นางสาวแคทรียา นภากาญจน์ ผู้อำนวยการฝ่ายสื่อสารการตลาดและภาพลักษณ์องค์กร บริษัท แอ๊ดวานซ์ ไลฟ์ ประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา เอไลฟ์ได้วางตำแหน่งทางการตลาดในการเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านวางแผนทางการเงินมาโดยตลอด ซึ่งก็ได้รับการตอบรับที่ดีจากกลุ่มลูกค้าที่มองหาความมั่นคงทางการเงิน หรืออยากมีผลตอบแทนที่มากขึ้นโดยเลือกใช้บริการของเรา ถึงแม้ว่าเอไลฟ์จะไม่ใช่บริษัทประกันชีวิตอันดับต้นๆของอุตสาหกรรม แต่ก็เป็นประกันชีวิตที่มีจุดเด่นและความแตกต่างจากบริษัทอื่นๆ มากในการทำการตลาดเพื่อเข้าถึงกลุ่มเป้าหมาย ประกอบกับในปัจจุบันประชาชนมีความรู้ความเข้าใจ และเริ่มให้ความสนใจในเรื่องวางแผนการเงินมากขึ้นเรื่อยๆ เท่ากับเป็นการตอกย้ำความมั่นใจว่าเอไลฟ์ก้าวเดินมาในธุรกิจได้ถูกทางแล้ว ”
“นอกจากนี้ผลิตภัณฑ์ทางการเงินของเอไลฟ์ที่ดีไซน์ออกมาทุกตัว หรือคัดเลือกมานำเสนอให้ลูกค้า ล้วนแล้วแต่ตอบโจทย์ความต้องการด้านวางแผนการเงินทั้งสิ้น ทั้งลูกค้าที่ต้องการวางแผนลงทุนเพื่อสร้างผลตอบแทน เราก็สามารถนำเสนอกองทุนนับพันกองจาก 10 บลจ.ชั้นนำที่เป็นพันธมิตรของเราได้ หรือหากลูกค้ามองว่าต้องการได้ผลตอบแทนพร้อมความคุ้มครองชีวิตด้วย เราก็มีผลิตภัณฑ์ประเภทประกันออมทรัพย์ระยะสั้น กลาง ยาวที่สามารถให้ผลตอบแทนได้สูงเช่นกัน ตลอดจนผลิตภัณฑ์เพื่อวางแผนภาษีและวางแผนเกษียณเราก็มีครอบคลุมในทุกด้าน” นางสาวแคทรียา กล่าว
“สำหรับแผนกลยุทธ์ในการสื่อสารการตลาดของเอไลฟ์ในเรื่องวางแผนการเงินจากนี้ต่อไป เราจะเริ่มมีการทำแคมเปญผ่านช่องทางของโซเชียลมีเดียและสื่อออนไลน์ต่างๆมากขึ้น เพื่อสร้างตัวตนของเอไลฟ์ในโลกออนไลน์ขึ้นมา พร้อมขยายฐานลูกค้าไปยังกลุ่มคนรุ่นใหม่ ภายใต้แนวคิด “วางแผนการเงิน แค่คิดชีวิตก็เปลี่ยน” ซึ่งไฮไลท์ของแนวคิดนี้ก็คือ “ชีวิตคุณจะเปลี่ยนเพียงเรื่องเดียวเท่านั้น ถ้าคิดจะวางแผนการเงิน นั่นก็คือ คุณจะมีฐานะทางการเงินที่ดีขึ้น” โดยที่ยังสามารถใช้ชีวิตในแบบของคุณได้เหมือนเดิม หรืออาจใช้ชีวิตได้สุขสบายกว่าเดิมด้วยซ้ำ การวางแผนการเงินในแบบของเอไลฟ์จะเป็นเรื่องที่ง่ายๆ สนุกสนานและมีความสุขได้ เพราะการวางแผนที่ดี ควรจะได้ออมเงินแบบไม่ต้องอด มีไลฟ์สไตล์ได้ตามปกติ แต่ที่ผ่านมาคนทั่วไปมักจะมองกันว่า หากเราเริ่มวางแผนการเงิน เราอาจจะต้องอดเพื่อให้มีเงินออมมากๆ ไม่สามารถใช้เงินได้เลย ซึ่งทำให้ชีวิตเราดูซีเรียสกันเกินไป”
