ภัยแล้งฉุดผลผลิตปาล์มลด กนป. ย้ำ เร่งแก้ไขปัญหารับซื้อปาล์ม - เดินหน้า พ.ร.บ. เต็มที่

พฤหัส ๐๖ สิงหาคม ๒๐๑๕ ๑๒:๕๑
กนป. แจงสถานการณ์ปาล์มน้ำมันปี 58 เผย ภัยแล้งกระทบต่อเนื่อง ฉุดผลผลิตออกตลาดลดลงร้อยละ 2 ระบุ ขณะนี้ประสานผู้ว่าราชการทุกจังหวัด หาแนวทางแก้ไขปัญหารับซื้อผลปาล์มกับโรงงานสกัด เกรด B และลานเทในพื้นที่แล้ว ย้ำ เดินหน้าตรวจสอบพื้นที่ปลูกปาล์มของเกษตรกร เร่งพัฒนาโรงงานสกัด และ พ.ร.บ.ปาล์มน้ำมันให้แล้วเสร็จโดยเร็ว

นายคนิต ลิขิตวิทยาวุฒิ รองเลขาธิการสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร (สศก.) กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ในฐานะประธานคณะอนุกรรมการประชาสัมพันธ์ผลการดำเนินการของคณะกรรมการนโยบายปาล์มน้ำมันแห่งชาติ (กนป.) เปิดเผยถึงสถานการณ์ปาล์มน้ำมันในขณะนี้ว่า จากภาวะภัยแล้งตั้งแต่ปี 2557 ต่อเนื่องถึงปี 2558 ส่งผลให้ผลผลิตปาล์มน้ำมันใน ปี 2558 ออกสู่ตลาดน้อยลง เมื่อพิจารณาผลผลิตปาล์มน้ำมันทั้ง 3 ไตรมาสของปี 2558 พบว่าผลผลิตไตรมาสที่ 1 ไตรมาสที่ 2 และไตรมาสที่ 3 มีปริมาณ 2.426 ล้านตัน 4.055 ล้านตัน และ 2.712 ล้านตัน ตามลำดับ ซึ่งเมื่อเทียบกับปี 2557 พบว่า ผลผลิตลดลงทุกไตรมาส คิดเป็นร้อยละ 20.23 ร้อยละ 7.01 และร้อยละ 10.31 ตามลำดับ

สำหรับในไตรมาส 4 (ตุลาคม – ธันวาคม) คาดว่าผลผลิตมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นจากในไตรมาส 3 เนื่องจากในช่วงไตรมาส 3 มีฝนตกอย่างต่อเนื่องในแหล่งปลูกที่สำคัญทำให้ ไตรมาส 4 ปริมาณผลผลิตอาจเพิ่มขึ้นได้ อย่างไรก็ตาม สศก. จะได้ติดตามและตรวจสอบสถานการณ์การผลิตปาล์มน้ำมันในภาคใต้ เพื่อประเมินผลผลิตในช่วงไตรมาส 4 ต่อไป

อย่างไรก็ตาม เมื่อคำนวณในรูปน้ำมันปาล์มดิบ พบว่า ในปี 2558 จะสามารถสามารถผลิตน้ำมันปาล์มดิบได้ประมาณ 2.03 ล้านตัน และเมื่อบวกกับสต็อกต้นปี 0.17 ล้านตัน รวมทั้งมีการนำเข้าในช่วงต้นปี 0.05 ล้านตัน คาดว่า ทั้งปีจะมีน้ำมันปาล์มดิบทั้งหมด 2.25 ล้านตัน ในขณะที่ความต้องการใช้น้ำมันปาล์มดิบในปี 2558 คาดว่ามีประมาณ 1.87 ล้านตัน โดยแบ่งเป็น ความต้องการใช้เพื่อการบริโภค-อุปโภค 0.95 ล้านตัน เพื่อผลิตไบโอดีเซล 0.85 ล้านตัน และเพื่อการส่งออก 0.07 ล้านตัน จึงคาดว่า ปลายปี 2558 จะมีสต็อกประมาณ 0.38 ล้านตัน อย่างไรก็ตามสต็อกจะเพิ่มขึ้น - ลดลงจากที่คาดไว้มากน้อยเพียงใดขึ้นอยู่กับผลผลิตในไตรมาส 4 ซึ่ง สศก. จะลงไปติดตามและตรวจสอบสถานการณ์การผลิตปาล์มน้ำมัน

