สถาบันฯสิ่งทอ จัดกิจกรรมปิดโครงการแฟชั่นมุสลิม ระยะที่ 3 ลั่นเตรียมต่อยอดผลสำเร็จหลังกระแสตอบรับดีในตลาดอาเซียน

ศุกร์ ๑๑ กันยายน ๒๐๑๕ ๐๙:๔๓
สถาบันสิ่งทอฯ โชว์ผลสำเร็จโครงการฯ ส่งนายแบบนางแบบ 30 ชีวิต ขึ้นเวทีแสดงแบบคอลเลคชั่นล่าสุด ภายใต้แนวคิด "Co-Design" ปลื้ม 4 กิจกรรมหลักยกระดับการพัฒนาความสามารถของผู้ประกอบการให้ทัดเทียมระดับสากลและพร้อมก้าวสู่ตลาดแฟชั่นอาเซียนได้อย่างมีศักยภาพ

นางสุทธินีย์ พู่ผกา ผู้อำนวยการสถาบันพัฒนาอุตสาหกรรมสิ่งทอ เปิดเผยว่า สำหรับปี 2558 สถาบันพัฒนาอุตสาหกรรมสิ่งทอยังคงเดินหน้าสานต่อโครงการพัฒนาผลิตภัณฑ์สิ่งทอและเครื่องแต่งกายมุสลิมในจังหวัดชายแดนภาคใต้ ระยะที่ 3 ภายใต้ยุทธศาสตร์การเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันให้กับอุตสาหกรรมสิ่งทอและเครื่องแต่งกายมุสลิมในพื้นที่ 5 จังหวัดชายแดนภาคใต้ คือ สงขลา ยะลา ปัตตานี สตูล และนราธิวาส ซึ่งได้รับการสนับสนุนงบประมาณจากสำนักงานปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม ตั้งเป้าเพิ่มมูลค่าผลิตภัณฑ์สิ่งทอและเครื่องแต่งกายมุสลิม โดยการพัฒนาองค์ความรู้ทั้งด้านการออกแบบ พัฒนาผลิตภัณฑ์ บรรจุภัณฑ์ และด้านเทคโนโลยี รวมถึงการขยายช่องทางและโอกาสทางการตลาดในภูมิภาคอาเซียน นอกจากนี้ยังยกระดับการพัฒนาแฟชั่นมุสลิมในคอนเซ็ปต์ สวย ดี มีคุณภาพ สู่สากล ภายใต้แนวคิด "Co-Design" หลอมรวมความหลากหลายทางวัฒนธรรมในภูมิภาคอาเซียนเข้าด้วยกัน โดยสรุปผลการดำเนินงาน 4 กิจกรรมหลัก ประกอบไปด้วย

กิจกรรม 1 การพัฒนาผลิตภัณฑ์สิ่งทอและเครื่องแต่งกายมุสลิมสู่เชิงพาณิชย์

ยกระดับการต่อยอดแบรนด์ LAWA@THTI โดยดึงนักออกแบบชื่อดังของ 3 ประเทศในภูมิภาคอาเซียนคือ คุณวิชระวิชญ์ อัครสันติสุข นักออกแบบไทยที่ไปคว้ารางวัลชนะเลิศ Mango Fashion Awards 2012 จากประเทศสเปน , Mr.Eric Choong นักออกแบบชาวมาเลเซีย และ Mr.Oka Diputra นักออกแบบชาวอินโดนีเซีย ร่วมสร้างสรรค์และออกแบบผลิตภัณฑ์ LAWA ในคอนเซ็ปต์ทั้ง 3 ธีม คือ Exotic orchid rain forest / Light & Shadow และ Graphic architecture water color รวมพัฒนาผลิตภัณฑ์กว่า 30 คอลเลคชั่น ขึ้นแสดงแฟชั่นโชว์ในงาน Thailand Week 2015 ณ เมืองจาการ์ต้า ประเทศอินโดนีเซีย ตอกย้ำแบรนด์ LAWA@THTI ให้เป็นที่รู้จักของตลาดมากยิ่งขึ้น พร้อมนำกลุ่มผู้ประกอบการเข้าร่วมงานแสดงสินค้าเพื่อขยายฐานลูกค้าสู่อาเซียน รวมทั้งพัฒนาช่องทางการจำหน่ายผลิตภัณฑ์ผ่านทางเว็บไซต์ http://shop.muslim-thti.org ให้มีความเข้มข้นมากขึ้น โดยผลิตภัณฑ์ดังกล่าวได้รับกระแสตอบรับดีมาก