โดยในช่วงแรกของแคมเปญ เอไลฟ์จะใช้วิธีการถ่ายทอดแนวคิดนี้ผ่านมุมมองเรื่องการท่องเที่ยวสุดอเมซซิ่งในประเทศต่างๆ พร้อมเชื่อมโยงเรื่องวางแผนการเงินสอดแทรกเข้าไป ซึ่งจะช่วยกระตุ้นความคิดของกลุ่มเป้าหมายให้เห็นความสำคัญของการวางแผนการเงินได้ชัดเจนยิ่งขึ้นในแบบที่สนุกสนาน เช่น การนำ กูรูชื่อดังด้านการท่องเที่ยวต่างๆ ไปสัมผัสประสบการณ์แปลกใหม่ในฮ่องกง ซึ่งคนส่วนใหญ่อาจคิดว่า ไปฮ่องกงก็ไม่เห็นน่าแปลกอะไร ใครๆ ก็สามารถไปกันเองได้ง่ายๆอยู่แล้ว แต่ทริปของเอไลฟ์จะแตกต่างในแบบที่ว่า “ถึงมีเงินก็ไปไม่ได้ ถ้าไม่เริ่มวางแผน” ซึ่ง กูรูที่ไปสัมผัสประสบการณ์นี้ จะสามารถถ่ายทอด เรื่องราวการวางแผนผ่านมุมองของการท่องเที่ยวเพื่อสื่อสารไปยังกลุ่มเป้าหมายได้ดี
ส่วนในการทำกิจกรรมผ่านช่องทางการสื่อสารของเอไลฟ์เองก็จะมีตัวเว็บไซด์ และแฟนเพจของเอไลฟ์ทางเฟสบุค โดยจะมีการเชิญชวนแฟนเพจให้ร่วมทำกิจกรรมกับเรามากขึ้น อย่างเช่น กิจกรรม “ชีวิตเกรด A” คุณก็มีได้ถ้าเริ่มวางแผนการเงิน โดยให้แฟนเพจมาโพสต์ รูปภาพที่มีสัษลักษณ์ตัว “A” พร้อมเขียนข้อความเกี่ยวกับการวางแผนการเงินในแบบฉบับตัวเองเพื่อชิงเงินรางวัล และต่อยอดกิจกรรมโดยการใช้เพจชื่อดังต่างๆในเฟสบุคที่มีคนติดตามหลักแสนหลักล้าน มาช่วยสร้างสีสันและโปรโมทแคมเปญของเราเพิ่มขึ้นด้วย
“นอกจากนี้เรายังมีการจัดทำหนังสือที่เกี่ยวกับการวางแผนท่องเที่ยว โดยในช่วงแรกจะจัดทำขึ้นมาจำนวน 3 เล่ม 3 ช่วงวัย ได้แก่กลุ่มวัยทำงาน กลุ่มสร้างครอบครัว และกลุ่มเกษียณ ซึ่งแต่ละเล่มจะมีการแนะนำสถานที่และวิธีการท่องเที่ยวในดินแดนสุดอเมซซิ่งต่างๆทั่วโลก พร้อมสอดแทรกเรื่องการวางแผนไปเที่ยวของคนแต่ละกลุ่มว่าควรมีการเตรียมตัวอย่างไร เตรียมเงินเท่าไหร่ สถานที่ไหนที่คนแต่ละกลุ่มควรต้องไปสัมผัสประสบการณ์บ้าง เป็นต้น โดยหนังสือของเราจะไม่ได้จัดทำออกมาเพื่อจำหน่าย แต่จะใช้มอบเป็นของขวัญให้กับลูกค้าเอไลฟ์ และกลุ่มเป้าหมายอื่นๆ ที่สนใจ ซึ่งสามารถดาวน์โหลดและอ่านผ่านรูปแบบของ e - book ได้ ซึ่งน่าจะออกมาในช่วงปลายปีนี้” นางสาวแคทรียา กล่าว
“ที่ผ่านมาเราก็มีการทำการตลาดอย่างค่อยเป็นค่อยไป เนื่องจากกลุ่มเป้าหมายอาจมีความรู้เรื่องวางแผนการเงินยังไม่มากนัก แต่ด้วยปัจจุบันสื่อออนไลน์และโซเชียลมีเดียต่างๆ เริ่มเข้ามามีบทบาทมากขึ้น การเข้าถึงข้อมูลต่างๆ ก็ง่ายขึ้น ทำให้กลุ่มเป้าหมายมีความรู้เรื่องวางแผนการเงินมากขึ้น เราจึงเล็งเห็นโอกาสทางการตลาด ที่จะใช้ความเชี่ยวชาญด้านวางแผนการเงินของบริษัทมาเป็นจุดขายในการสร้างความแตกต่างผ่านช่องทางการสื่อสารสมัยใหม่ เพื่อสร้างตัวตนของเอไลฟ์ในเรื่องวางแผนการเงินขึ้นมาให้ได้มากที่สุด ซึ่งเชื่อว่าน่าจะรองรับการแข่งขันในอนาคตข้างหน้าได้อย่างแน่นอน