ด้านการเคลื่อนไหวของราคาผลปาล์ม (FFB.) และราคาน้ำมันปาล์มดิบ (CPO.) จากสถานการณ์ผลผลิตปาล์มน้ำมันออกสู่ตลาด ตั้งแต่ช่วงปลายปี 2557 ต่อเนื่องถึง ต้นปี 2558 ส่งผลทำให้ ในช่วง มกราคม ถึง กุมภาพันธ์ ราคาผลปาล์มเคลื่อนไหวอยู่ระหว่าง 4.67 – 6.05 บาท/กก. (CPO 32.50 – 37.25 บาท/กก.) และเมื่อผลผลิตเริ่มออกสู่ตลาดเพิ่มขึ้นในช่วงไตรมาส 2 ราคาจึงเริ่มลดลงตั้งแต่ 17 มีนาคม – 22 พฤษภาคม 2558 ซึ่งราคาเคลื่อนไหวอยู่ระหว่าง 2.93 – 4.10 บาท/กก (CPO 24.75 – 28.50 บาท/กก.) และหลังจากมีมาตรการให้ซื้อผลปาล์มทั้งทะลาย (ไม่แยกลูกร่วง) ตามเปอร์เซ็นต์น้ำมันไม่ต่ำกว่า 17% ส่งผลให้ราคาผลปาล์มตั้งแต่วันที่ 23 – 31 พฤษภาคม 2558 ราคามีการปรับตัวตามคุณภาพเปอร์เซ็นต์น้ำมัน อยู่ระหว่าง 4.13 - 4.20 บาท/กก. (CPO 26.63 – 27.75 บาท/กก.)

สำหรับในเดือนมิถุนายนที่ผ่านมานั้น ผลผลิตลดลงจากเดือนพฤษภาคม และคาดว่าผลผลิตในไตรมาส 3 จะเป็นช่วงที่มีผลปาล์มออกสู่ตลาดน้อยที่สุดเมื่อเทียบกับไตรมาสอื่น ทำให้โรงงานสกัดซื้อผลปาล์มในราคาที่สูงกว่าราคาแนะนำ โดยมีราคาอยู่ระหว่าง 4.27 – 4.67 บาท/กก. และโรงกลั่นฯ กำหนดราคารับซื้อ CPO อยู่ระหว่าง 26.63 – 27.88 บาท/กก. ส่วนในเดือนกรกฎาคม 2558 ราคาผลปาล์ม อยู่ระหว่าง 3.74 – 4.15 บาท/กก. เนื่องจากโรงกลั่นฯ ส่วนใหญมีการชะลอการรับซื้อน้ำมันปาล์มดิบจากโรงงานสกัดฯ และรับซื้อในราคาที่ต่ำกว่า 26.20 บาท/กก. ในขณะที่โรงงานสกัดจำนวนหนึ่งเริ่มรับซื้อปาล์มน้ำมัน 4.20 บาท/กก.

