นางสาววิมลกานต์ โกสุมาศ รองผู้อำนวยการ รักษาการแทนผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (สสว.) เปิดเผยว่า สสว. ได้ดำเนินโครงการสนับสนุนเครือข่าย SME ใน 18 กลุ่มจังหวัด ภายใต้ยุทธศาสตร์การส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมระยะเร่งด่วน ปี 2558 โดยมีจุดมุ่งหมายเพื่อเสริมสร้างและพัฒนาศักยภาพของเครือข่าย SME (Cluster) และส่งเสริมการเชื่อมโยงธุรกิจของผู้ประกอบการในลักษณะเครือข่าย เพื่อสนับสนุนและต่อยอดการดำเนินธุรกิจร่วมกัน ให้เป็นพลังขับเคลื่อนเศรษฐกิจที่สำคัญในพื้นที่
“ปัจจุบัน การรวมกลุ่มเป็นเครือข่ายพันธมิตรธุรกิจหรือ Cluster นับเป็นแนวทางสำคัญในการเพิ่มขีดความสามารถการแข่งขัน เพราะทำให้เกิดโอกาสในการสร้างความรู้จัก การแลกเปลี่ยนเรียนรู้ การพัฒนากิจกรรมระหว่าง SMEs ในอุตสาหกรรมและผู้เกี่ยวข้องทั้งในและนอกพื้นที่ สามารถต่อยอดเป็นสังคมหรือเครือข่ายที่มีพลังอำนาจในการต่อรอง และผลักดันให้ภาคธุรกิจเติบโตอย่างต่อเนื่องและยั่งยืน ซึ่งการดำเนินงานในครั้งนี้จึงเป็นการบูรณาการงานส่งเสริม SMEs อย่างเป็นรูปธรรม โดย สสว. ทำหน้าที่กำหนดยุทธศาสตร์ ขณะที่หน่วยร่วมดำเนินการจะเป็นกลไกขับเคลื่อนแผนงานสู่การปฏิบัติ” นางสาววิมลกานต์ กล่าว
การดำเนินงานจะเป็นการคัดเลือกกลุ่มเครือข่าย SME ที่มีศักยภาพทั่วประเทศ ทั้งในภาคการเกษตรแปรรูป ภาคอุตสาหกรรม ภาคการค้า และภาคบริการ ให้เข้าสู่กระบวนการพัฒนา โดยหน่วยร่วมดำเนินการจะทำหน้าที่เป็นเสมือนพี่เลี้ยงดูแลกลุ่ม Cluster ในแต่ละพื้นที่ตามความเชี่ยวชาญ เพื่อยกระดับความสามารถในการแข่งขัน ด้วยปัจจัยด้านผลิตภาพ และการคิดค้นนวัตกรรม การรวมกันเป็นกลุ่มของอุตสาหกรรม ทั้งผู้ผลิต ผู้เกี่ยวข้อง รวมถึงหน่วยงานภาครัฐและภาคเอกชน ในรูปแบบของกลุ่มวิสาหกิจ หรือ “คลัสเตอร์” (Cluster)
ซึ่งจะช่วยเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของธุรกิจให้สูงขึ้น
โดย สสว. ได้บูรณาการความร่วมมือกับหน่วยงานภายใต้สังกัดกระทรวงมหาดไทย กระทรวงอุตสาหกรรม กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี รวม 9 หน่วยงาน เพื่อเสริมสร้างและพัฒนาศักยภาพ SME รวม 54 เครือข่าย ประกอบด้วย สำนักงานปลัดกระทรวงมหาดไทย 18 เครือข่าย กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม17 เครือข่าย สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย 7 เครือข่าย กรมส่งเสริมการเกษตร 6 เครือข่าย สถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งประเทศไทย 2 เครือข่าย กรมการข้าว กรมประมง กรมปศุสัตว์ และกรมหม่อนไหม หน่วยงานละ1 เครือข่าย ตัวอย่างเช่น กรมหม่อนไหม จะดูแลกลุ่มอุตสาหกรรมไหมไทย ในพื้นที่กลุ่มภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนกลางและตอนล่าง 1 เพื่อพัฒนาศักยภาพและเครือข่ายกลุ่มผู้ผลิตไหมไทยแบบครบวงจร เป็นต้น
