เชิดชูเกียรติ 10 ปูชนียบุคคล”ครูศิลป์ ช่างรัก” โครงการครูศิลป์ของแผ่นดิน ปี 2558 ในงาน “นวัตศิลป์ไทย เทิดไท้องค์ราชินี”

พุธ ๑๙ สิงหาคม ๒๐๑๕ ๑๗:๔๒
ศูนย์ส่งเสริมศิลปาชีพระหว่างประเทศ ประกาศยกย่องเชิดชูเกียรติ 10 ศิลปินดีเด่น งานสาขา”เครื่องรัก” ขึ้น ในงาน “นวัตศิลป์ไทย เทิดไท้องค์ราชินี” โครงการเชิดชูครูศิลป์ของแผ่นดิน ประจำปี 2558

นางพิมพาพรรณ ชาญศิลป์ ผู้อำนวยการศูนย์ส่งเสริมศิลปาชีพระหว่างประเทศ (องค์การมหาชน) หรือ ศ.ศ.ป. เปิดเผยว่า ในปีนี้ทางศศป.ได้จัดโครงการเชิดชูครูศิลป์ของแผ่นดิน ประจำปี 2558 เพื่อทำการยกย่องเชิดชูเกียรติงานสาขาเครื่องรักขึ้น เพื่อร่วมอนุรักษ์สืบสานและเก็บรวบรวมองค์ความรู้เพื่อให้เยาวชนคนรุ่นใหม่ได้เล็งเห็นและตระหนักถึงคุณค่าของงานช่างแขนงนี้ให้อยู่คู่สังคมไทยสืบไปตราบนานเท่านาน โดยคณะทำงานได้จัดทำรายชื่อพร้อมประวัติและผลงานของครูช่างศิลปหัตถกรรมพื้นบ้านในประเภทสาขา “เครื่องรัก” ซึ่งในปีนี้ต้องการสะท้อนถึงความเป็นไทย จึงได้เชิญครูช่างรัก ของไทยมาร่วมสร้างสรรผลงานร่วมกับช่างรักจากประเทศเพื่อนบ้านในแถบอาเซียน อาทิ บรูไน เวียตนาม เมียนมา เป็นต้น และเป็นการแสดงให้เห็นเอกลักษณ์ และการอนุรักษ์สืบสานวัฒนธรรมของไทยให้ยั่งยืนต่อไป

ทั้งนี้ ได้มีการนำเสนอให้กับคณะกรรมการคัดสรรรอบแรกจำนวนทั้งสิ้น 31 รายชื่อ และทำการคัดสรรเพื่อเก็บข้อมูลเชิงลึกเพื่อคัดเลือกในรอบสุดท้าย จนได้ครูศิลป์ของแผ่นดินจำนวน 10 ท่าน ดังนี้ ได้แก่ 1.นายมานพ วงศ์น้อย 2.นายม้วน รัตนาภรณ์ 3.นางสาวปัญชลี เดชคง 4.นางดวงกมล ใจคำปัน 5.นายเสถียร ณ วงศ์รักษ์ 6. นางบุญศรี เกิดทรง 7. ม.ล.พงษ์สวัสดิ์ สุขสวัสดิ์ 8. นางศศิธร มงคลเรืองฤทธิ์ 9. นางประเทือง สมศักดิ์ และ10. นายญาณ สองเมืองแก่น โดยประวัติและผลงานของครูศิลป์ของแผ่นดินในสาขาเครื่องรักทั้ง 10 ท่านนี้ ได้ถูกนำเสนอในรูปแบบของหนังสือและวิดิทัศน์เพื่อเพื่อเผยแพร่การทำงานและยกย่องเกียรติคุณในการทำงานอนุรักษ์ศิลปหัตถกรรม พร้อมกับมีการจัดนิทรรศการเทิดทูนครู และเข้ารับโล่เชิดชูเกียรติเมื่อวันที่ 8 สิงหาคม 2558 ณ ศูนย์ส่งเสริมศิลปาชีพระหว่างประเทศที่ผ่านมา

