นายมนัส แจ่มเวหา อธิบดีกรมบัญชีกลาง เปิดเผยภายหลังการลงนามบันทึกความร่วมมือกับ นายแพทย์เฉลิม หาญพานิชย์ นายกสมาคมโรงพยาบาลเอกชน เรื่อง การดำเนินโครงการเบิกจ่ายตรงประเภทผู้ป่วยใน สถานพยาบาลของเอกชน กรณีนัดผ่าตัดล่วงหน้า ณ อาคารเฉลิมพระบารมี 50 ปี ว่า โครงการนี้เป็นส่วนต่อยอดจากโครงการเดิม เมื่อปี 2554 ซึ่งมีจำนวนโรงพยาบาลเอกชนที่ให้บริการเพียง 30 แห่งเท่านั้น และเพื่อให้ข้าราชการและครอบครัวมีช่องทางในการเข้ารับบริการมากยิ่งขึ้น จึงได้ขยายจำนวนโรงพยาบาลเอกชนเพิ่มขึ้นอีก 66 แห่ง รวมเป็น 96 แห่ง ครอบคลุมส่วนภูมิภาคทั่วประเทศ อีกทั้งยังได้เพิ่มจำนวนโรคที่กำหนดไว้ จากเดิม 78 โรค เป็น 86 โรค เช่น ผ่าตัดไส้เลื่อนการผ่าตัดแก้ไขโพรงกระดูกสันหลังส่วนเอวตีบแคบ การผ่าตัดเอ็นหน้าข้อเข่า เป็นต้น
ในส่วนของค่าใช้จ่ายนั้น กรมบัญชีกลางให้เบิกจ่ายค่ารักษาพยาบาลในอัตราเช่นเดียวกับการเข้ารับบริการในโรงพยาบาลรัฐ ซึ่งข้าราชการหรือครอบครัวจะต้องมีส่วนร่วมจ่ายบางส่วน เช่น ค่าธรรมเนียมแพทย์ และค่าธรรมเนียมพิเศษ เป็นต้น
อธิบดีกรมบัญชีกลาง กล่าวต่อว่า โครงการนี้สำเร็จได้ด้วยดีจากการให้ความร่วมมือและการให้การสนับสนุนการดำเนินงานจากสมาคมโรงพยาบาลเอกชน ทั้งในเรื่องของการรับสมัครโรงพยาบาลเข้าร่วมโครงการ การอบรม และการประชาสัมพันธ์โครงการนี้
“ผลจากการขยายจำนวนโรงพยาบาลและจำนวนโรคให้ครอบคลุมมากยิ่งขึ้น ทำให้ผู้ป่วยที่ต้องเข้ารับการผ่าตัดได้รับการรักษาเร็วขึ้น ไม่ต้องรอคิวนาน รวมทั้งเป็นการเพิ่มทางเลือกให้กับข้าราชการอีกทางหนึ่ง ที่สำคัญคือช่วยยกระดับคุณภาพชีวิตของผู้ป่วยที่อยู่ในระบบสวัสดิการรักษาพยาบาลข้าราชการให้ดีขึ้น สอบถามเพิ่มเติมได้ที่กรมบัญชีกลาง โทร. 02 127 7000 ต่อ 4614 ในวันและเวลาราชการ” นายมนัสกล่าว