โดยแนวทางในการพัฒนากลุ่มเครือข่าย แบ่งเป็น 2 กิจกรรมหลัก คือ 1.การพัฒนาและเสริมสร้างความเข้มแข็งเครือข่าย ด้วยการจัดทำแผนพัฒนาและขับเคลื่อนผ่านกิจกรรมในการพัฒนาและเสริมสร้างความเข้มแข็งเครือข่าย อาทิ การสร้างระบบการบริหารงานเครือข่ายและสมาชิก การแลกเปลี่ยนและถ่ายทอดประสบการณ์ องค์ความรู้ การจัดกิจกรรมเชื่อมโยงระหว่างเครือข่ายในลักษณะ Supply Chain เป็นต้น 2.กิจกรรมพัฒนาศักยภาพเชิงธุรกิจของเครือข่าย อาทิ การพัฒนาและปรับปรุงระบบบริหารจัดการ โลจิสติกส์ การสร้างมูลค่าเพิ่มให้ผลิตภัณฑ์ โดยการนำเทคโนโลยี นวัตกรรม และงานวิจัยมาประยุกต์ใช้ การออกแบบผลิตภัณฑ์และบรรจุภัณฑ์ การจัดกิจกรรมส่งเสริมการตลาดเชิงรุก เพื่อเปิดโอกาสทางการตลาดให้กับกลุ่มเครือข่าย เป็นต้น
“ภายใต้การดำเนินโครงการนี้ เชื่อว่าจะช่วยพัฒนาศักยภาพเครือข่าย SME เพื่อเป็นพลังขับเคลื่อนเศรษฐกิจในพื้นที่ และก่อให้เกิดการเชื่อมโยงธุรกิจของผู้ประกอบการในลักษณะเครือข่าย ให้ได้รับการพัฒนาเพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันไม่น้อยกว่า 10,000 ราย สร้างโอกาสทางการตลาดรวมถึงมีการขยายตัวทางเศรษฐกิจไม่น้อยกว่า 1,000 ราย และสามารถลดต้นทุนในการดำเนินธุรกิจไม่น้อยกว่า 150 ล้านบาท” นางสาววิมลกานต์ กล่าว
นอกจากนี้ เพื่อเป็นการสร้างความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับการสร้างเครือข่าย แนวทางการส่งเสริมผู้ประกอบการ SMEs ให้เติบโตอย่างยั่งยืน ด้วยการยกระดับความสามารถในด้านการผลิต นวัตกรรม การเชื่อมโยงและพัฒนาเพื่อสนับสนุนและต่อยอดการดำเนินธุรกิจร่วมกัน รวมถึงบูรรณาการความร่วมมือกับผู้เกี่ยวข้อง เพื่อเสริมสร้างและพัฒนาศักยภาพเครือยข่าย SMEs ให้เป็นพลังขับเคลื่อนเศรษฐกิจในพื้นที่ และแลกเปลี่ยนมุมมองความคิดและแนวทางในการต่อยอดธุรกิจร่วมกันของผู้ประกอบการและเครือข่าย สสว. จึงกำหนดจะจัดงานสัมมนาภายใต้แนวคิด
“ด้วยเครือข่าย... SME เติบโตได้อย่างยั่งยืน” ในพื้นที่ 4 ภูมิภาคทั่วประเทศ โดยนำร่องจัดสัมมนาพื้นที่แรกที่ภาคใต้ จ.สุราษฎร์ธานี ในวันที่ 17 กันยายน 2558 และจะจัดที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคเหนือ และภาคกลาง ตามลำดับ สำหรับผู้สนใจเข้าร่วมสัมมนา สามารถติดต่อได้ที่โทร. 08-3823-9116 หรือติดตามข่าวสารได้ทาง facebook fanpage/เครือข่ายSMEใน18กลุ่มจังหวัด