ปัจจัยสนับสนุนอันดับเครดิต
อันดับเครดิตของ FNS สะท้อนถึงเครือข่ายการดำเนินงานภายในประเทศของบริษัทที่มีขนาดค่อนข้างจำกัดและเป็นกลุ่มลูกค้าเฉพาะ (niche) และยังสะท้อนถึงแนวโน้มผลการดำเนินงานของบริษัทที่น่าจะปรับตัวดีขึ้น เนื่องจากแผนการปรับปรุงโครงสร้างธุรกิจของบริษัทได้ดำเนินการมาจนใกล้ที่จะแล้วเสร็จ แม้ว่าบริษัทจะมีระดับหนี้สินที่ปรับตัวสูงขึ้นและฐานะเงินทุนปรับตัวอ่อนแอลงมาบ้าง เนื่องจากมีการลงทุนเพิ่มขึ้นในธุรกิจโรงงานและคลังสินค้าเพื่อเช่า อย่างไรก็ตามความเสี่ยงดังกล่าวน่าจะยังอยู่ในระดับที่บริหารจัดการได้เนื่องจากรายได้และกำไรจากธุรกิจดังกล่าวน่าจะมีเสถียรภาพ
การปรับแนวโน้มอันดับเครดิตเป็นมีเสภียรภาพ มีปัจจัยมาจากแนวโน้มการดำเนินงานที่มีความชัดเจนมากขึ้นว่าการปรับโครงสร้างธุรกิจของบริษัทน่าจะช่วยให้ผลการดำเนินงาน ระดับหนี้สิน และฐานะเงินกองทุนของบริษัทสามารถปรับตัวมีเสถียรภาพมากขึ้น
ผลการดำเนินงานของ FNS น่าจะปรับตัวดีขึ้นในปี 2558 เนื่องจากรายได้ที่เพิ่มขึ้นทั้งรายได้จากการดำเนินงานปกติและรายได้จากการจำหน่ายสินทรัพย์ (บริษัทลูกซึ่งเป็นบริษัทบริหารสินทรัพย์และพื้นที่สำนักงาน) รายได้จากธุรกิจวาณิชธนกิจน่าจะปรับตัวดีขึ้น เนื่องจากคาดว่าจะมีธุรกรรมของลูกค้ารายใหญ่ของบริษัทที่สามารถจะดำเนินการให้แล้วเสร็จได้เพิ่มขึ้นในปี 2558 เนื่องจากเป็นธุรกรรมที่ถูกเลื่อนมาจากปี 2557 นอกจากนี้ FNS ยังคาดว่าจะมีกำไรจากการลงทุนในกองทุนหุ้นนอกตลาดในสหรัฐฯ ซึ่งได้เริ่มจ่ายผลตอบแทนมาตั้งแต่ปี 2557 นอกจากนี้รายได้ที่เพิ่มขึ้นจากธุรกิจคลังสินค้าและโรงงานให้เช่าน่าจะช่วยสนับสนุนให้ผลการดำเนินงานของบริษัทปรับตัวดีขึ้น
ถ้าการแลกหุ้นในบริษัทร่วมของ FNS ซึ่งคือบริษัท บริษัท พรอสเพค ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด หรือ PD กับบริษัทมั่นคงเคหะการจำกัด (มหาชน) หรือ MK ซึ่งเป็นบริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ในประเทศไทย สามารถที่จะเสร็จสิ้นลงได้ในช่วงไตรมาส ที่ 4 ปี 2558 ปัจจัยดังกล่าวน่าจะช่วยสนับสนุนผลการดำเนินงานของ FNS ให้ปรับตัวดีขึ้นในระยะปานกลาง เนื่องจาก MK มีความสามารถในการทำกำไรที่ค่อนข้างสม่ำเสมอกว่า PD นอกจากนี้การที่ MK เป็นบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ การถือหุ้นของ MK จึงน่าจะช่วยสนับสนุนโครงสร้างและสัดส่วนสภาพคล่องของ FNS
ในระยะยาวผลการดำเนินงานของ FNS น่าจะยังคงผันผวนตามสภาวะตลาดหลักทรัพย์และลักษณะของธุรกิจวาณิชธนกิจที่มีรายได้ตามงานที่รับจึงอาจไม่มีความต่อเนื่อง ซึ่งธุรกิจวาณิชธนกิจยังคงเป็นธุรกิจหลักและจุดแข็งของบริษัท อย่างไรก็ตามระดับความผันผวนดังกล่าวน่าจะปรับตัวลดลงบ้าง เนื่องบริษัทมีการกระจายตัวของแหล่งรายได้ที่ดีขึ้น
แม้ว่าผลการดำเนินงานของบริษัทน่าจะมีแนวโน้มที่ปรับตัวดีขึ้น อีกทั้งการปรับโครงสร้างธุรกิจน่าจะช่วยให้บริษัทมีรายได้เพิ่มมากขึ้น ผลการดำเนินงานของ FNS น่าจะยังคงมีความผันผวนอยู่ เนื่องจากโครงสร้างธุรกิจของบริษัทโดยรวมยังมีลักษณะที่ผันผวน แต่อย่างไรก็ตามด้วยฐานะเงินทุนของบริษัทที่ยังคงอยู่ในระดับที่ยอมรับได้ ซึ่งสะท้อนได้จากอัตราส่วนส่วนของผู้ถือหุ้นต่อสินทรัพย์ที่ 66.6% ณ สิ้นเดือนมีนาคม 2558 โดยปัจจัยดังกล่าวน่าจะสามารถรองรับความเสี่ยงได้ในระดับหนึ่งในระยะปานกลาง
ปัจจัยที่อาจมีผลต่ออันดับเครดิตสากลในอนาคต
ด้วยขนาดและโครงสร้างของเครือข่ายทางธุรกิจของบริษัทในปัจจุบันโอกาสที่อันดับเครดิตจะได้รับการปรับเพิ่มอันดับนั้นมีค่อนข้างจำกัด การที่บริษัทมีผลการดำเนินงานที่ขาดทุนอย่างมีนัยสำคัญ รวมทั้งการปรับตัวเพิ่มขึ้นของระดับหนี้สินและการปรับตัวลดลงของความเชื่อมั่นของเจ้าหนี้ต่อบริษัท อาจส่งผลให้อันดับเครดิตถูกปรับลดอันดับ
รายละเอียดของการประกาศอันดับเครดิตทั้งหมด มีดังนี้
- อันดับเครดิตภายในประเทศระยะยาวคงอันดับที่ 'BBB-(tha)' ปรับแนวโน้มอันดับเครดิตเป็นมีเสถียรภาพ จากแนวโน้มอันดับเครดิตเป็นลบ
- อันดับเครดิตภายในประเทศระยะสั้นคงอันดับที่ 'F3(tha)'