นางรตยา เปิดเผยว่า ด้วยการทำงานการดูแลรักษาผืนป่าตะวันตกร่วมกันจากทุกภาคส่วน ทำให้ผืนป่าแห่งนี้คงความอุดมสมบูรณ์ไว้ได้ เป็นแหล่งระบบนิเวศอุดมสมบูรณ์ โดยมูลนิธิสืบนาคะเสถียรได้ร่วมกับกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช หนุนเสริมให้พื้นที่อนุรักษ์ทั้ง 17 แห่งในผืนป่าตะวันตกได้พัฒนางานอนุรักษ์ในพื้นที่ แยกการทำงานออกเป็น 3 ส่วน คือ ใจกลางป่า มีการพัฒนางานลาดตระเวนให้มีประสิทธิภาพ ในแต่ละเดือนพิทักษ์ป่าเดินลาดตระเวนป่ากว่า 20 วัน ระยะทางเดินรวมเฉลี่ย 600 กิโลเมตรต่อพื้นที่อนุรักษ์ โดยใช้ระบบการลาดตระเวนเชิงคุณภาพเพื่องานป้องกันและปราบปราม บริเวณแนวขอบป่า มีการทำงานร่วมกับชุมชน กลุ่มองค์กร และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการเข้ามามีบทบาทร่วมเป็นคณะกรรมการที่ปรึกษาการบริหารจัดการพื้นที่อนุรักษ์ และสำหรับชุมชนที่ประชิดขอบป่า ในพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติ มีการดำเนินงานร่วมกับกรมป่าไม้ในการจัดตั้งป่าชุมชน 154 แห่ง เพื่อให้ประชาชนมีบทบาทในการดูแลรักษา และจัดการทรัพยากรในพื้นที่ได้อย่างยั่งยืน ทั้งนี้มูลนิธิสืบนาคะเสถียรได้ร่วมกับกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ดำเนินโครงการจัดการพื้นที่คุ้มครองอย่างมีส่วนร่วมในระยะที่ 1 นับตั้งแต่ปี 2547
ดร. ไพรินทร์ กล่าวว่า ปตท.ได้มีโอกาสเข้าร่วมเป็นส่วนหนึ่งของการสนับสนุนโครงการอนุรักษ์ผืนป่าตะวันตกในระยะที่ 2 นับตั้งแต่ปี 2553 และ ปตท.มีความรู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ความร่วมมือในช่วงระยะเวลาที่ผ่านมานั้นมีส่วนสำคัญในการต่อยอดฟื้นฟูผืนป่าตะวันตกที่เป็นผืนป่าที่ใหญ่ที่สุดของไทย อีกทั้งสามารถกักเก็บคาร์บอนได้เป็นจำนวนมาก จากผลสัมฤทธิ์ที่ผ่านมาจึงนำมาสู่ความร่วมมืออย่างต่อเนื่องในการลงนามความร่วมมือในวันนี้
นางรตยา กล่าวว่า ก้าวต่อไปของการทำงาน คือ การพัฒนาระบบงานอนุรักษ์ในผืนป่าตะวันตก ที่จะเชื่อมร้อยระบบงานอนุรักษ์ในผืนป่าตะวันตกให้เกิดการทำงานร่วมกันทั้ง 3 ส่วน มีรูปแบบการดำเนินงาน ดังนี้