ชาวไร่อ้อยสุโขทัยเฮ! หลังศาลปกครองสั่งกระทรวงอุตฯ เร่งออกใบอนุญาตย้ายโรงงานน้ำตาลไทยเอกลักษณ์

พุธ ๑๙ สิงหาคม ๒๐๑๕ ๑๖:๐๘
ถือเป็นกรณีตัวอย่างทางการปกครองอีกกรณีหนึ่ง เมื่อศาลปกครองกลางได้พิพากษาคดีที่บริษัท น้ำตาลไทยเอกลักษณ์ จำกัด เป็นผู้ฟ้องรัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม กรณีไม่นำเรื่องการขอย้ายโรงงานน้ำตาลไปตั้งที่อำเภอสวรรคโลก จังหวัดสุโขทัย และขยายกำลังผลิตโรงงานน้ำตาลเป็น 25,000 ตันอ้อยต่อวัน เสนอให้คณะรัฐมนตรีพิจารณา ถือเป็นการละเลยต่อหน้าที่ตามที่กฎหมายว่าด้วยการเสนอเรื่องและการประชุมคณะรัฐมนตรีกำหนดให้ต้องปฏิบัติ และพิพากษาให้ปลัดกระทรวงอุตสาหกรรมพิจารณาสั่งการเรื่องการออกใบอนุญาตย้ายโรงงานไทยเอกลักษณ์จากจังหวัดอุตรดิตถ์ไปจังหวัดสุโขทัยให้แก่ผู้ฟ้องคดีโดยเร็ว

นางดารัตน์ วิภาตะกลัส กรรมการบริหาร บริษัท น้ำตาลไทยเอกลักษณ์ จำกัด ได้เปิดเผยถึงกรณีที่ศาลปกครองกลางได้มีคำพิพากษาคดีหมายเลขดำที่ 589/2554 หมายเลขแดงที่ 1919/2558 ให้บริษัท น้ำตาลไทยเอกลักษณ์ ชนะคดีที่ได้ฟ้องว่ารัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรมละเลยต่อหน้าที่ตามที่กฎหมายว่าด้วยการเสนอเรื่องและการประชุมคณะรัฐมนตรีกำหนดให้ต้องปฏิบัติ เนื่องจากไม่นำเรื่องการขอย้ายโรงงานน้ำตาลไปตั้งที่อำเภอสวรรคโลก จังหวัดสุโขทัย และขยายกำลังผลิตโรงงานน้ำตาลเป็น 25,000 ตันอ้อยต่อวัน ของน้ำตาลไทยเอกลักษณ์ เสนอให้คณะรัฐมนตรีพิจารณา

ทั้งนี้ คำพิพากษาของศาลระบุว่า "เมื่อผู้ฟ้องคดี (บริษัท น้ำตาลไทยเอกลักษณ์ จำกัด) ได้มีหนังสือร้องขอให้ผู้ถูกฟ้องคดีที่ 1 (รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม) เสนอเรื่องการขออนุญาตย้ายโรงงานน้ำตาลและขยายกำลังการผลิตของโรงงานน้ำตาลของผู้ฟ้องคดีให้คณะรัฐมนตรีพิจารณาแล้ว ผู้ถูกฟ้องคดีที่ 1 จึงมีหน้าที่ในการเสนอคำขอของผู้ฟ้องคดีต่อคณะรัฐมนตรีเพื่อพิจารณาอนุมัติต่อไป ทั้งนี้ ตามนัยมาตรา 4 วรรคหนึ่ง (9) และมาตรา 6 แห่งพระราชกฤษฎีกา ว่าด้วยการเสนอเรื่องและการประชุมคณะรัฐมนตรี พ.ศ. 2548 สำหรับข้ออ้างต่างๆ ของผู้ถูกฟ้องคดีที่ 1 ที่ปฎิเสธไม่เสนอคำขอของผู้ฟ้องคดีให้คณะรัฐมนตรีพิจารณานั้น เห็นว่า เป็นข้ออ้างที่ไม่มีเหตุผลที่จะรับฟังได้แต่อย่างใด"

จึงพิพากษาให้ผู้ถูกฟ้องคดีที่ 2 (ปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม) พิจารณาสั่งการเรื่องการออกใบอนุญาตย้ายโรงงานน้ำตาลไทยเอกลักษณ์จากจังหวัดอุตรดิตถ์ไปยังจังหวัดสุโขทัย และขยายกำลังการผลิตของโรงงานน้ำตาลดังกล่าวจากอัตรา 18,000 ตันอ้อยต่อวัน เป็น 25,000 ตันอ้อยต่อวัน ตามหลักเกณฑ์และวิธีการที่บัญญัติไว้ในกฎหมายว่าด้วยโรงงาน ให้แก่ผู้ฟ้องคดีโดยเร็วต่อไป

