สพฉ. แนะวิธีปฏิบัติตัวเมื่อเกิดเหตุระเบิดสำหรับบุคลากรทางการแพทย์และประชาชนทั่วไป ย้ำห้ามเคลื่อนย้ายวัตถุต้องสงสัยโดยเด็ดขาด ตั้งสติและรีบออกจากพื้นที่เสี่ยงทันที

พฤหัส ๒๐ สิงหาคม ๒๐๑๕ ๑๕:๒๓
นพ.อนุชา เศรษฐเสถียร เลขาธิการสถาบันการแพทย์ฉุกเฉินแห่งชาติ (สพฉ.) กล่าวว่า หลังจากเกิดเหตุการณ์ระเบิดบริเวณแยกราชประสงค์จนทำให้มีผู้เสียชีวิตและได้รับบาดเจ็บจำนวนมาก ดังนั้นเพื่อเป็นการป้องกันอันตรายจากสถานการณ์ความรุนแรงที่อาจเกิดขึ้นในลักษณะนี้อีก สพฉ. ได้ออกแนวปฏิบัติสำหรับบุคลากรทางการแพทย์นอกโรงพยาบาล หากต้องเผชิญเหตุระเบิด เพื่อความปลอดภัยในการทำงาน ดังนี้ 1. บุคลากรทางการแพทย์ต้องปฏิบัติงานในพื้นที่ปลอดภัย หลีกเลี่ยงการอยู่ในพื้นที่เสี่ยงต่อการระเบิด 2.ถ้าเกิดเหตุการณ์ระเบิด ให้ตั้งสติ แล้วรีบหมอบลงกับพื้น หรือทำตัวให้ต่ำที่สุด แล้วคลานเข้าไปอยู่ในที่กำบังอย่างรวดเร็ว พร้อมกับฟังทิศทางที่มาของเสียงระเบิด 3.สำหรับผู้สั่งการฝ่ายการแพทย์ ให้แจ้งประสานกับเจ้าของพื้นที่หรือ ตำรวจทันที เมื่อมีเหตุระเบิด 4.ไม่เข้าไปช่วยผู้ประสบเหตุ จนกว่าผู้บัญชาการเหตุการณ์ (commander) หรือนักทำลายล้างวัตถุระเบิด (E.O.D.)จะแจ้งว่า เหตุการณ์ปลอดภัยแล้ว 5. จะต้องกั้นเขต จัดพื้นที่ปฏิบัติการห่างจากจุดเกิดเหตุระเบิดอย่างน้อย 300 เมตร และอยู่เหนือลม 6.เจ้าหน้าที่ทุกคนจะต้องใส่ชุดอุปกรณ์ป้องกันตนเอง และเสื้อสะท้อนแสงแสดงตำแหน่งปฏิบัติการ

7.เมื่อเหตุการณ์ปลอดภัย ให้ทีมกู้ภัยมูลนิธิหรือชุดเผชิญเหตุเข้าไปนำผู้ประสบภัยออกมา โดยควรใส่เสื้อเกราะ หมวกนิรภัย และเสื้อสะท้อนแสง ปฏิบัติการอย่างรวดเร็วและออกมาจากที่เกิดเหตุโดยเร็ว 8.ให้ทีมกู้ภัยมูลนิธิหรือชุดเผชิญเหตุ คัดแยกผู้บาดเจ็บขั้นต้น ณ จุดเกิดเหตุที่ปลอดภัย หรืออาจนำผู้ประสบเหตุออกมาคัดแยก ณ จุดที่ปลอดภัย 9.สำหรับการรักษาพยาบาล ณ ที่เกิดเหตุ ให้ทำเท่าที่จำเป็น โดยเฉพาะภาวะคุกคามต่อชีวิต และ 10. รีบนำส่งโรงพยาบาลตามอาการฉุกเฉิน

เลขาธิการ สพฉ. กล่าวต่อว่า สำหรับประชาชนทั่วไป หากพบวัตถุต้องสงสัยให้รีบโทรแจ้ง 191 ห้ามแตะต้องหรือเคลื่อนย้ายวัตถุต้องสงสัยโดยเด็ดขาด จากนั้นต้องตั้งสติและรีบออกจากพื้นที่เสี่ยงทันที รวมทั้งเร่งอพยพผู้คนโดยด่วน แต่ทั้งนี้ต้องใช้วิธีการที่นุ่มนวลเพื่อไม่ให้เกิดอาการตื่นตระหนก แต่ หากวัตถุต้องสงสัยระเบิดหรือเกิดประกายไฟ ให้หาที่กำบังที่แข็งแรง หากติดอยู่ภายในอาคารให้ใช้ผ้าชุบน้ำอุดช่องประตูเพื่อป้องกันแก๊สพิษ และต้องหาที่กำบังแรงระเบิดที่มั่นคงแข็งแรง โดยหลบอยู่เหนือลม ปิดเครื่องปรับอากาศและใส่เสื้อผ้าให้มิดชิดเพื่อป้องกันอันตราย และหากเป็นไปได้ให้นำยางรถยนต์ไปล้อมวัตถุต้องสงสัยไว้ และที่สำคัญหากพบเห็นผู้เจ็บป่วยฉุกเฉินหรือได้รับอุบัติเหตุให้รีบโทรแจ้งสายด่วน 1669 ตลอด 24 ชั่วโมง

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๑๗:๒๑ 60 ปีแห่งความมุ่งมั่น! คาโอ คว้ารางวัลอุตสาหกรรมดีเด่น 2 ประเภทในปี 2567 ชูความสำเร็จด้านสิ่งแวดล้อมและความรับผิดชอบต่อสังคม
๑๗:๒๓ AVATR ก้าวสู่ความสำเร็จครั้งยิ่งใหญ่! ระดมทุนในรอบ Series C ได้มากกว่า 11,000 ล้านหยวน พร้อมก้าวสู่ความเป็นผู้นำในตลาดรถยนต์ไฟฟ้าหรูหราแห่งอนาคต
๑๗:๐๖ Zoom เปิด 10 เทรนด์ ใช้ AI ในการทำงานปี 2568
๑๗:๑๐ เปิดมุมมองอาชีพที่หลากหลายในอุตสาหกรรมกาแฟไทย เจาะลึกบทบาทและแนวทางยกระดับสู่การเติบโตอย่างยั่งยืน
๑๗:๑๔ อนาคตแห่งการเดินทาง: 5 คนขับ AI จากแอปเรียกรถ Maxim
๑๗:๕๕ Well-Being House บ้านชั้นเดียวเอาใจคนวัยเกษียณ
๑๗:๑๖ กทม. แจงเปิดกว้างการแข่งขันโครงการเช่าคอมพิวเตอร์พกพาสำหรับนักเรียน
๑๖:๓๗ รายงาน Ericsson Mobility Report ฉบับล่าสุด เผยผู้เริ่มให้บริการ 5G กลุ่มแรกกำลังมุ่งสู่โมเดลธุรกิจที่เน้นประสิทธิภาพ
๑๗:๒๕ เมดีซ กรุ๊ป ร่วมสมทบทุนสนับสนุนมูลนิธิโรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราช ช่วยผู้ป่วยในชนบท ถิ่นทุรกันดารที่ห่างไกล
๑๖:๔๔ CNN จับตา นวัตกรรมล่าสุดจากนักวิจัยไทย พลิกโฉมการตรวจคัดกรองความเครียดด้วย เหงื่อ