DTC ผนึกพันธมิตรญี่ปุ่น พัฒนานวัตกรรม GPS TRACKING ขยายช่องทางธุรกิจ หวังขึ้นแท่นผู้นำ M2M Solution ตลาดอาเซียน

พฤหัส ๑๓ สิงหาคม ๒๐๑๕ ๑๗:๒๗
บริษัท ดี.ที.ซี.เอ็นเตอร์ไพรส์ จำกัด ผู้นำตลาด GPS TRACKING และ M2M Solution ของประเทศไทย ขายหุ้น 9% ให้พันธมิตรจากญี่ปุ่น เปิดทางร่วมทุนขยายโอกาสทางธุรกิจ หวังร่วมพัฒนานวัตกรรม GPS TRACKING ให้ทันสมัยเตรียมความพร้อมสู่การเปิดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (AEC)

นายทศพล คุณะเพิ่มศิริ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ดี.ที.ซี.เอ็นเตอร์ไพรส์ จำกัด ผู้พัฒนาเทคโนโลยีและผู้นำตลาด GPS TRACKING และ M2M Solution เปิดเผยว่า ปัจจุบัน ทั่วโลกต่างนำเทคโนโลยีระบบการบริหารจัดการขนส่ง GPS TRACKING มาใช้ในการดำเนินธุรกิจให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น โดยสามารถติดตามและควบคุมระบบขนส่งให้มีศักยภาพ และมีความปลอดภัยสูง ดี.ที.ซี. จึงมี Solution ต่างๆ เพื่อรองรับอัตราการเติบโตของตลาด ที่เฉลี่ยเติบโตร้อยละ 30 ต่อปี และมีมูลค่าตลาดรวมอยู่ที่ 1,000 ล้านบาท* โดยปัจจุบัน ดี.ที.ซี. เป็นหนึ่งในผู้ให้บริการ GPS Tracking Service ที่ใหญ่ที่สุดใน South East

อย่างไรก็ตาม เพื่อเพิ่มโอกาสทางธุรกิจ บริษัทฯ จึงได้ลงนามสัญญาขายหุ้นในสัดส่วนร้อยละ 9 ให้กับพันธมิตร บริษัท ยาซากิ เอ็นเนอร์ยี่ ซิสเท็มส์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด ผู้ประกอบการธุรกิจผลิตชิ้นส่วนประกอบรถยนต์รายใหญ่ จากประเทศญี่ปุ่น โดยการร่วมมือดังกล่าว จะเป็นการนำความรู้ความชำนาญ ประสบการณ์การทำงาน และจุดแข็งของทั้งสองบริษัทฯ มาร่วมกันพัฒนานวัตกรรมระบบ GPS TRACKING ให้เป็นอุปกรณ์ที่ใช้เทคโนโลยีที่ทันสมัยและตอบสนองความต้องการของลูกค้าในธุรกิจขนส่งได้เป็นอย่างดี เพื่อเตรียมความพร้อมสู่การเปิดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (AEC) และเปิดช่องทางใหม่ทางธุรกิจสำหรับทั้งสองบริษัทฯ โดยล่าสุด ได้เริ่มโครงการผลิตอุปกรณ์ควบคุมและตรวจสอบพฤติกรรมการใช้งานยานพาหนะให้กับบริษัทผู้ผลิตรถยนต์รายใหญ่ จากประเทศญี่ปุ่น ซึ่งเป็นที่รู้จักไปทั่วโลก และกำลังจะเปิดตัวอย่างเป็นทางการในเร็วๆ นี้

