใจมากที่สุดจะได้รับรางวัลขวัญใจมหาชน ซึ่งผู้สนใจสามารถเข้าชมภาพยนตร์สั้นและกดถูกใจได้ตั้งแต่วันที่ 3 สิงหาคม 2558 เวลา 09.00 น. เป็นต้นไป
ด้านนายพชรพรรษ์ ประจวบลาภ ประธานเครือข่ายยุวทัศน์ กรุงเทพมหานคร กล่าวถึงรางวัลการประกวดว่า มีมูลค่ารวมกว่า 18,000 บาท โดยรางวัลชนะเลิศ จะได้รับโล่รางวัลและทุนการศึกษา จำนวน 10,000 บาท รางวัลรองชนะเลิศอันดับ 1 จะได้รับโล่รางวัลและทุนการศึกษา จำนวน 5,000 บาท รางวัลรองชนะเลิศอันดับ 2 จะได้รับโล่รางวัลและทุนการศึกษา จำนวน 3,000 บาท ส่วนรางวัลชมเชย จำนวน 2 รางวัล และรางวัลขวัญใจมหาชน จะได้รับเกียรติบัตร ซึ่งได้รับเกียรติจากท่านรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม (นายวีระ โรจน์พจนรัตน์) เป็นผู้มอบรางวัลและทุนการศึกษาแก่ทีมที่เข้ารอบทั้ง 5 ทีม
ประธานเครือข่ายยุวทัศน์ กรุงเทพมหานคร กล่าวต่ออีกว่า การเปิดโอกาสให้เด็กและเยาวชนเข้ามามีส่วนร่วมผลิตสื่อประเภทภาพยนตร์สั้น สารคดี แอนิเมชั่น หรือสื่ออื่นๆ โดยมีเนื้อหาที่เป็นแนวทางในการบริโภคสื่ออย่างสร้างสรรค์ หรือส่งเสริมแนวคิดเกี่ยวกับการรู้เท่าทันสื่อ หรือสะท้อนให้เห็นปัญหาของสื่อในปัจจุบันนั้น จะทำให้เด็กและเยาวชนที่เข้าร่วมโครงการเกิดกระบวนการคิดริเริ่มสร้างสรรค์สื่อสีขาว อีกทั้งยังเป็นการส่งเสริมให้เกิดการผลิตสื่อสีขาวสำหรับเด็กและเยาวชน อันจะนำไปสู่การแก้ไขปัญหาสื่อที่ไม่เหมาะสมและตระหนักถึงปัญหาดังกล่าว รวมถึงการสร้างเครือข่ายเด็กและเยาวชนรุ่นใหม่ให้เป็นแกนนำเพื่อร่วมเฝ้าระวังสื่อที่ไม่ปลอดภัยและไม่สร้างสรรค์ โดยการเผยแพร่สื่อที่ปลอดภัยและสร้างสรรค์ไปสู่ชุมชน สังคมและครอบครัวต่อไป ทั้งนี้ สามารถติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่เว็บไซต์www.ynetbankkok.or.th