ภูมิปัญญางานศิลปหัตถกรรม เป็นสิ่งที่บ่งบอกถึงวัฒนธรรมและประเพณีของชาติ การสืบสาน ถ่ายทอดความรู้ความชำนาญ เทคนิค และกระบวนการสร้างสรรค์งานหัตถกรรมต่างๆ จำเป็นต้องมีปัจจัยสำคัญที่ช่วยถ่ายทอดความรู้เหล่านั้น ครูช่างนับได้ว่าเป็นปัจจัยสำคัญอย่างยิ่งที่ช่วยสืบสาน ถ่ายทอดองค์ความรู้ ภูมิปัญญา ความชำนาญทางฝีมือจากรุ่นสู่รุ่น การยกย่องเชิดชูเกียรติผู้สืบทอดองค์ความรู้เหล่านี้ให้เป็น “ครูศิลป์ของแผ่นดิน” จึงเป็นเสมือนการรววบรวมชีวประวัติ ผลงานและเกียรติคุณช่างที่มีความชำนาญในงานศิลปหัตถกรรมพื้นบ้านของไทย ในสาขาต่าง ๆ เพื่อประโยชน์ในการเผยแพร่องค์ความรู้ ภูมิปัญญาและความภาคภูมิใจของครูช่างให้กับผู้สนใจในงานศิลปหัตถกรรม เยาวชน และสาธารณชนได้รู้จักอย่างกว้างขวางและเพื่อรักษาข้อมูลครูช่างไว้เป็นมรดกของชาติและถ่ายทอดให้แก่คนรุ่นหลังสืบต่อไป

งานเครื่องรัก เป็นงานช่างฝีมือดั้งเดิมประเภทหนึ่งของไทยซึ่งต้องอาศัย “ยางรัก” เป็นวัตถุดิบปัจจัยสำคัญสำหรับประกอบการสร้างสรรค์งานแต่ละประเภท ด้วยการตกแต่งในรูปลักษณ์และองค์ประกอบของงานแต่ละชนิดเป็นไปในลักษณะประณีตศิลป์ มัณฑนศิลป์และวิจิตรศิลป์ งานเครื่องรักดังกล่าวได้แก่ งานปิดทองทึบ งานปิดทองล่องชาด งานปิดทองล่องกระจกงานปิดทองลายฉลุ งานปิดทองลารดน้ำ งานปิดทองเขียนสีลายกำมะลอ งานเครื่องเขิน งานประดับกระจก และงานประดับมุกแกมเบื้อ เป็นต้น ผลงานช่างดังกล่าวเป็นสิ่งที่แสดงออกถึงเอกลักษณ์ประจำชาติที่สร้างสรรค์ขึ้นมาด้วยความประณีตบรรจงภายใต้ขนบธรรมเนียมและประเพณีอันแฝงไว้ด้วยแนวคิดและบ่งบอกถึง ภูมิปัญญาของคนไทยที่ได้รับการสั่งสมและสืบทอดกันลงมานานนับหลายร้อยปี กล่าวได้ว่างานเครื่องรักของไทย ถือเป็นงานช่างฝีมือดั้งเดิมที่มีแบบแผน ขนบ จารีตซึ่งเป็นการแสดงออกของงานศิลปกรรมของชาติไทยอย่างดียิ่ง ประกอบกับยุคสังคมไทยในปัจจุบันเริ่มมีการเปลี่ยนแปลงไปตามยุคตามสมัย งานช่างฝีมือดั้งเดิมหลายแขนงเริ่มสูญหายไปขาดคนสืบทอด นายช่างผู้มีความรู้ความชำนาญมีอายุมากขึ้น การสืบทอดองค์ความรู้ภูมิปัญญาลดน้อยลง จึงเป็นที่น่าเสียดายหากงานช่างแขนงนี้จะต้องเสี่ยงต่อการสูญหาย ดังนั้นโครงการเชิดชูครูศิลป์ของแผ่นดิน ประจำปี2558 จึงได้ทำการยกย่องเชิดชูเกียรติงานสาขา “เครื่องรัก” ขึ้น เพื่อร่วมอนุรักษ์ สืบสาน และเก็บรวบรวมองค์ความรู้เพื่อให้เยาวชนคนรุ่นใหม่ได้เล็งเห็นและตระหนักถึงคุณค่าของงานช่างแขนงนี้ให้อยู่คู่สังคมไทยสืบไปตราบนานเท่านาน