กิจกรรมที่ 2 การถ่ายทอดองค์ความรู้ด้านเทคโนโลยี

มุ่งเน้นสร้างความแตกต่างและเพิ่มคุณค่าใหม่ ให้กับผลิตภัณฑ์สิ่งทอและเครื่องแต่งกายมุสลิม ด้วยการนำอัตลักษณ์ทางวัฒนธรรม มาออกแบบสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์ คือ พัฒนาผลิตภัณฑ์สิ่งทอและเครื่องแต่งกายมุสลิมจากผ้าบาติกด้วยเทคโนโลยีสีธรรมชาติและการเขียนลายด้วย "หัวบอน" วัสดุที่มีมากในท้องถิ่น รวมทั้งการใช้เส้นใยธรรมชาติในผ้าทอพื้นเมือง เกิดองค์ความรู้แก่ผู้ประกอบการ และสร้างมูลค่าเพิ่มด้วยผลิตภัณฑ์ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม รวมพัฒนาผลิตภัณฑ์กว่า 25 รายการ ทั้งเคหะสิ่งทอ และผลิตภัณฑ์เครื่องแต่งกาย อาทิ ผ้าม่าน ผ้าปูโต๊ะ ชุดเครื่องแต่งกาย ที่ได้รับแรงบันดาลใจจาก เรือกอและ , สถาปัตยกรรมของจังหวัดสตูล และเกาะหินงาม เป็นต้น โดยใช้ครั่ง คราม ผลลูกเนียง ใบหูกวาง ใบราชพฤกษ์ สีธรรมชาติจากท้องถิ่นในการวาดลวดลาย สร้างความเป็นอัตลักษณ์ โดดเด่น เข้าสู่ตลาดอาเซียนและตลาดสากล

กิจกรรมที่ 3 การถ่ายทอดองค์ความรู้ด้านมาตรฐานผลิตภัณฑ์และการตรวจสอบคุณภาพผลิตภัณฑ์

ถ่ายทอดองค์ความรู้ด้านมาตรฐานการผลิตและการตรวจสอบผลิตภัณฑ์ให้แก่ผู้ประกอบการในพื้นที่ 5 จังหวัดชายแดนภาคใต้ (สงขลา สตูล ปัตตานี ยะลา และนราธิวาส) โดยมุ่งเน้นการเสริมสร้างทักษะการฝึกภาคปฏิบัติ เรื่อง Size Specification และการสร้าง Pattern ผลิตภัณฑ์เสื้อผ้าสำเร็จรูปเบื้องต้น เพื่อให้ผู้ประกอบการนำไปใช้พัฒนาและควบคุมรูปแบบของผลิตภัณฑ์ให้มีรูปทรงสวยงาม มีความเหมาะสมกับสัดส่วนของผู้บริโภคในแถบภูมิภาคอาเซียน รวมกว่า 100 คน พร้อมทำการตรวจสอบผลิตภัณฑ์ที่ผ่านการพัฒนาแล้วจากโครงการฯ เพื่อให้ผู้ประกอบการมีความรู้ ความเข้าใจในกระบวนการตรวจสอบและควบคุมคุณภาพการผลิตให้เป็นไปตามมาตรฐานสากล และสามารถแข่งขันได้ทั้งตลาดภายในประเทศและตลาดต่างประเทศ โดยผู้ประกอบการที่เข้าฝึกอบรมมากกว่า 90 % มีความพึงพอใจในการได้รับองค์ความรู้ดังกล่าว

กิจกรรม 4 การจัดทำฐานข้อมูลและติดตามประเมินผล

กิจกรรมนี้มุ่งเน้นการจัดทำฐานข้อมูลโครงสร้างอุตสาหกรรมสิ่งทอเครื่องแต่งกายมุสลิมและผ้าพื้นเมืองในพื้นที่ 5 จังหวัดชายแดนภาคใต้ตามห่วงโซ่อุปทาน (Supply chain) และห่วงโซ่คุณค่า (Value Chain) ซึ่งจะเป็นการศึกษาตั้งแต่กระบวนการจัดหาแหล่งวัตถุดิบ การผลิต และการจัดจำหน่ายสินค้า ตลอดจนองค์ประกอบของกิจกรรมหลักและกิจกรรมสนับสนุนตามห่วงโซ่คุณค่าของอุตสาหกรรม เพื่อเผยแพร่ให้ผู้ประกอบการและหน่วยงานภาครัฐที่เกี่ยวข้องได้รับทราบ ตลอดจนติดตามประเมินผลการดำเนินโครงการพัฒนาผลิตภัณฑ์สิ่งทอและเครื่องแต่งกายมุสลิมในจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ระยะที่ 3) เพื่อประเมินผลกระทบความสำคัญของอุตสาหกรรมสิ่งทอและเครื่องนุ่งห่มต่อการสร้างงานสร้างรายได้ และคุณภาพชีวิตของคนในพื้นที่