ด้านผลการดำเนินมาตรการแก้ไขปัญหาราคาปาล์มน้ำมันทั้งระบบ ตามมติ กนป. ครั้งที่ 3/2558 เมื่อวันที่ 20 พฤษภาคม 2558 ที่ได้กำหนดมาตรการต่างๆ คือ มาตรการระยะสั้น ในส่วนของการรับซื้อผลปาล์มทะลายและผลปาล์มร่วง ในราคาเดียวกัน" อัตราน้ำมันร้อยละ 17 ไม่ต่ำกว่า กก.ละ 4.20 บาท ณ หน้าโรงสกัดฯ/ลานเท (การแก้ปัญหาในระยะเร่งด่วน) พบว่า โรงงานสกัดฯ ได้ดำเนินการรับซื้อเป็นไปตามประกาศของสำนักงานคณะกรรมการกลางว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ (สกกร.) โดยมีการปิดป้ายแสดงราคารับซื้อผลปาล์มน้ำมันทะลายและร่วงราคาเดียวกันในราคา 4.20บาท/กก. ณ 17% อย่างไรก็ตาม จากการติดตามยังมีลานเทรับซื้อแยกผลปาล์มร่วงในราคาที่สูงกว่าผลปาล์มทะลาย และโรงงานสกัดน้ำมันปาล์มเกรด B รับซื้อผลปาล์มร่วงอย่างเดียว โดยลานเทรับซื้อผลปาล์มทะลาย ณ ลานเท กิโลกรัมละ 3.10 - 4.20 บาท และผลปาล์มร่วง กิโลกรัมละ 4.00 - 5.00 บาท ซึ่งกระทรวงพาณิชย์จะได้มีการติดตามอย่างใกล้ชิดต่อไป ทั้งนี้ กรมการค้าภายใน ได้ประสานผู้ว่าราชการจังหวัดเพื่อหาแนวทางแก้ไขปัญหารับซื้อผลปาล์มกับโรงงานสกัดน้ำมันปาล์มเกรด B และลานเทในพื้นที่แล้ว

มาตรการระยะ 3 เดือน การดำเนินการตรวจสอบพื้นที่เพาะปลูกปาล์มของเกษตรกร เพื่อให้ได้ข้อมูลการผลิตที่ถูกต้อง ในคราวประชุม กนป. ครั้งที่ 4/2558 เมื่อวันที่ 13 กรกฎาคม 2558 จึงมีมติเห็นชอบให้มีการแต่งตั้งคณะทำงานตรวจสอบพื้นที่ปลูกปาล์มน้ำมัน ขึ้น เพื่อดำเนินการตรวจสอบพื้นที่ปลูกปาล์มน้ำมันทั้งหมด ทั้งที่มีเอกสารสิทธิ์และไม่มีเอกสารสิทธิ์ และจากการรายงานข้อมูลการขึ้นทะเบียนผู้ปลูกปาล์มน้ำมันกับกรมส่งเสริมกรเกษตร พบว่าปัจจุบันมีเกษตรมาขึ้นทะเบียนแล้วมากกว่า 1.7 แสนครัวเรือน คิดเป็นพื้นที่ปลูกมากกว่า 3 ล้านไร่ และในจำนวนดังกล่าวเป็นที่ที่ไม่มีเอกสารสิทธิประมาณ 7 แสนไร่ และยังไม่รวมถึงพื้นที่ปลูกปาล์มของภาคเอกชนที่มีขนาดแปลงที่ค่อนข้างใหญ่และไม่ประสงค์ที่จะมาขึ้นทะเบียน และพื้นที่ปลูกที่อยู่ในป่า

ดังนั้นคณะทำงานฯชุดดังกล่าวจึงได้นำภาพถ่ายดาวเทียมของ GISTDA. ภาพถ่ายดาวเทียมพื้นที่ป่าไม้ ของกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม รวมถึงภาพถ่ายดาวเทียมพื้นที่ปลูกปาล์มน้ำมัน ของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ มาพิจารณาร่วมกันเพื่อให้เกิดความชัดเจน และพื้นที่ไหนที่ยังเป็นปัญหา คณะทำงานฯ ชุดนี้ ก็จะต้องลงไปในพื้นที่ร่วมกับสภาเกษตรกร เพื่อยืนยันความถูกต้องอีกครั้งหนึ่ง ซึ่งคณะทำงานตรวจสอบพื้นที่ปลูกปาล์มน้ำมัน คาดว่าจะสามารถดำเนินการได้แล้วเสร็จภายในเดือนกันยายนนี้ นอกจากนี้ เพื่อให้มีข้อมูลที่ถูกต้องและครบถ้วนในการบริหารจัดการหรือแก้ไขปัญหาได้อุตสาหกรรมปาล์มน้ำมัน ทั้งระบบ ในคราวประชุม กนป. ครั้งที่ 4/2558 ได้มีการตั้งคณะทำงานเพิ่มขึ้นอีก 2 ชุด คือ คณะทำงานบูรณาการข้อมูลด้านผลผลิตปาล์มน้ำมันการใช้และสต็อกน้ำมันปาล์ม และคณะทำงานเฉพาะกิจเพื่อตรวจสอบสต็อกน้ำมันปาล์ม

