ภายในงาน นายชนินทธ์ได้กล่าวถึงประวัติความเป็นมาของดุสิตเกี่ยวกับท่านผู้หญิงชนัตถ์ ปิยะอุย ซึ่งเป็นมารดาของนายชนินทธ์และเป็นผู้ก่อตั้งเครือโรงแรมดุสิต ว่าท่านผู้หญิงชนัตถ์เดินทางกลับจากประเทศสหรัฐอเมริกาในปี 2490 พร้อมด้วยปณิธานที่มุ่งมั่น ในการบุกเบิกและสร้างโรงแรมระดับโลกให้มีความทัดเทียมกับโรงแรมในต่างประเทศที่ท่านเคยได้สัมผัส แต่ยังคงไว้ซึ่งกลิ่นอายและเอกลักษณ์ความเป็นไทยอย่างแท้จริง นอกจากนี้ยังกล่าวถึงความเชื่อมโยงของดุสิตกับประเทศญี่ปุ่นเมื่อ พ.ศ. 2503 ระหว่างที่ท่านผู้หญิงชนัตถ์ได้เข้าพักที่โรงแรมโอกุระ ที่เมืองโตเกียว และได้รับการแนะนำให้รู้จักกับ นายอิวาจิโร โนดะ ประธานของโรงแรมในเครือโอกุระ ซึ่งต่อมานายอิวาจิโร ได้แนะนำการออกแบบโรงแรมใหม่ของเธอที่นำไปสู่การเปิดตัวของโรงแรมดุสิตธานีกรุงเทพฯ ในปี 2513 ซึ่งเป็นตึกที่สูงที่สุดในช่วงเวลานั้น และยังเป็นที่รู้จักอย่างแพร่หลายในแง่ของการบริการที่เป็นมาตรฐานสากลแต่ยังคงไว้ซึ่งเอกลักษณ์ความเป็นไทย
ไฮไลท์ของงานคือการแนะนำ ดุสิตธานีกวมรีสอร์ท โรงแรมหรูบนเกาะกวมแก่สื่อมวลชนญี่ปุ่น ดุสิตธานีกวมรีสอร์ทเปิดให้บริการช่วงปลายเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา และได้รับการตอบรับที่ดีเยี่ยมจากลูกค้าที่เข้าพัก โดยเฉพาะลูกค้าจากญี่ปุ่นซึ่งเป็นตลาดขาเข้าที่ใหญ่ที่สุดของเกาะกวม นอกจากนี้ยังมีการแนะนำโรงแรมดุสิตธานี มัลดีฟส์ รีสอร์ทหรูล้อมรอบด้วยหาดทรายขาว ทะเลสีฟ้าคราม และทัศนียภาพ 360 องศาของแนวปะการังที่โอบล้อมเกาะมุดดูห์ อีกทั้งยังเป็นพื้นที่ที่ได้รับการประกาศจากองค์กรยูเนสโกให้เป็นเขตสงวนชีวมณฑลแห่งแรกของโลก ซึ่งล่าสุดดุสิตธานีมัลดีฟส์ ได้รับรางวัล The World's Best Hotels จาก Conde Nast Traveller, Middle East
นายชนินทธ์ โทณวณิก กรรมการผู้จัดการและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กล่าวว่า "ญี่ปุ่นเป็นตลาดหลักอันดับสองของดุสิต เรารู้สึกว่าเป็นเวลาที่ดีที่ได้มาพบกับสื่อมวลชนและลูกค้า เพื่อแสดงความขอบคุณสำหรับการสนับสนุนที่ดีเสมอมา พร้อมตอกย้ำการรับรู้แบรนด์ดุสิตและแนะนำโรงแรมดุสิตธานีกวมรีสอร์ท ที่มีญี่ปุ่นเป็นตลาดขาเข้าที่ใหญ่ที่สุด เนื่องจากญี่ปุ่นเป็นตลาดที่สำคัญของดุสิต เราจึงจัดตั้งศูนย์ดูแลลูกค้าญี่ปุ่นที่กรุงเทพฯ สำนักงานใหญ่ตั้งแตปี 2545 และยังมีสำนักงานย่อยที่เมืองโตเกียว เพื่อรองรับลูกค้าตลาดญี่ปุ่นโดยเฉพาะ"
ดุสิต อินเตอร์เนชั่นแนล สั่งสมประสบการณ์ที่ยาวนานในธุรกิจโรงแรมมากว่า 65 ปี ปัจจุบันมีโรงแรมและรีสอร์ทในเครือทั้งหมด 26 แห่ง ประกอบด้วย 4 แบรนด์ คือ ดุสิตธานี ดุสิตดีทู ดุสิตปริ๊นเซส และดุสิตเดวาราณา พร้อมโรงแรมที่อยู่ในแผนการพัฒนาและกำลังจะเปิดให้บริการรวมกว่า 40 แห่ง ในประเทศ สิงคโปร์ ภูฏาน ออสเตรเลีย เวียดนาม เมืองเซบูประเทศฟิลิปปินส์ เซียงไฮ้ แอฟริกาใต้ และโอมาน ดุสิตได้มีการขยายตัวอย่างต่อเนื่องและจะเพิ่มขนาดของธุรกิจกว่าเท่าตัวภายในสองถึงสามปีข้างหน้า นอกจากนี้ยังได้ให้ความสำคัญกับการวางรากฐานในด้านการศึกษา โดยได้ก่อตั้งวิทยาลัยดุสิตธานีเมื่อปี 2536 รวมถึงการร่วมมือกับสถาบันในต่างประเทศ เช่น อีโคล โฮเตลลิเยร์ เดอ โลซาน เพื่อสร้างมาตรฐานการศึกษาให้ทัดเทียมกับต่างประเทศ พร้อมร่วมกับสถาบันสอนทำอาหารเลอกอร์ดองเบลอ ประเทศฝรั่งเศส เพื่อก่อตั้งสถาบันสอนทำอาหาร ซึ่งได้รับความนิยมอย่างมาก และยังได้ขยายธุรกิจด้านการศึกษาในระดับโรงเรียน โดยจะเปิดโรงเรียนดุสิตธานีการโรงแรมภายในเดือนกันยายนนี้