คืนนี้สหรัฐไม่มีการเปิดเผยตัวเลขเศรษฐกิจที่สำคัญ
แนวโน้มราคาทองคำคาดแกว่งตัวในกรอบ 1,115-1,130 ดอลลาร์
- ราคาทองคำเมื่อวานยังคงแกว่งตัวในกรอบแคบระหว่าง 1,118-1,126 ดอลลาร์/ออนซ์ ในช่วงกลางวันทองคำได้รับปัจจัยหนุนจากความวิตกกังวลเศรษฐกิจจีน และเงินดอลลาร์สหรัฐที่อ่อนค่าลง โดยในช่วงเช้าเมื่อวานจีนเปิดเผยการส่งออกเดือนส.ค.ลดลง 6.1% เทียบรายปี หลังจากลดลง 8.9% ในเดือนก.ค. ทำให้เกิดแรงเทขายหุ้น อย่างไรก็ดีมีการคาดการณ์ว่าทางการจีนจะออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติม ทำให้มีแรงซื้อกลับเช้ามาในตลาดหุ้นและมีแรงเทขายทองคำออกมา
- เงินดอลลาร์อ่อนค่าลงจากตัวเลขเกินดุลการค้าของเยอรมนีเดือนก.ค.เพิ่มขึ้นแตะ 2.5 หมื่นล้านยูโร ซึ่งเป็นระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ ขณะเดียวกัน สำนักงานสถิติแห่งสหภาพยุโรปทำการปรับเพิ่มตัวเลขการขยายตัวทางเศรษฐกิจของยูโรโซนในช่วงครึ่งปีแรก โดยปรับเพิ่มขึ้นอีก 0.1% สำหรับไตรมาส 1 และไตรมาส 2 สู่ระดับ 0.5% และ 0.4% ตามลำดับ
- วันนี้ไม่มีการเปิดเผยตัวเลขเศรษฐกิจที่สำคัญจากประเทศต่างๆ รวมทั้งสหรัฐด้วย ทำให้ราคาทองคำระยะสั้นจะเคลื่อนไหวตามกรอบแนวรับแนวต้านของปัจจัยทางด้านเทคนิคเป็นหลัก สัปดาห์นี้จะมีการเปิดเผยตัวเลขเศรษฐกิจของจีนที่อาจมีผลกระทบต่อตลาดหุ้นและทองคำ ในกรณีที่ตัวเลขเศรษฐกิจของจีนออกมาส่งสัญญาณถึงการชะลอตัวลงของเศรษฐกิจจีน โดยวันพรุ่งนี้จีนจะเปิดเผยอัตราเงินเฟ้อเดือนส.ค. และในวันอาทิตย์จีนจะเปิดเผยการผลิตภาคอุตสาหกรรม การลงทุนในสินทรัพย์ถาวรและยอดค้าปลีกเดือนส.ค.
- แนวโน้มราคาทองคำคาดแกว่งตัวในกรอบ 1,115-1,130 ดอลลาร์/ออนซ์ โดยคาดว่านักลงทุนจะมุ่งความสนใจไปที่การประชุมเฟดในสัปดาห์หน้าเป็นหลักว่าเฟดจะตัดสินใจปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยหรือไม่ โดยระยะสั้นมีแนวรับที่ 1,115 และ 1,100 ดอลลาร์/ออนซ์ ตามลำดับ ขณะที่มีแนวต้านที่ 1,130 และ 1,145 ดอลลาร์/ออนซ์ ตามลำดับ