นายญาณกร วรากุลรักษ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท โพลาริส แคปปิตัล จำกัด (มหาชน) (POLAR) เปิดเผยว่า คณะกรรมการของบริษัทมีมติอนุมัติการเสนอขายหุ้นเพิ่มทุนให้กับผู้ถือหุ้นเดิม (RO) จำนวน 42,574,758,600 หุ้น มูลค่าหุ้นที่ตราไว้ (พาร์) หุ้นละ 30 บาท โดยการออก TSR ให้กับผู้ถือหุ้นเดิม ซึ่ง TSR มีอัตราการแปลงสภาพคือ TSR 1 หน่วย แปลงเป็นหุ้นสามัญได้ 1 หุ้นในราคาหุ้นละ 0.039 บาท โดยในภายหลังทางบริษัทจะดำเนินการนำ TSR ดังกล่าวเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์เพื่อให้ผู้ถือหุ้นสามารถขายและโอนสิทธิ์ในแบบใบแสดงสิทธิในการซื้อหุ้นเพิ่มทุนที่โอนสิทธิได้ (TSR) ทั้งนี้ ทางบริษัทได้เลือกวิธีระดมทุนดังกล่าวนี้ก็เพื่อให้ทางเลือกกับผู้ถือหุ้นเดิมของบริษัทในการที่จะตัดสินใจในการจองซื้อหุ้นเพิ่มทุนของบริษัทหรือไม่ ถ้าไม่ต้องการผู้ถือหุ้นก็สามารถขายสิทธิจองซื้อดังกล่าวผ่านตลาดหลักทรัพย์ได้ก็จะได้รับเงินจากการขาย TSR ดังกล่าวมาชดเชยผลของ Dilution ที่เกิดจากการเพิ่มทุนนี้ ในทางกลับกันหากผู้ถือหุ้นต้องการจองซื้อมากกว่าสัดส่วนที่ตนเองได้รับหรือนักลงทุนอื่นๆ ที่ต้องการจองซื้อหุ้นเพิ่มทุนก็สามารถเข้าไปซื้อสิทธิ TSR ได้เช่นกัน ซึ่งทางบริษัทคิดว่า เครื่องมือดังกล่าวมีความเหมาะสมในการออกในช่วงนี้ สำหรับการกำหนดราคา บริษัทได้คำนวณราคาตลาดหลัง Dilution มาประกอบการพิจารณาในการออกและเสนอขาย ซึ่งทางบริษัทคาดว่าผู้ถือหุ้นที่จองซื้อจะได้รับส่วนต่างหรือ Capital Gain ประมาณ 25-30% ซึ่งคาดว่าผลตอบแทนดังกล่าวน่าจะจูงใจให้ผู้ถือหุ้นหรือนักลงทุนตัดสินใจจองซื้อ
สำหรับวัตถุประสงค์ในการใช้เงินจากการเพิ่มทุนหลักในครั้งนี้จะแบ่งใช้ดังนี้ ได้แก่
1.ใช้เพื่อพัฒนาโครงการที่พังงา โดยวางแผนที่จะพัฒนาโครงการเฟสที่ 1 เป็นบ้านพักอากาศขนาดใหญ่ในรูปแบบ Pool Villa จำนวน 80 ยูนิต มูลค่าการก่อสร้างในเฟสนี้ประมาณ 1,500 ล้านบาทโดยโครงการดังกล่าวนี้อยู่บริเวณเขาหลัก ปัจจุบันอยู่ระหว่างการออกแบบ จะมี Master plan ออกมาภายในไม่เกิน 3 เดือนนี้ และเริ่มลงทุนก่อสร้างในปี 2559 โดยมีลูกค้าทั้งไทยและต่างชาติให้ความสนใจจำนวนมาก
2.เพื่อใช้พัฒนาโครงการร่วมทุนผ่านบริษัทร่วมทุน Glory ACME Limited (GA) เพื่อลงทุนดำเนินธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ในโครงการอสังหาริมทรัพย์ ประกอบด้วยโครงการที่อยู่อาศัยบนถนนเชอร์วูด (The Sherwood) กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษซึ่งคาดว่าจะแล้วเสร็จประมาณต้นปี 2560 ทั้งนี้บริษัทมีแผนที่จะเปิดตัวโครงกา ร The Sherwood อย่างเป็นทางการในเดือนพ.ย. - ธ.ค. 2558 นี้ และจะขายได้หมดภายในปี 2560 ทั้งนี้บริษัทยังมีโอกาสจะได้รับกำไรพิเศษจากอัตราแลกเปลี่ยนจากค่าเงินปอนด์ที่แข็งค่าเพิ่มขึ้นและกำไรจากการขายเป็นมูลค่าสูงขึ้น โดยมูลค่าโครงการนี้อยู่ที่ 130 ล้านปอนด์ หรือ 7,300 ล้านบาท ปัจจุบันมีลูกค้าหลากหลายประเทศแสดงความสนใจติดต่อมามากมายในโครงการดังกล่าว
อย่างไรก็ดีบริษัทถือว่าได้รับความไว้วางใจและความน่าเชื่อถืออย่างมากจากบริษัท The Crown Estate หรือสำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ ประเทศอังกฤษ เพราะเป็นเรื่องยากและละเอียดอ่อนมากในการให้สิทธิ์การถือครองที่ดินกับบริษัทเพื่อดำเนินโครงการ และ POLAR ถือเป็นกลุ่มทุนจากประเทศไทยกลุ่มแรกที่ได้สิทธิ์ถือครองที่ดินเป็นระยะเวลา 145 ปี
3.ใช้พัฒนาโครงการในปะเทศและเป็นทุนหมุนเวียนรองรับแผนการขยายการลงทุนและพัฒนาโครงการใหม่ๆ ต่อไป
"การเพิ่มทุนครั้งนี้มีความจำเป็นและบริษัทคำนึงถึงประโยชน์ของผู้ถือหุ้นเป็นหลักเพราะหลังจากการเพิ่มทุนบริษัทจะมีศักยภาพในการลงทุนในโครงการอสังหาริมทรัพย์ตามที่ได้ประกาศไว้และมั่นใจว่าทั้ง 3 โครงการนี้จะสร้างผลตอบแทนที่ดีให้กับผู้ถือหุ้นได้อย่างแน่นอน" นายญาณกร กล่าว