นางดารัตน์ กล่าวว่า โรงงานน้ำตาลไทยเอกลักษณ์ ตั้งอยู่ในตำบลคุ้งตะเภา อำเภอเมืองอุตรดิตถ์ จังหวัดอุตรดิตถ์ ตั้งแต่ปี 2517 โดยได้รับอนุญาตหีบอ้อย 18,000 ตันต่อวัน เป็นคู่สัญญากับเกษตรกรผู้ปลูกอ้อยในจังหวัดอุตรดิตถ์และสุโขทัยจำนวนกว่า 3,700 ราย??อย่างไรก็ตาม แหล่งอ้อยส่วนใหญ่กว่า 70% อยู่ในจังหวัดสุโขทัย ทางโรงงานจึงได้รับการเรียกร้องจากชาวไร่อ้อยในจังหวัดสุโขทัยให้ย้ายโรงงานไปอยู่ในแหล่งอ้อย เพื่อลดค่าใช้จ่ายในการบรรทุกอ้อยและขนส่งอ้อยไปยังจังหวัดอุตรดิตถ์ คิดเป็นเงินปีละประมาณ 100 ล้านบาท นอกจากนั้น ยังทำให้ชาวไร่อ้อยปลอดภัยในการเดินทาง ถนนหนทางก็จะไม่ต้องชำรุดจากการขนส่งอ้อยอีกด้วย ซึ่งทางโรงงานก็ได้ไปลงทุนซื้อที่ดินและเตรียมการทุกอย่างเพื่อย้ายโรงงานตามที่ชาวไร่อ้อยร้องขอ แต่กลับไม่ได้รับความเป็นธรรมจากกระทรวงอุตสาหกรรม จึงได้เกิดการฟ้องร้องดังกล่าวขึ้นมา

ด้านนายสุชัย ลิ้มสมมติ นายกสมาคมชาวไร่อ้อยลูกพระยาพิชัย และประธานสหสมาคมชาวไร่อ้อยแห่งประเทศไทย กล่าวว่า กลุ่มเกษตรกรชาวไร่อ้อยรู้สึกยินดีกับคำพิพากษาของศาลปกครองกลางดังกล่าว เนื่องจากได้เคลื่อนไหวเพื่อให้ภาครัฐได้รับทราบความเดือดร้อนกรณีการขนส่งอ้อยในเขตจังหวัดสุโขทัยไปยังโรงงานน้ำตาลไทยเอกลักษณ์ จังหวัดอุตรดิตถ์ มาโดยตลอด และโรงงานน้ำตาลไทยเอกลักษณ์ ก็ได้ทำเรื่องขอย้ายสถานที่ตั้งโรงงานมาอยู่ในจังหวัดสุโขทัย มาตั้งแต่ปี 2550 แล้ว และเคยได้รับการเสนอให้ผ่านการพิจารณาในที่ประชุม ครม. ถึง 2 ครั้ง ในช่วงเดือนกรกฎาคม-สิงหาคม 2552 และเดือนพฤษภาคม 2553 แต่ก็ถูกถอนเรื่องออกมา และไม่ได้มีการเสนอกลับเข้าสู่ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีตามที่ควรจะเป็น

"ที่เห็นความผิดปกติได้ชัดที่สุดก็คือ เมื่อวันที่ 24 กรกฎาคม 2552 รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรมในสมัยนั้นได้มีหนังสือถึงเลขาธิการคณะรัฐมนตรี เพื่อให้นำเรื่องเสนอคณะรัฐมนตรี เห็นชอบให้บริษัท น้ำตาลไทยเอกลักษณ์ ย้ายสถานที่ตั้งโรงงาน จากจังหวัดอุตรดิตถ์ ไปตั้งใหม่ที่ อำเภอสวรรคโลก จังหวัดสุโขทัย โดยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรมระบุว่า กระทรวงอุตสาหกรรมได้แต่งตั้งคณะทำงานพิจารณาความเหมาะสมในการย้ายสถานที่ตั้ง ซึ่งคณะทำงานฯ เห็นว่า ในการขออนุญาตย้ายสถานที่ตั้งหรือขยายกำลังการผลิตของโรงงานน้ำตาลดังกล่าว จะเป็นประโยชน์ต่อชาวไร่อ้อยโดยตรง แต่ปรากฎว่าในวันที่ 27 สิงหาคม 2552 รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรมกลับมีหนังสือด่วนที่สุดถึงเลขาธิการคณะรัฐมนตรีเพื่อขอถอนเฉพาะเรื่องของบริษัทน้ำตาลไทยเอกลักษณ์ ออกจากการพิจารณาของคณะรัฐมนตรี" นายสุชัยกล่าว

