สคร.7 ประชุมพัฒนาเครือข่ายจังหวัดในพื้นที่ชายแดนรองรับ AEC

อังคาร ๒๕ สิงหาคม ๒๐๑๕ ๑๕:๔๖
สำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่ 7 จ.อุบลราชธานี จัดประชุมเชิงปฏิบัติการพัฒนาเครือข่ายการดำเนินงานสู่มาตรฐาน IHR 2005 ของจังหวัดในพื้นที่ชายแดนไทย-ลาวและไทย-กัมพูชา ประจำปีงบประมาณ 2558

วันที่ 24 – 26 ส.ค. 58 ณ โรงแรมบ้านสวนอุบลกอล์ฟแอนด์รีสอร์ท อำเภอวารินชำราบ จังหวัดอุบลราชธานี แพทย์หญิงประนอม คำเที่ยง ผู้ตรวจราชการกระทรวงสาธารณสุขเขต 10 เป็นประธานเปิดการประชุมเชิงปฏิบัติการพัฒนาเครือข่ายการดำเนินงานสู่มาตรฐาน IHR 2005 ของจังหวัดในพื้นที่ชายแดนไทย-ลาวและไทย-กัมพูชา ประจำปีงบประมาณ 2558 เพื่อเสริมสร้างความเข้มแข็งของเครือข่ายในการดำเนินงานเฝ้าระวังป้องกันควบคุมโรคและภัยสุขภาพในพื้นที่ชายแดน การแลกเปลี่ยนเรียนรู้ และติดตามผลการดำเนินงานเฝ้าระวังป้องกันควบคุมโรคและภัยสุขภาพของจังหวัดในพื้นที่ชายแดนไทย-ลาวและไทย-กัมพูชากลุ่มเป้าหมายประกอบด้วย เจ้าหน้าที่จากหน่วยงานเครือข่ายภายในช่องทางเข้าออกประเทศ สำนักงานสาธารณสุขจังหวัด สำนักงานสาธารณสุขอำเภอ โรงพยาบาลทั่วไปโรงพยาบาลชุมชน โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล ด่านควบคุมโรคติดต่อระหว่างประเทศ วิทยากร และคณะทำงาน รวมทั้งสิ้นจำนวน 120 คน

แพทย์หญิงประนอม คำเที่ยง ผู้ตรวจราชการกระทรวงสาธารณสุขเขต 10 กล่าวว่า สำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่ 7 จังหวัดอุบลราชธานี มีพรมแดนติดต่อกับประเทศเพื่อนบ้าน2ประเทศได้แก่ลาวและกัมพูชามีจังหวัดชายแดน 5 จังหวัด ซึ่งมีพื้นที่ชายแดนติดต่อกับประเทศเพื่อนบ้านคือ ติดต่อกับสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาวคือ จังหวัดอุบลราชธานี, อำนาจเจริญ, มุกดาหาร และนครพนม ติดต่อกับประเทศกัมพูชาคือ จังหวัดศรีสะเกษ ส่งผลทำให้การเคลื่อนย้ายของประชากรจากประเทศสมาชิกหนึ่งไปยังอีกประเทศหนึ่งและโรคระหว่างพรมแดนอาณาเขตติดต่อเป็นไปได้โดยง่ายซึ่งในปี 2558 นี้ประเทศไทยจะมีการเข้าสู่ประชาคมอาเซียน (ASEANCommunity) อาจทำให้เกิดผลกระทบในด้านต่างๆรวมทั้งด้านสาธารณสุขโดยเฉพาะด้านป้องกันควบคุมโรคติดต่อข้ามเขตแดนโดยจะมีผลกระทบต่างๆ เช่นจำนวนผู้มารับบริการด้านสุขภาพที่เป็นกลุ่มแรงงานข้ามชาติและผู้ป่วยต่างชาติจะมีมากขึ้น ปัญหาโรคติดต่อโรคติดต่ออุบัติใหม่ข้ามพรมแดนโรคติดต่อเรื้อรัง ปัญหาความสามารถในการรองรับของระบบบริการสุขภาพอัตราการครองเตียงเพิ่มขึ้น และการไหลทะลักของสินค้าที่ทำลายสุขภาพ อาทิ สุราอาหารและยาที่ไม่ได้มาตรฐานเป็นต้น

