EXIM BANK เสนอบริการช่วยผู้ส่งออกไทยแข่งขันได้ในภาวะเงินหยวนอ่อนค่า โดยทำสัญญาซื้อขายเงินตราต่างประเทศล่วงหน้าและประกันการส่งออก

พฤหัส ๒๐ สิงหาคม ๒๐๑๕ ๑๒:๕๙
นายสุธนัย ประเสริฐสรรพ์ รักษาการกรรมการผู้จัดการ ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย (EXIM BANK) เปิดเผยว่า จากการที่ธนาคารกลางจีนประกาศลดอัตราแลกเปลี่ยนอ้างอิงของเงินหยวน เพื่อปรับค่าเงินให้สอดคล้องกับกลไกตลาดมากขึ้น ส่งผลให้สินค้าจีนมีราคาถูกลงในตลาดโลกและมีศักยภาพในการแข่งขันมากขึ้นนั้น ปัจจุบันผลกระทบต่อการส่งออกสินค้าและบริการของไทยในภาพรวมยังอยู่ในวงจำกัด เนื่องจากค่าเงินบาทและค่าเงินหยวนของจีนเคลื่อนไหวไปในทิศทางเดียวกัน แต่หากในอนาคตจีนยังดำเนินมาตรการลดค่าเงินเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจอย่างต่อเนื่องจนเงินหยวนอ่อนค่าลงมากกว่าเงินบาท สินค้าและบริการของไทยก็อาจได้รับผลกระทบชัดเจนขึ้น โดยเฉพาะกลุ่มสินค้าที่ไทยเป็นคู่แข่งกับจีน ตลอดจนสินค้านำเข้าจากจีนจะมีราคาถูกลงและเข้ามาแข่งขันด้านราคากับสินค้าในประเทศมากขึ้น

รักษาการกรรมการผู้จัดการ EXIM BANK เปิดเผยต่อไปว่า ขณะเดียวกัน สินค้าไทยอาจได้รับผลดีในกลุ่มที่ส่งออกไปจีนเพื่อเป็นวัตถุดิบผลิตสินค้าเพื่อส่งออกต่อไปยังประเทศที่ 3 โดยได้รับอานิสงส์จากการขยายการส่งออกของจีนในภาวะนี้ เช่น ยางพาราและชิ้นส่วนยานยนต์และอิเล็กทรอนิกส์จากไทย ส่วนสินค้าไทยที่จีนนำเข้าเพื่อใช้บริโภคในประเทศจะแข่งขันด้านราคาได้ลดลง แต่อาจได้รับผลกระทบไม่มาก โดยจีนอาจลดการนำเข้าหรือขอลดราคาสินค้า เช่น มันสำปะหลัง และผลไม้สด ทั้งนี้ จีนเป็นหนึ่งในคู่ค้าสำคัญของไทย โดยเป็นตลาดส่งออกสำคัญอันดับ 2 ของไทยด้วยสัดส่วน 10.8% และเป็นแหล่งนำเข้าสำคัญอันดับ 1 ของไทยด้วยสัดส่วน 18.8%

นายสุธนัย กล่าวว่า อย่างไรก็ตาม EXIM BANK พร้อมช่วยผู้ส่งออก โดยเฉพาะผู้ประกอบการ SMEs ซึ่งมีข้อจำกัดในด้านเงินทุน ปิดความเสี่ยงจากความผันผวนของอัตราแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ ด้วยบริการสัญญาซื้อขายเงินตราต่างประเทศล่วงหน้า (Foreign Exchange Forward Contract) ซึ่งจะช่วยให้ผู้ส่งออกทราบล่วงหน้าว่าจะได้เงินจากการส่งออกจำนวนเท่าไรในอัตราแลกเปลี่ยนที่แน่นอนตามที่ได้ทำสัญญาไว้กับธนาคาร รวมทั้งบริการประกันการส่งออก ที่จะช่วยให้ผู้ส่งออกไทยเสนอเทอมการชำระเงินแก่ลูกค้าที่ผ่อนปรนและแข่งขันได้มากขึ้น โดยไม่ต้องกังวลว่าจะไม่ได้รับชำระเงินค่าสินค้าและบริการ อันเนื่องมาจากสาเหตุทางการค้า ได้แก่ ผู้ซื้อล้มละลาย ปฏิเสธการชำระเงิน และปฏิเสธการรับมอบสินค้า หรือสาเหตุทางการเมือง ได้แก่ การควบคุมการโอนเงิน การห้ามนำเข้าสินค้าหรือยกเลิกการนำเข้า การเกิดสงคราม จลาจล ปฏิวัติ รัฐประหาร เป็นต้น