มาตรการระยะยาว ได้กำหนดแนวทางไว้ 2 เรื่อง คือ 1) การพัฒนาโรงงานสกัดน้ำมันปาล์ม และ 2) เร่งรัดดำเนินการยกร่าง พ.ร.บ.ปาล์มน้ำมันและน้ำมันปาล์ม ให้แล้วเสร็จโดยเร็ว สำหรับการพัฒนาโรงงานสกัดน้ำมันปาล์ม กนป.ครั้งที่ 4/2558 ในคราวเดียวกัน ได้มีมติเห็นชอบให้มีการแต่งตั้งคณะอนุกรรมการพัฒนาโรงงานสกัดน้ำมันปาล์ม เพื่อศึกษาและจัดทำแนวทางส่งเสริมและสนับสนุนในการพัฒนาโรงงานสกัดน้ำมันปาล์ม ให้โรงงานสกัดน้ำมันปาล์มเกรด B สามารถพัฒนาเป็นโรงงานสกัดแบบแยกเมล็ดในได้ (โรงงานสกัดน้ำมันปาล์มเกรด A) และให้โรงงานสกัดน้ำมันปาล์มเกรด A สามารถผลิตผลิตภัณฑ์มูลค่าสูงจากน้ำมันปาล์มได้ สำหรับในส่วนเรื่องของการเร่งรัดการยกร่าง พรบ. ปาล์มน้ำมันและน้ำมันปาล์มให้แล้วเสร็จโดยเร็ว นั้น คณะอนุกรรมการยกร่างพระราชบัญญัติปาล์มน้ำมันและน้ำมันปาล์ม เมื่อวันที่ 11 มิถุนายน 2558 ได้มีการแต่งตั้งคณะทำงาน กำกับ และจัดทำร่าง พรบ.ปาล์มน้ำมันและน้ำมันปาล์ม ขึ้นมาเพื่อมาดำเนินการในเรื่องดังกล่าว และคาดว่าคณะทำงานฯ ชุดดังกล่าวจะสามารถดำเนินการยกร่าง พรบ. ปาล์มน้ำมันและน้ำมันปาล์มให้แล้วเสร็จ และสามารถนำร่างพ.ร.บ.ปาล์มน้ำมันและน้ำมันปาล์มฉบับดังกล่าว นำเสนอต่อ กนป. เพื่อพิจารณาได้ทันภายในเดือนตุลาคม นี้ ก่อนที่จะนำร่าง พรบ. ปาล์มน้ำมันและน้ำมันปาล์ม ลงไปประชาพิจารณ์เพื่อสร้างความเข้าใจและรับฟังความคิดเห็นจากผู้มีส่วนได้เสียในพื้นที่ แลนำร่าง พรบ.ปาล์มน้ำมันและน้ำมันปาล์ม นำเสนอ ต่อ ครม. เพื่อพิจารณา ต่อไป

