นายปรีดี ดาวฉาย กรรมการผู้จัดการ ธนาคารกสิกรไทย เปิดเผยว่า กลุ่มบริษัท บี.กริม เพาเวอร์ จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทด้านพลังงานชั้นนำของไทย ได้แต่งตั้งให้ธนาคารกสิกรไทยและธนาคารแลนด์แอนด์เฮ้าส์ ให้ทำหน้าที่เป็นผู้จัดการเงินกู้ร่วม (Mandated Lead Arrangers) และสนับสนุนสินเชื่อแก่บริษัทฯ เพื่อดำเนินกิจการโรงไฟฟ้าพลังความร้อนร่วม บี. กริม เพาเวอร์ (แหลมฉบัง) 1 และ โรงไฟฟ้าพลังความร้อนร่วม บี. กริม เพาเวอร์ (แหลมฉบัง) 2 มูลค่ารวม 3,400 ล้านบาท โดยเป็นวงเงินสินเชื่อสกุลบาทและดอลลาร์สหรัฐฯ วงเงินสินเชื่อเพื่อการหมุนเวียนในธุรกิจ จากธนาคารกสิกรไทยกว่า 2,300 ล้านบาท
ทั้งนี้ การปล่อยสินเชื่อเพื่อก่อสร้างโรงไฟฟ้าพลังความร้อนร่วม บี.กริม เพาเวอร์ 1 และ 2 ดังกล่าวสะท้อนความเชื่อมั่นในโครงการโรงไฟฟ้าทั้งสองแห่ง ซึ่งดำเนินการโดยบริษัทบี.กริม เพาเวอร์ ซึ่งเป็นผู้ดำเนินธุรกิจด้านพลังงานไฟฟ้าชั้นนำในประเทศไทย และเป็นกลุ่มธุรกิจพลังงานที่ธนาคารกสิกรไทยให้การสนับสนุนมาโดยตลอด
นางศศิธร พงศธร (ฉัตรศิริวิชัยกุล) กรรมการผู้จัดการ ธนาคารแลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ เปิดเผยว่า ธนาคารฯ ทำหน้าที่ผู้จัดการวงเงินกู้ร่วม (Mandated Lead Arrangers) และให้วงเงินสินเชื่อสำหรับโครงการนี้ ราว 1,100 ล้านบาท ด้วยความเชื่อมั่นในศักยภาพของโครงการโรงไฟฟ้าพลังความร้อนร่วม บี. กริม เพาเวอร์ (แหลมฉบัง) 1 และ 2 ที่มีสัญญาการจำหน่ายไฟฟ้าระยะยาว รวมทั้งอยู่ภายใต้การบริหารงานโดยบริษัทโรงไฟฟ้าชั้นนำ
นางปรียนาถ สุนทรวาทะ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มบริษัท บี.กริม เพาเวอร์ จำกัด เปิดเผยว่า โครงการโรงไฟฟ้าพลังความร้อนร่วม บี. กริม เพาเวอร์ (แหลมฉบัง) 1 และ 2 ตั้งอยู่ที่นิคมอุตสาหกรรมแหลมฉบัง จังหวัดชลบุรี เป็นโรงงานไฟฟ้าพลังงานความร้อนร่วม SPP มีกำลังการผลิตรวม 163 เมกะวัตต์ โดยมีสัญญาการจำหน่ายไฟฟ้าให้แก่การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.)เป็นระยะเวลา 21 ปี และมีสัญญาการจำหน่ายไฟฟ้าให้แก่โรงงานต่าง ๆ ในนิคมอุตสาหกรรมแหลมฉบังเป็นระยะเวลา 5-15 ปี ด้วยโรงไฟฟ้าพลังงานความร้อนร่วม SPP ซึ่งเป็นพลังงานที่มีความเสถียรสูง จึงเป็นโครงการที่มีความมั่นคงทั้งในด้านกำลังการผลิตและแหล่งรับซื้อไฟฟ้า ทั้งนี้ ปัจจุบัน บริษัท บี.กริม เพาเวอร์ มีโครงการโรงไฟฟ้ารวม 18 โครงการ กำลังการผลิตรวม 2,200 เมกะวัตต์ และ ตั้งเป้าหมายที่จะขยายกำลังการผลิตเป็น 5,000 เมกะวัตต์ ภายใน 5 ปีข้างหน้า