การจ้างงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐเพิ่มขึ้นตามคาด
แนวโน้มราคาทองคำคาดเคลื่อนไหวในกรอบ 1,080-1,100 ดอลลาร์
- สัปดาห์ที่ผ่านมาราคาทองคำยังปรับตัวลงต่อเนื่องเป็นสัปดาห์ที่ 7 ท่ามกลางเงินดอลลาร์ที่แข็งค่าขึ้นและความกังวลว่าเฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย รวมทั้งนักลงทุนรอดูการเปิดเผยการจ้างงานของสหรัฐเดือนก.ค. ซึ่งคาดว่าจะทำให้เกิดความชัดเจนเกี่ยวกับการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยและทิศทางของเงินดอลลาร์สหรัฐ
- สำหรับการจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือนก.ค.ที่ประกาศในคืนวันศุกร์ที่ผ่านมาเพิ่มขึ้น 215,000 ตำแหน่ง ใกล้เคียงกับตลาดที่คาดการณ์ว่าจะเพิ่มขึ้น 220,000 ตำแหน่ง นอกจากนี้ได้มีการปรับการจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือนมิ.ย.ที่รายงานครั้งก่อนจากเพิ่มขึ้น 223,000 ตำแหน่ง เป็นเพิ่มขึ้น 231,000 ตำแหน่ง ขณะที่อัตราการว่างงานเดือนก.ค.ทรงตัวที่ระดับ 5.3% ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบ 7 ปี ทำให้ตลาดคาดการณ์ว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ตัดสินใจขึ้นดอกเบี้ยเร็วๆนี้ แต่มองว่าข้อมูลดังกล่าวยังไม่แข็งแกร่งพอที่จะทำให้เฟดขึ้นดอกเบี้ยอย่างต่อเนื่องหลายครั้ง ทำให้ราคาทองคำเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมายังเคลื่อนไหวในกรอบ 1,080-1,100 ดอลลาร์/ออนซ์
- สัปดาห์นี้สหรัฐไม่ค่อยมีการเปิดเผยตัวเลขเศรษฐกิจที่สำคัญ หลังจากที่สัปดาห์ที่ผ่านมามีประเด็นให้ติดตามอย่างเข้มข้น สหรัฐจะมีเพียงการเปิดเผยดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) เดือนก.ค.และดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนส.ค.ของมหาวิทยาลัยมิชิแกนในวันศุกร์ โดยส่วนใหญ่จะมีการเปิดเผยตัวเลขเศรษฐกิจของจีน ทำให้คาดว่าราคาทองคำน่าจะเคลื่อนไหวไม่ผันผวนมากนัก
- แนวโน้มราคาทองคำคาดเคลื่อนไหวในกรอบ 1,080-1,100 ดอลลาร์/ออนซ์ ซึ่งนักลงทุนสามารถซื้อขายตามกรอบแนวรับแนวต้านดังกล่าว ระยะสั้นราคาทองคำมีแนวรับสำคัญที่ 1,080 ดอลลาร์/ออนซ์ กรณีที่ราคาทองคำหลุดแนวรับดังกล่าวจะทำให้ราคาทองคำมีแนวรับถัดไปที่ 1,072 ดอลลาร์/ออนซ์ ขณะที่ระยะสั้นแนวต้านที่ 1,100-1,105 ดอลลาร์/ออนซ์คาดว่าจะมีแรงเทขายออกมา