ทั้งนี้คุณสมบัติเบื้องต้น ของครูศิลป์ของแผ่นดิน ประกอบไปด้วย ข้อกำหนด 5 ข้อ ด้วยกัน ได้แก่ 1.เป็นผู้มีอายุไม่น้อยกว่า 50 ปี สัญชาติไทย และยังมีชีวิตอยู่ 2. เป็นผู้ที่ได้รับการยกย่องและได้รับการยอมรับว่ามีความสามารถ มีความเชี่ยวชาญและมีผลงานที่โดดเด่นในงานประเภทนั้น ๆ 3. เป็นผู้สืบทอด สร้างสรรค์และพัฒนางานในประเภทงานนั้นมาอย่างต่อเนื่องจนถึงปัจจุบัน 4. เป็นผู้อบรม สั่งสอน ถ่ายทอดความรู้ในประเภทงานนั้นๆ ให้เป็นประโยชน์แก่ผู้ที่สนใจ และ 5. เป็นผู้ที่ไม่กระทำ และมีความประพฤติอันเสื่อมเสียในสังคม ชุมชน และวงการงานศิลปหัตถกรรม

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๑๗:๒๑ 60 ปีแห่งความมุ่งมั่น! คาโอ คว้ารางวัลอุตสาหกรรมดีเด่น 2 ประเภทในปี 2567 ชูความสำเร็จด้านสิ่งแวดล้อมและความรับผิดชอบต่อสังคม
๑๗:๒๓ AVATR ก้าวสู่ความสำเร็จครั้งยิ่งใหญ่! ระดมทุนในรอบ Series C ได้มากกว่า 11,000 ล้านหยวน พร้อมก้าวสู่ความเป็นผู้นำในตลาดรถยนต์ไฟฟ้าหรูหราแห่งอนาคต
๑๗:๐๖ Zoom เปิด 10 เทรนด์ ใช้ AI ในการทำงานปี 2568
๑๗:๑๐ เปิดมุมมองอาชีพที่หลากหลายในอุตสาหกรรมกาแฟไทย เจาะลึกบทบาทและแนวทางยกระดับสู่การเติบโตอย่างยั่งยืน
๑๗:๑๔ อนาคตแห่งการเดินทาง: 5 คนขับ AI จากแอปเรียกรถ Maxim
๑๗:๕๕ Well-Being House บ้านชั้นเดียวเอาใจคนวัยเกษียณ
๑๗:๑๖ กทม. แจงเปิดกว้างการแข่งขันโครงการเช่าคอมพิวเตอร์พกพาสำหรับนักเรียน
๑๖:๓๗ รายงาน Ericsson Mobility Report ฉบับล่าสุด เผยผู้เริ่มให้บริการ 5G กลุ่มแรกกำลังมุ่งสู่โมเดลธุรกิจที่เน้นประสิทธิภาพ
๑๗:๒๕ เมดีซ กรุ๊ป ร่วมสมทบทุนสนับสนุนมูลนิธิโรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราช ช่วยผู้ป่วยในชนบท ถิ่นทุรกันดารที่ห่างไกล
๑๖:๔๔ CNN จับตา นวัตกรรมล่าสุดจากนักวิจัยไทย พลิกโฉมการตรวจคัดกรองความเครียดด้วย เหงื่อ