คุณศิริชัย เลิศศิริมิตร นายกสมาคมของขวัญของชำร่วยไทยและของตกแต่งบ้าน เปิดเผยว่าแม้ตลาดหลักสินค้าของขวัญ ของชำร่วยและของตกแต่งบ้านของไทยคือยุโรปซึ่งกำลังประสบภาวะเศรษฐกิจตกต่ำ ส่งผลให้ยอดส่งออกลดลง แต่ในกลุ่มตลาดเอเชียโดยเฉพาะตลาดอาเซียนมีแนวโน้มการส่งออกที่ดี ทั้งนี้ คู่แข่งสำคัญของอุตสาหกรรมของขวัญ ของชำร่วยของไทยคือจีน แต่สินค้าจีนราคาเริ่มสูงขึ้นเพราะค่าแรงเริ่มสูงขึ้น ส่วนใน AEC เองคู่แข่งที่สำคัญคือเวียดนาม ฟิลิปปินส์ กับอินโดนีเซีย”
“สมาคมของขวัญ ของชำร่วยไทยและของตกแต่งบ้าน จัดตั้งมาเป็นเวลา 15 ปี ปัจจุบันมีสมาชิกประมาณ 400-500 บริษัท สมาคมฯ ได้พยายามปรับกลยุทธ์เพื่อให้ทันกับสภาพเศรษฐกิจของโลกอยู่ตลอดเวลา พยายามที่จะเพิ่มยอดขายใน AEC เพื่อมาทดแทนตลาดหลักอย่างยุโรปและอเมริกา กิจกรรมหลักคือการประสานงานกับกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ เพื่อที่จะพัฒนาผู้ประกอบการในการพาผู้ประกอบการไปออกบูธในงานแสดงสินค้าทั่วโลก ล่าสุดเพิ่งจะพาสมาชิกไปออกงานแสดงสินค้าที่มาเลเซียและสิงคโปร์ นอกเหนือจากความร่วมมือกับกระทรวงพาณิชย์แล้ว จะเป็นเรื่องการประสานงานให้ผู้ประกอบการที่เป็นสมาชิกเข้าร่วมจัดแสดงสินค้าในงาน ทำให้สมาชิกได้มีโอกาสพัฒนาผลิตภัณฑ์และสามารถขายสินค้าได้ด้วย นอกจากนี้ ยังมีการประสานงานให้เข้าถึงแหล่งเงินทุนทั้งในและต่างประเทศ รวมถึงการเปิดอบรมให้ความรู้แก่สมาชิก เป็นต้น
คุณศิริชัยเล่าต่อว่า “จากที่ได้มีโอกาสพาผู้ประกอบการไปออกงานแสดงสินค้าต่างๆ ทั่วโลก ทางสมาคมฯมั่นใจว่าสินค้าของไทยนั้นมีดีไซน์และคุณภาพที่ดีและเหมาะสมกับราคา ในเรื่องของความประณีต ของขวัญและของตกแต่งบ้านที่มาจากประเทศไทยได้รับความสนใจและถือว่าเป็นสินค้าที่มีมูลค่ามากกว่าสินค้าของคู่แข่งมาก ไทยมีการพัฒนาและมีจุดแข็งเรื่องการออกแบบและคุณภาพของสินค้า ซึ่งเป็นจุดแข็งที่คู่แข่งยังไม่สามารถทำลายได้“สินค้าที่จะเป็นที่นิยมในปลายปีนี้หรือปีหน้า จะเป็นสินค้าที่ผลิตจากวัสดุธรรมชาติ ไม่ทำลายสิ่งแวดล้อม หรือสินค้า Go Green หรือ Eco อีกกลุ่มสินค้าที่ให้ความสำคัญในด้านนี้คือกลุ่ม Health and Wellness หรือสินค้าเพื่อสุขภาพ ซึ่งหันกลับมาใช้ของที่มาจากธรรมชาติมากขึ้น มีการลดใช้สารเคมี ไปจนถึงปราศจากสารเคมี ซึ่งสินค้ากลุ่มนี้มีโนวโน้มโตขึ้นเรื่อยๆ อีกส่วนหนึ่งคือสินค้าที่เกี่ยวกับผู้สูงอายุ ตัวเลขการบริโภคในประเทศยังไม่สูงมากนัก แต่ในตลาดต่างประเทศนั้นมีมูลค่ามหาศาล และนับวันตลาดก็จะยิ่งใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ” คุณศิริชัย กล่าวเสริมในเรื่องเทรนด์สินค้าไลฟ์สไตล์
นายกสมาคมของขวัญ ของชำร่วยไทยฯ ยังแสดงความคิดเห็นถึงการเปิดเสรีอาเซียนว่าเมื่อ AEC เปิด ประเทศไทยจะได้เปรียบในเรื่องโลเกชั่นซึ่งอยู่ตรงกลางระหว่างผู้ซื้อและผู้ขายพอดี การบริการ ความเป็นคนไทย จะทำให้ไทยกลายเป็นศูนย์กลางหรือฮับด้านการซื้อขายสินค้าไลฟ์สไตล์ของภูมิภาค ทั้งทางด้านการผลิต การนำเข้า-ส่งออก หรือเป็นศูนย์กลางในการรวมสินค้า และการขนส่งต่างๆ
“งาน BIG+BIH อย่างที่รู้กันดีว่าเป็นงานแสดงสินค้าประเภทของขวัญ ของชำร่วย และของตกแต่งบ้าน ทุกครั้ง สมาชิกของสมาคมก็จะนำสินค้าตัวใหม่ออกมาเปิดตัว แนะนำกันในงาน โดยเฉพาะสินค้าที่พร้อมขายในการส่งออก เช่น สินค้านวัตกรรม โดยเฉพาะอย่างยิ่งสินค้าที่เกี่ยวกับธรรมชาติ ซึ่งหวังว่าจะได้ผลตอบรับเป็นอย่างดี สินค้าทุกชิ้นที่นำมาจัดแสดงและขายเป็นสินค้าที่มีคุณภาพดีและราคาสมเหตุสมผล นอกจากนี้ การจัดงานซึ่งอยู่ในเวลาที่ดี เดือนตุลาคมเป็นเดือนที่ทุกบริษัทเริ่มจะหาของขวัญไว้ให้กันในช่วงเทศกาลปีใหม่ จึงอยากขอเชิญชวนให้ผู้ซื้อมาเลือกซื้อสินค้าภายในงาน ส่วนลูกค้าจากต่างประเทศรับประกันว่าจะได้พบกับสินค้านวัตกรรมใหม่ๆ ของผู้ผลิต ผู้ส่งออกไทย
งานแสดงสินค้าของขวัญและงานแสดงสินค้าของใช้ในบ้าน ครั้งที่ 40 หรือ BIG+BIH ตุลาคม 2558จะจัดขึ้น ณ ศูนย์แสดงสินค้าและนิทรรศการ ไบเทค บางนา โดยเปิดเป็นวันเจรจาธุรกิจ ในวันที่ 19-21 ตุลาคม ระหว่างเวลา 10.00-18.00 น. และเปิดจำหน่ายปลีก ในวันที่ 22-23 ตุลาคม 2558 ระหว่างเวลา 10.00-21.00 น. ผู้สนใจสามารถชมข้อมูลเพิ่มเติมและลงทะเบียนชมงานล่วงหน้า ได้ที่ www.bigandbih.com หรือโทรสายตรงการค้าระหว่างประเทศ 1169