นางสาวอนุสรี กล่าวว่า เจ้าหน้าที่ศูนย์ช่วยเหลือสังคม OSCC โทร.สายด่วน ๑๓๐๐ กระทรวงการพัฒนาสังคมฯ ได้รับการประสานขอความช่วยเหลือจากชายชราพิการ ที่ครอบครัวประสบปัญหายากจน ไม่มีค่าใช้จ่ายในการดำเนินชีวิต และต้องดูแลหลาน ๓ คน ผู้พิการ และผู้ป่วยทางจิตเวช ตนและเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องของกระทรวงการพัฒนาสังคมฯ จึงได้ลงพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริง พบว่า ครอบครัวดังกล่าว มีชายชราอายุ ๖๗ ปี พิการตาบอดทั้งสองข้าง ไม่สามารถประกอบอาชีพได้ อาศัยอยู่ในบ้านเช่ากับภรรยา อายุ ๔๐ ปี มีอาการป่วยทางจิตเวช และมีลูก๓ คน ประกอบด้วย ลูกสาวคนโตอายุ ๒๐ ปี ซึ่งไม่ได้ประกอบอาชีพ ส่วนลูกชายอายุ ๑๙ ปี ป่วยพิการซ้ำซ้อนและลูกสาวคนเล็ก อายุ ๑๐ ปี กำลังเรียนอยู่ชั้น ป.๕ โรงเรียนแห่งหนึ่ง นอกจากนี้ ยังมีหลานอีก ๓ คน อายุ ๑ ปีและอายุ ๑ เดือน ที่เกิดจากลูกสาวคนโต ซึ่งครอบครัวดังกล่าวมีฐานะยากจน ทั้งนี้ กระทรวงการพัฒนาสังคมฯได้ให้การช่วยเหลือตามภารกิจของกระทรวงการพัฒนาสังคมฯ โดยมอบเงินสงเคราะห์และเครื่องอุปโภคบริโภคแก่ครอบครัวดังกล่าว เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนในเบื้องต้น และจะนำหลานทั้ง ๓ คน ส่งสถานสงเคราะห์เด็กอ่อนรังสิต เนื่องจากแม่เด็กได้ยินยอมให้เด็กเข้าอยู่ในสถานสงเคราะห์ ซึ่งเด็กควรได้รับการสงเคราะห์ ตามพระราชบัญญัติคุ้มครองเด็ก พ.ศ. ๒๕๔๖ รวมทั้งประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องช่วยเหลือด้านการรักษาพยาบาลให้กับผู้ป่วยในครอบครัวดังกล่าวและด้านอื่นๆในระยะยาวต่อไป
“ทั้งนี้ หากประชาชนพบเห็นหรือประสบปัญหาสังคม สามารถขอความช่วยเหลือได้ที่ศูนย์ช่วยเหลือสังคม OSCC โทร.สายด่วน ๑๓๐๐ ตลอด ๒๔ ชั่วโมง” นางสาวอนุสรี กล่าวท้าย