ผู้ตรวจราชการกระทรวงสาธารณสุขเขต 10 กล่าวเพิ่มเติมว่า ระบบการเฝ้าระวังป้องกันโรคและภัยสุขภาพบริเวณชายแดนและระหว่างประเทศที่มีความเข้มแข็งและมีประสิทธิภาพจึงมีความสำคัญยิ่งโดยการพัฒนาเครือข่ายและพัฒนาสมรรถนะขีดความสามารถในการป้องกันควบคุมโรคและภัยสุขภาพในพื้นที่ชายแดนร่วมกับการมีเป้าหมายและกิจกรรมเพื่อเร่งรัดพัฒนาสู่มาตรฐานกฎอนามัยระหว่างประเทศภายใต้กรอบการพัฒนาศักยภาพด้านต่างๆตามเกณฑ์ 12 เป้าหมายที่กรมควบคุมโรคกำหนดโดยบุคคลากรในแต่ละพื้นที่วิเคราะห์หากิจกรรมที่มีความสำคัญเร่งด่วนในการดำเนินงานพัฒนาระบบควบคุมป้องกันโรคในประเด็นที่ยังคงเป็นปัญหาและแก้ไขจุดอ่อนที่สำคัญของแต่ละพื้นที่อันจะเป็นปัจจัยที่จะนำไปสู่การพัฒนาให้ได้มาตรฐานของการควบคุมป้องกันโรคและภัยสุขภาพตามกฎอนามัยระหว่างประเทศ (IHR 2005) ตามที่กรมควบคุมโรคกำหนด

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๑๗:๒๑ 60 ปีแห่งความมุ่งมั่น! คาโอ คว้ารางวัลอุตสาหกรรมดีเด่น 2 ประเภทในปี 2567 ชูความสำเร็จด้านสิ่งแวดล้อมและความรับผิดชอบต่อสังคม
๑๗:๒๓ AVATR ก้าวสู่ความสำเร็จครั้งยิ่งใหญ่! ระดมทุนในรอบ Series C ได้มากกว่า 11,000 ล้านหยวน พร้อมก้าวสู่ความเป็นผู้นำในตลาดรถยนต์ไฟฟ้าหรูหราแห่งอนาคต
๑๗:๐๖ Zoom เปิด 10 เทรนด์ ใช้ AI ในการทำงานปี 2568
๑๗:๑๐ เปิดมุมมองอาชีพที่หลากหลายในอุตสาหกรรมกาแฟไทย เจาะลึกบทบาทและแนวทางยกระดับสู่การเติบโตอย่างยั่งยืน
๑๗:๑๔ อนาคตแห่งการเดินทาง: 5 คนขับ AI จากแอปเรียกรถ Maxim
๑๗:๕๕ Well-Being House บ้านชั้นเดียวเอาใจคนวัยเกษียณ
๑๗:๑๖ กทม. แจงเปิดกว้างการแข่งขันโครงการเช่าคอมพิวเตอร์พกพาสำหรับนักเรียน
๑๖:๓๗ รายงาน Ericsson Mobility Report ฉบับล่าสุด เผยผู้เริ่มให้บริการ 5G กลุ่มแรกกำลังมุ่งสู่โมเดลธุรกิจที่เน้นประสิทธิภาพ
๑๗:๒๕ เมดีซ กรุ๊ป ร่วมสมทบทุนสนับสนุนมูลนิธิโรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราช ช่วยผู้ป่วยในชนบท ถิ่นทุรกันดารที่ห่างไกล
๑๖:๔๔ CNN จับตา นวัตกรรมล่าสุดจากนักวิจัยไทย พลิกโฉมการตรวจคัดกรองความเครียดด้วย เหงื่อ