นายธนรรจ์ ศตวุฒิ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ บริษัท ไทย เอ็น ดี ที จำกัด (มหาชน) หรือ TNDT ผู้นำในธุรกิจให้บริการตรวจสอบและทดสอบทางวิศวกรรมความปลอดภัย ด้วยกระบวนการทดสอบโดยไม่ทำลาย (Nondestructive Testing - NDT) เปิดเผยถึงความคืบหน้าของการขยายธุรกิจพลังงานในสาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมาร์ว่า พร้อมเดินหน้าขับเคลื่อนงานก่อสร้างโรงไฟฟ้าถ่านหินทั้ง 2 ยูนิต อย่างเต็มตัว เนื่องจากได้ผ่านขั้นตอนสำคัญการลงนามสัญญาซื้อขายไฟฟ้า (PPA : Power Purchase Agreement) กับรัฐบาลรัฐฉาน โดยผ่านความเห็นชอบจากรัฐบาลแห่งสหภาพเมียนมาร์เรียบร้อยแล้ว โดยได้รับสัมปทานเป็นระยะเวลา 30 ปี และจะทำการซื้อขายไฟฟ้าเป็นเงินบาท
“หลังจากนี้เป็นขั้นตอนเดินเครื่องเรื่องงานก่อสร้างเต็มตัว ซึ่งคาดว่าจะใช้เวลาประมาณ 18-24 เดือน เนื่องจากระหว่างที่รอความพร้อมด้านสัญญาทางบริษัทฯได้ทำงานก่อสร้างคู่ขนานไปกับงานเอกสารด้วย โดยงานก่อสร้างได้คืบหน้าไปมากกว่า 80% ส่วนเครื่องจักรหลักในการผลิต จากประเทศญี่ปุ่นก็ได้เซ็นต์สัญญาสั่งซื้อแล้ว คาดว่าการก่อสร้างจะแล้วเสร็จและเชื่อมสายส่งไฟฟ้ากับ การไฟฟ้าของรัฐบาลเมียนมาร์ได้ภายในปลายปี 2560 ตามกำหนดเดิมที่ได้วางไว้” นายธนรรจ์ กล่าว
ทั้งนี้ บริษัท ไทย เอ็น ดี ที จำกัด (มหาชน)และพันธมิตรทางธุรกิจ ได้รับสัมปทานโครงการโรงไฟฟ้าพลังถ่านหินขนาด 10 เมกะวัตต์ จำนวน 2 ยูนิต ในอำเภอท่าขี้เหล็ก จังหวัดท่าขี้เหล็ก แห่งสาธารณรัฐสหภาพเมียนมาร์ ระยะเวลาสัมปทานนาน 30 ปี และล่าสุดได้ลงนามในสัญญาซื้อขายไฟฟ้า (PPA : Power Purchase Agreement) กับรัฐบาลรัฐฉาน โดยผ่านความเห็นชอบจากรัฐบาลแห่งสาธารณรัฐแห่งสภาพเมียนมาร์ เป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยจะทำการซื้อขายไฟฟ้าเป็นเงินบาท
ปัจจุบัน TNDT ได้ขยายฐานธุรกิจในสาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมาร์แล้วใน 4 โครงการ คือ โครงการเหมืองถ่านหินจำนวน 2 โครงการ โครงการเหมืองหิน 1 โครงการ และโครงการโรงไฟฟ้าถ่านหินจำนวน 1 โครงการ (จำนวน 2 ยูนิตกำลังผลิตรวม 20 เมกะวัตต์ โดยแบ่งเป็นยูนิตละขนาด 10 เมกะวัตต์) ซึ่งทั้ง 4 โครงการ มีความคืบหน้าไปมาก โดยโครงการเหมืองหินและเหมืองถ่านหินโครงการแรกเริ่มรับรู้รายได้ตั้งแต่ปลายปี 2556 ในขณะที่โครงการเหมืองถ่านหินแห่งที่ 2 ณ เมืองเมียวดี รัฐกะเหรี่ยง ผ่านการลงนาม MOA และเริ่มสำรวจเพื่อพัฒนาเป็นแหล่งถ่านหินแล้ว ส่วนโครงการโรงไฟฟ้าทั้ง 2 ยูนิต คาดจะเริ่มรับรู้รายได้ตั้งแต่ปลายปี 2560 เป็นต้นไป