นอกจากนี้ การร่วมทุนดังกล่าวจะนำมาซึ่งผลประโยชน์ทางธุรกิจ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการเจาะกลุ่มตลาดอุตสาหกรรมผลิตรถยนต์ของญี่ปุ่น ที่ถือว่าเป็นกลุ่มตลาด GPS TRACKING ขนาดใหญ่ ทั้งนี้ คาดว่าจะช่วยเพิ่มอัตราการเติบโตในธุรกิจของทางบริษัทฯ คิดเป็นร้อยละ 30 และสำหรับในปี 2558 บริษัทฯ ตั้งเป้ารายได้จะเติบโตเพิ่มขึ้นจากปี 2557 ร้อยละ 20 คิดเป็นรายได้ 1,000 ล้านบาท โดยสัดส่วนรายได้แบ่งเป็นในประเทศร้อยละ 80 และต่างประเทศร้อยละ 20 ซึ่งปัจจุบัน บริษัทฯ ถือเป็นผู้นำธุรกิจ GPS TRACKING ติดตามรถของภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกในกว่า 10 ประเทศ อาทิ จีน ฟิลิปปินส์ อินโดนีเซีย อินเดีย บังคลาเทศ เวียดนาม ลาว เคนยา มาเลเซีย ฮ่องกง ทำให้วันนี้ บริษัทฯ ยังคงความเป็นเจ้าตลาด GPS Tracking ได้อย่างยั่งยืน

"จากสภาวะเศรษฐกิจที่ซบเซาในปัจจุบัน ไม่ส่งผลกระทบต่อการเติบโตของธุรกิจ GPS TRACKING แต่อย่างใด ในทางตรงกันข้าม ทิศทางอุตสาหกรรมของ GPS TRACKING จะได้รับความนิยมจากกลุ่มผู้ประกอบการอุตสาหกรรมต่างๆ เพิ่มขึ้น เนื่องจากช่วยลดต้นทุนด้านระบบขนส่ง และเพิ่มขีดความสามารถด้านการแข่งขันได้อย่างมีศักยภาพ ขณะเดียวกัน เรายังคงมุ่งพัฒนานวัตกรรม GPS TRACKING อย่างต่อเนื่อง โดยมีเป้าหมายเป็นผู้นำในด้าน machine-to-machine solution หรือ M2M Solution (เทคโนโลยีที่ทำให้อุปกรณ์ต่างๆสามารถส่งข้อมูลระหว่างกันเองได้) ของภูมิภาคนี้ต่อไป"นายทศพล กล่าว

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๐๙:๐๐ วิทยาลัยดุสิตธานี เซ็น MoU กับ บริษัท หยั่น หว่อ หยุ่น คอร์ปอเรชั่น กรุ๊ป จำกัด
๐๙:๑๑ บางจากฯ สะท้อนความเป็นเลิศด้วย 2 รางวัลพระราชทาน และ 5 รางวัลดีเด่น จาก TMA Excellence Awards 2024
๐๙:๑๙ มูลนิธิรางวัลสมเด็จเจ้าฟ้ามหิดล ในพระบรมราชูปถัมภ์ คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล และกระทรวงการต่างประเทศ
๐๘:๓๐ เบตเตอร์ กรุ๊ป โชว์ศักยภาพความเป็นผู้นำด้านการบริหารจัดการแบบ One Stop Service ในงาน Thailand Industrial Conference
๐๘:๕๗ กทม. เตรียมพร้อมมาตรการเฝ้าระวัง-ป้องกันการแพร่ระบาดโรคฝีดาษลิงในกรุงเทพฯ
๐๘:๕๑ สจส. คืนช่องจราจรแยกพร้อมจิต พร้อมปรับช่องทางคนเดินกว้าง 1.20 เมตร
๐๘:๒๑ กทม. จัดสรรงบฯ จัดซื้อนมโรงเรียนในสังกัด พร้อมกำกับดูแลการส่งมอบ-รับมอบให้มีคุณภาพ
๐๘:๐๘ โรงแรมเรเนซองส์ กรุงเทพฯ เปิดตัว R FINDS แพลตฟอร์มดิจิทัลระดับโลก ที่จะเชื่อมมนต์เสน่ห์ชุมชนท้องถิ่นสู่นักเดินทางทั่วโลก
๐๘:๔๙ Taiwan Excellence นำเสนอมิติใหม่แห่งวงการอุตสาหกรรมโลหการ ชูวิสัยทัศน์เด่น Innovate for Green Metalwork ที่ Metalex
๐๘:๒๑ ซินเน็คฯ เปิด Nintendo Authorized Store by SYNNEX แห่งแรกในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้