จากการติดตามและประเมินผลเมื่อได้ดำเนินงานโครงการพบว่า ก่อให้เกิดความสามัคคีความเข้มแข็งของคนในชุมชนและองค์กร เนื่องจากสมาชิกกลุ่มได้มีการเข้ารับการฝึกอบรมเสริมสร้างความรู้ด้านต่างๆ สามารถพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่มีรูปแบบหลากหลาย มีคุณภาพเป็นที่ต้องการของตลาด นอกจากนั้นยังเกิดการถ่ายทอดองค์ความรู้ เกิดการติดต่อเชื่อมโยงระหว่างกลุ่ม โดยในปีที่ผ่านมา ผู้เข้าร่วมโครงการมองว่าผลจากการเข้าร่วมโครงการทำให้สามารถเพิ่มรายได้ให้กับชุมชนและ เป็นอาชีพเสริมให้มีรายได้เพิ่มขึ้นเฉลี่ยร้อยละ 15-20 ต่อเดือน

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ โครงการพัฒนาผลิตภัณฑ์สิ่งทอและเครื่องแต่งกายมุสลิมฯ ได้ที่ สถาบันพัฒนาอุตสาหกรรมสิ่งทอ ซอยตรีมิตร ถนนพระราม 4 พระโขนง คลองเตย กรุงเทพฯ โทรศัพท์ 0 2713 5492 – 9 ต่อ 400 หรือเข้าไปที่ www.muslim-thti.org

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๒๒ พ.ย. รีเลชั่นชิพรีพับบลิค แนะกลยุทธ์สำคัญ นำพาธุรกิจร้านอาหารสู่ความสำเร็จ มัดใจลูกค้าให้อยู่หมัด
๒๒ พ.ย. ชมนวัตกรรมสุดล้ำในงาน METALEX 2024 หลายแบรนด์แกะกล่องเครื่องจักรครั้งแรกในงานนี้
๒๒ พ.ย. Bangkok Illustration Fair 2024 สู่การเติบโตก้าวใหญ่ในปีที่ 4
๒๒ พ.ย. ผลการจัดอันดับขีดความสามารถในการแข่งขันด้านดิจิทัลโดย IMD ประจำปี 2567 TMA เผยไทยครองอันดับ 37 ในการจัดอันดับด้านดิจิทัลปีนี้
๒๒ พ.ย. โก โฮลเซลล์ จัดเต็มสินค้า ส่งสุข สุดอร่อย เฉลิมฉลองเทศกาลส่งท้ายปี เข้มกระเช้าปีใหม่ดีมีมาตรฐาน พร้อมชู อาหารแช่แข็ง-อาหารสด
๒๒ พ.ย. กทม. จับมือสถานทูตเนเธอร์แลนด์ ประจำประเทศไทย จัดประชุมเชิงปฏิบัติการ ACTIVE Workshop เมืองเดินเท้า และจักรยานสัญจร ครั้งที่
๒๒ พ.ย. สัมผัสความหรูหราของวิลล่าริมทะเล VEYLA NATAI RESIDENCES ผ่านประสบการณ์เหนือระดับในงาน SOUL of VEYLA
๒๒ พ.ย. 'แอสเซทไวส์' จับมือ 'สยามกีฬา' เปิดศึกลูกหนังยุวชนทัวร์นาเมนต์ใหญ่แห่งปี AssetWise Siamkeela Cup 2024-25 ต่อเนื่องเป็นปีที่
๒๒ พ.ย. โรงแรมเรเนซองส์ เปิดตัว R FINDS แพลตฟอร์มดิจิทัลระดับโลก ที่จะเชื่อมมนต์เสน่ห์ชุมชนท้องถิ่นสู่นักเดินทางทั่วโลก
๒๒ พ.ย. electric.neon.lamp หยิบเพลงฮิต แม้ ใส่ฟีลดนตรีเหงาปนเศร้าในแบบ Piano Version