“ผู้ส่งออกไทยควรมุ่งพัฒนาคุณภาพสินค้าและบริการให้แข่งขันได้มากขึ้น โดยไม่เน้นแข่งขันด้านราคาอย่างเดียว และไม่คิดเก็งกำไรจากอัตราแลกเปลี่ยน โดยปิดความเสี่ยงด้านอัตราแลกเปลี่ยนโดยใช้บริการสัญญาซื้อขายเงินตราต่างประเทศล่วงหน้า และบริหารความเสี่ยงทางการค้าระหว่างประเทศด้วยประกันการส่งออก เพื่อให้ค้าขายได้อย่างมั่นใจและธุรกิจเติบโตอย่างมั่นคง” นายสุธนัย กล่าว

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๐๘:๒๕ หอการค้าไทย-อิตาเลียน จัดพิธีมอบรางวัลอันทรงเกียรติ Ospitalit? Italiana ครั้งที่ 11 เชิดชูร้านอาหารอิตาเลียนทั่วไทยที่สะท้อนวัฒนธรรมอิตาเลียนอันโดดเด่นและเป็นเลิศ
๐๘:๒๐ เปิดประตูสู่การเรียนรู้ระดับสากล! ม.ศรีปทุม MOU กับ WCC Aeronautical and Technological College ฟิลิปปินส์
๐๘:๔๑ DEXON คว้างานใหญ่ NDT จากกลุ่ม ปตท.สผ. มูลค่ากว่า 300 ล้านบาท
๐๘:๔๔ ระบบขนส่งที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมแนวทางสู่ความเป็นกลางทางคาร์บอนของมหาวิทยาลัยพะเยาอย่างยั่งยืน
๐๘:๕๓ วัน แบงค็อก จับมือสถาบันดนตรีกัลยาณิวัฒนา จัดเวิร์คช็อปร่วมกับศิลปินระดับโลก คาลัม สกอตต์ และ ลอเรน ออลเรด
๐๘:๑๔ PDPC เตือนบริษัทเอกชน และหน่วยงานภาครัฐ ไม่ให้ละเมิดข้อมูลส่วนบุคคลอย่างเคร่งครัด พร้อมเปิดช่องทางร้องเรียนเพื่อปกป้องสิทธิของประชาชน
๐๘:๑๐ สถาบันปิดทองหลังพระฯ บูรณาการร่วมจังหวัดศรีสะเกษผลักดันซ่อมแซมและเสริมศักยภาพแหล่งน้ำในชุมชน เพิ่มประสิทธิภาพผลิตสินค้าเกษตรและสร้างรายได้ให้กับประชาชนอย่างยั่งยืน
๐๘:๑๗ โรงพยาบาลพระรามเก้า คว้ารางวัลเกียรติยศ SET AWARDS 2024 ประเภท Highly Commended Sustainability Awards
๐๘:๑๕ Bangkok Art Auction จัดงานประมูลศิลปะส่งท้ายปี The Iconic Treasure 2024 ผลงานกว่า 100 ชิ้น พร้อมชวนชมนิทรรศการก่อนการประมูล ตั้งแต่วันนี้ ถึง 10 พ.ย. 67 ณ
๐๘:๕๐ บินตรงจากแดนปลาดิบเสิร์ฟความอร่อยติดดาวกับเชฟมิชลินสตาร์ 1 ดาว ณ ห้องอาหารอูโนมาส ชั้น 54 โรงแรมเซ็นทาราแกรนด์ฯ