นายโจเซฟ สุเชาว์วณิช ประธานเจ้าหน้าที่บริหารบริษัท บางกอกแร้นช์ จำกัด (มหาชน) หรือ BR Group บริษัทผู้ผลิตและจำหน่ายเนื้อเป็ดครบวงจรรายใหญ่ของไทยเปิดเผยว่า “ผลประกอบการไตรมาสที่ 2 ของปี 2558 ของบริษัทมีรายได้จากการขายรวม 1,947 ล้านบาท ลดลง 10% จากไตรมาส 2 ของปี 2557 ซึ่งมีจำนวน 2,152 ล้านบาท ทำให้กำไรสุทธิในไตรมาส 2 ของปี 2558 มีจำนวน 136 ล้านบาท หรือลดลง 24% จากไตรมาส 2 ของปี 2557 ซึ่งมีกำไรสุทธิ 179 ล้านบาท”
นายโจเซฟกล่าวว่า “ในไตรมาส 2 ของปี 2558 กลุ่มบริษัทต้องเผชิญกับความท้าทายอย่างมาก ทั้งจากภาวะถดถอยทางเศรษฐกิจทั่วโลก อีกทั้งช่วงเวลานี้ของทุกปีการส่งออกจะชะลอตัว เนื่องจากมียอด สั่งซื้อสินค้าจำนวนมากในไตรมาสแรกของปี แม้ว่าบริษัทจะมีการปริมาณการส่งออกเนื้อเป็ดไปทวีปยุโรป เพิ่มมากขึ้น แต่รายได้รวมของบริษัทกลับลดลง สาเหตุมาจากผลกระทบจากค่าเงินบาทที่ในปีนี้แข็งค่า มากขึ้นประมาณ 19% เมื่อเทียบกับค่าเงินยูโรในช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยอัตราแลกเปลี่ยนถัวเฉลี่ย ของเงินบาทเมื่อเทียบกับค่าเงินยูโรในไตรมาส 2 ของปี 2557 อยู่ที่ 44.6 บาทต่อยูโร ในขณะที่ไตรมาส 2 ของปี 2558 อยู่ที่ 36.4 บาทต่อยูโร ซึ่งลดลงถึง 19% ส่งผลให้รายได้จากการขายของ ส่วนงานต่างประเทศ เมื่อคิดเป็นเงินบาทแล้วลดลง จากตลาดหลักของเราที่เน้นการส่งออกไป สหราชอาณาจักร, เนเธอร์แลนด์, เยอรมนี และญี่ปุ่น”
คุณชยุตม์ หลีหเจริญกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหารฝ่ายการเงินกลุ่มบริษัท กล่าวเสริมว่า “ เมื่อเดือนกรกฎาคมนี้ บริษัทฯได้ระดมทุนจำนวน 2,006.4 ล้านบาท ด้วยการขายหุ้นเพิ่มทุน IPO และได้นำเงิน บางส่วน ไปคืนเงินกู้สถาบันการเงิน ซึ่งจะทำให้นับตั้งแต่ครึ่งปีหลังเป็นต้นไป บริษัทฯมี สถานะการเงินที่เข้มแข็งยิ่งขึ้น นอกจากนี้ บริษัทฯ ได้เตรียมสร้าง โรงงานแปรรูปเนื้อเป็ดเพิ่มขึ้นอีก 1 แห่ง คาดว่าจะแล้วเสร็จภายในปี 2559 ซึ่งจะทำให้เรามีกำลังการผลิต ได้ กว่า 50% เพื่อรองรับออเดอร์ที่เพิ่มขึ้นทั้งในประเทศและต่างประเทศ โดยโรงงานแห่งใหม่ ตั้งอยู่ที่จังหวัดสระแก้ว นับว่าเป็นจุดยุทธศาสตร์ที่สำคัญในการส่งออกสินค้าไปยังประเทศ ในกลุ่มอาเซียนอย่างลาว กัมพูชา และเวียดนาม ซึ่งจะช่วยลดระยะเวลาและต้นทุนในการส่งสินค้า อีกทั้งตลาด ในกลุ่ม AEC นับว่ามีแนวโน้มสดใส และนับว่าเป็นตลาดใหญ่อีกแห่งรองจากสหภาพยุโรป ที่เป็นลูกค้าหลักของเรา”
ทั้งนี้ บมจ. บางกอกแร้นช์ เป็นหนึ่งในบริษัท ผู้ผลิตอาหารระดับโลกของไทยที่ ได้รับการยอมรับ อย่างกว้างขวางทั่วโลกมากว่า 30 ปี และเมื่อวันที่ 15 กรกฎาคม 2558 บริษัทได้เริ่มทำการซื้อขายหุ้น ในตลาดหลักทรัพย์อย่างเป็นทางการ จุดแข็งของบริษัทคือการดำเนินธุรกิจผลิตเนื้อเป็ด แบบครบวงจรด้วยเทคโนโลยีขั้นสูง บริหารงานโดยผู้บริหารที่มีความเชี่ยวชาญในอุตสาหกรรมทำให้ บริษัทฯ มีจุดแข็งหลาย ประการ อาทิ สามารถผลิตผลิตภัณฑ์เนื้อเป็ดคุณภาพระดับพรีเมี่ยม ด้วย กระบวนการผลิตระดับสากล และมีประสิทธิภาพ มีการพัฒนาอาหารแปรรูป อาหารปรุงสุก อย่างต่อเนื่อง ภายใต้ แบรนด์ต่าง ๆ ของบริษัทฯ เช่น “Dalee” และ “Canature” หรือ ภายใต้ แบรนด์อื่นที่ลูกค้ากำหนด อีกทั้งมีเครือข่ายการกระจายสินค้าในกว่า 30 ประเทศทั่วโลก โดยในปี 2557 บริษัทฯ มีรายได้รวม 8,484 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 661 ล้านบาท