นายสุชัย กล่าวด้วยว่า หากโรงงานน้ำตาลไทยเอกลักษณ์ได้ย้ายไปตั้งที่สุโขทัย จะได้ใกล้ชิดกับชาวไร่อ้อยคู่สัญญามากขึ้น เพราะกว่า 70% ของชาวไร่อ้อยคู่สัญญาของไทยเอกลักษณ์ ซึ่งล้วนแต่เป็นสมาชิกของสมาคมชาวไร่อ้อยลูกพระยาพิชัย หรือกว่า 3,000 ครอบครัว มีพื้นที่ปลูกอ้อยอยู่ในเขตจังหวัดสุโขทัย ดังนั้น หากโรงงานน้ำตาลย้ายไปอยู่ในแหล่งอ้อย ก็จะสามารถส่งเสริมและพัฒนาการผลิตอ้อยได้ดียิ่งขึ้น สามารถเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตน้ำตาลให้สูงขึ้นโดยการนำเครื่องจักรเทคโนโลยีใหม่ๆ ที่มีประสิทธิภาพสูงขึ้นมาใช้ ทำให้มีอ้อยเพิ่มมากขึ้นโดยที่ไม่ต้องขยายพื้นที่ปลูกอ้อย ส่งผลดีต่ออุตสาหกรรมอ้อยและน้ำตาลทราย และกระตุ้นเศรษฐกิจในภูมิภาคและประเทศในภาพรวม อีกทั้งจะช่วยลดต้นทุนค่าขนส่งของชาวไร่อ้อยได้ถึงปีละประมาณ 100 ล้านบาท และที่สำคัญทำให้เกิดความปลอดภัยในการเดินทางของชาวไร่อ้อย

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๑๖:๕๐ รีเลชั่นชิพรีพับบลิค แนะกลยุทธ์สำคัญ นำพาธุรกิจร้านอาหารสู่ความสำเร็จ มัดใจลูกค้าให้อยู่หมัด
๑๖:๑๔ ชมนวัตกรรมสุดล้ำในงาน METALEX 2024 หลายแบรนด์แกะกล่องเครื่องจักรครั้งแรกในงานนี้
๑๖:๑๓ Bangkok Illustration Fair 2024 สู่การเติบโตก้าวใหญ่ในปีที่ 4
๑๖:๑๐ ผลการจัดอันดับขีดความสามารถในการแข่งขันด้านดิจิทัลโดย IMD ประจำปี 2567 TMA เผยไทยครองอันดับ 37 ในการจัดอันดับด้านดิจิทัลปีนี้
๑๖:๕๒ โก โฮลเซลล์ จัดเต็มสินค้า ส่งสุข สุดอร่อย เฉลิมฉลองเทศกาลส่งท้ายปี เข้มกระเช้าปีใหม่ดีมีมาตรฐาน พร้อมชู อาหารแช่แข็ง-อาหารสด
๒๒ พ.ย. กทม. จับมือสถานทูตเนเธอร์แลนด์ ประจำประเทศไทย จัดประชุมเชิงปฏิบัติการ ACTIVE Workshop เมืองเดินเท้า และจักรยานสัญจร ครั้งที่
๒๒ พ.ย. สัมผัสความหรูหราของวิลล่าริมทะเล VEYLA NATAI RESIDENCES ผ่านประสบการณ์เหนือระดับในงาน SOUL of VEYLA
๒๒ พ.ย. 'แอสเซทไวส์' จับมือ 'สยามกีฬา' เปิดศึกลูกหนังยุวชนทัวร์นาเมนต์ใหญ่แห่งปี AssetWise Siamkeela Cup 2024-25 ต่อเนื่องเป็นปีที่
๒๒ พ.ย. โรงแรมเรเนซองส์ เปิดตัว R FINDS แพลตฟอร์มดิจิทัลระดับโลก ที่จะเชื่อมมนต์เสน่ห์ชุมชนท้องถิ่นสู่นักเดินทางทั่วโลก
๒๒ พ.ย. electric.neon.lamp หยิบเพลงฮิต แม้ ใส่ฟีลดนตรีเหงาปนเศร้าในแบบ Piano Version