ทั้งนี้ ที่ประชุมใหญ่สามัญผู้ถือหุ้น ครั้งที่ 21 ประชุมเมื่อวันที่ 10 เมษายน 2558 มีมติอนุมัติให้ธนาคารเพิ่มทุนจดทะเบียนของธนาคารแบบมอบอำนาจทั่วไป (General Mandate) จำนวน 3,162,731,703.50 บาท จากทุนจดทะเบียนเดิมจำนวน 10,542,439,012.50 บาท เป็นทุนจดทะเบียนใหม่จำนวน 13,705,170,716.00 บาท โดยการออกหุ้นสามัญใหม่จำนวน 6,325,463,407 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 0.50 บาท โดยเป็นการจัดสรรหุ้นสามัญออกใหม่แบบมอบอำนาจทั่วไป (General Mandate) (“หุ้นเพิ่มทุนตามสิทธิแบบมอบอำนาจทั่วไป”) ให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิมของธนาคารตามสัดส่วนของการถือหุ้น และกำหนดเงื่อนไขต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับการจัดสรรหุ้นเพิ่มทุนตามสิทธิแบบมอบอำนาจทั่วไป
กรณีที่มีหุ้นสามัญเพิ่มทุนเสนอขายที่เหลือจากการเสนอขายหุ้นเพิ่มทุนตามสิทธิ หุ้นที่เหลือจะถูกนำไปจัดสรรให้แก่ผู้ถือหุ้นทุกรายที่ประสงค์จะจองเกินสิทธิตามสัดส่วนการถือหุ้น และในกรณีที่มีเศษของหุ้นสามัญเพิ่มทุนเหลือจากการคำนวณตามอัตราส่วนการจัดสรรหุ้นสามัญเพิ่มทุนข้างต้น ให้ปัดเศษหุ้นดังกล่าวทิ้งทั้งจำนวน
อนึ่ง ธนาคารกำหนดรายชื่อผู้ถือหุ้นที่มีสิทธิจองซื้อหุ้นในวันที่ 11 กันยายน 2558 หลังจากนั้นจะรวบรวมรายชื่อผู้ถือหุ้นโดยวิธีปิดสมุดทะเบียนและพักการโอนหุ้นในวันที่ 14 กันยายน 2558 และกำหนดวันจองซื้อหุ้นเพิ่มทุนในวันที่ 26-30 ตุลาคม 2558
“การเพิ่มทุนครั้งนี้เป็นไปตามแผนงานของธนาคารที่วางไว้ และเป็นไปตามมติที่ประชุมสามัญผู้ถือหุ้นเมื่อเดือนเม.ย.2558 โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อรองรับการขยายธุรกิจ ซึ่งกลุ่มซีไอเอ็มบีนั้นพร้อมที่จะเพิ่มทุนตามสัดส่วนการถือหุ้น การเพิ่มทุนครั้งนี้จึงเป็นการสะท้อนภาพความมุ่งมั่นของกลุ่มซีไอเอ็มบีที่มีต่อการลงทุนในประเทศไทยที่ถือเป็นยุทธศาสตร์หลักและเป็นตลาดหลักของกลุ่มซีไอเอ็มบี ตามเป้าหมายของการเป็นธนาคารชั้นนำในอาเซียน” นายสุภัค กล่าว