สำหรับทิศทางอุตสาหกรรมปาล์มน้ำมันของไทยในอนาคต ควรให้ความสำคัญในเรื่องของการพัฒนาอุตสาหกรรมปาล์มน้ำมันให้มีความยั่งยืน เพื่อสร้างความมั่นคงทางด้านอาหาร และพลังงานที่สะอาดและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม โดยเฉพาะในเรื่องของการเพิ่มประสิทธิภาพการผลิต เช่น การใช้เครื่องจักรทดแทนแรงงาน การส่งเสริมการบริหารจัดการภายในสวนที่ดี โดยเฉพาะเรื่องการใส่ปุ๋ยตามค่าวิเคราะห์ดินและใบ การตัดแต่งทางใบปาล์ม การเก็บเกี่ยวผลปาล์มสุกซึ่งจะให้เปอร์เซ็นต์น้ำมันสูง การจัดการสวนปาล์มหลังเก็บเกี่ยวที่ดี และการส่งเสริมการผลิตน้ำมันปาล์มตามมาตรฐาน RSPO ซึ่งจะช่วยให้ต้นทุนในการผลิตปาล์มน้ำมันลดลง ทั้งนี้ กระทรวงเกษตรฯ ได้ยกร่างยุทธศาสตร์ปาล์มน้ำมันและน้ำมันปาล์ม ปี 2558-2569 เสร็จเรียบร้อยแล้ว และอยู่ระหว่างขั้นตอนเสนอ ครม. ซึ่งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะสามารถนำไปใช้เป็นกรอบและแนวทางในการพัฒนาอุตสาหกรรมปาล์มน้ำมันและน้ำมันปาล์มที่เป็นไปในทิศทางเดียวกัน เพื่อสนับสนุนความมั่นคงด้านอาหารและพลังงาน ลดความเหลื่อมล้ำทางด้านรายได้ และการใช้ฐานทรัพยากรการผลิตอย่างยั่งยืนได้ต่อไป

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๒๒ พ.ย. รีเลชั่นชิพรีพับบลิค แนะกลยุทธ์สำคัญ นำพาธุรกิจร้านอาหารสู่ความสำเร็จ มัดใจลูกค้าให้อยู่หมัด
๒๒ พ.ย. ชมนวัตกรรมสุดล้ำในงาน METALEX 2024 หลายแบรนด์แกะกล่องเครื่องจักรครั้งแรกในงานนี้
๒๒ พ.ย. Bangkok Illustration Fair 2024 สู่การเติบโตก้าวใหญ่ในปีที่ 4
๒๒ พ.ย. ผลการจัดอันดับขีดความสามารถในการแข่งขันด้านดิจิทัลโดย IMD ประจำปี 2567 TMA เผยไทยครองอันดับ 37 ในการจัดอันดับด้านดิจิทัลปีนี้
๒๒ พ.ย. โก โฮลเซลล์ จัดเต็มสินค้า ส่งสุข สุดอร่อย เฉลิมฉลองเทศกาลส่งท้ายปี เข้มกระเช้าปีใหม่ดีมีมาตรฐาน พร้อมชู อาหารแช่แข็ง-อาหารสด
๒๒ พ.ย. กทม. จับมือสถานทูตเนเธอร์แลนด์ ประจำประเทศไทย จัดประชุมเชิงปฏิบัติการ ACTIVE Workshop เมืองเดินเท้า และจักรยานสัญจร ครั้งที่
๒๒ พ.ย. สัมผัสความหรูหราของวิลล่าริมทะเล VEYLA NATAI RESIDENCES ผ่านประสบการณ์เหนือระดับในงาน SOUL of VEYLA
๒๒ พ.ย. 'แอสเซทไวส์' จับมือ 'สยามกีฬา' เปิดศึกลูกหนังยุวชนทัวร์นาเมนต์ใหญ่แห่งปี AssetWise Siamkeela Cup 2024-25 ต่อเนื่องเป็นปีที่
๒๒ พ.ย. โรงแรมเรเนซองส์ เปิดตัว R FINDS แพลตฟอร์มดิจิทัลระดับโลก ที่จะเชื่อมมนต์เสน่ห์ชุมชนท้องถิ่นสู่นักเดินทางทั่วโลก
๒๒ พ.ย. electric.neon.lamp หยิบเพลงฮิต แม้ ใส่ฟีลดนตรีเหงาปนเศร้าในแบบ Piano Version